รายการ ผู้หญิงคนเก่ง ออกอากาศทุกคืนวันอาทิตย์ เวลา 17.00น.-17.30น.
ทาง Nation Channel
ผู้ดำเนินรายการ : วิจิตรา ดวงดี
LAST UPDATE : JUNE 13, 2014 05:00 A.M. ATLANTIC TIME
สามแสนล้าน !
มหาเศรษฐีทุ่มบุญสร้างพระใหญ่ชัยภูมิ
ถูกข้อหาปั่นแชร์หมุนเงิน
กรรมการดาหน้าออกมาแถตามสูตร
ประกาศนโยบาย เงินมาจากไหน-อย่าไปสนใจ
ให้สนใจแต่ "เอามาให้เรา" เท่านั้นก็พอ
อีกไม่นานก็รู้ หมู่หรือจ่า ศาสนา อิฐ ดิน หิน ทราย และความงมงายแบบนี้ก่อนหน้านั้นท่านเรียกว่า "ผีบุญ" แต่ภายหลังชาวอีสานเรียกว่า "เณรคำ" ก็ไม่น่าเชื่อว่า พระพุทธศาสนาบนดินแดนอีสานจะตกต่ำย่ำแย่ถึงเพียงนี้ ก่อนหน้านี้แห่ไปไหว้เณรคำ วันนี้ร่วงหนักถึงกับไว้ "ไอ้อาจารย์บ้าบอ" ที่อ้างว่าปฏิบัติธรรมทั้งผ้าขาว ไม่ยอมบวชพระ แต่อุตริสร้างพระใหญ่ที่สุดในโลก แถมมีคนบ้าบุญทุ่มเงินให้ถึงสามแสนล้าน ถ้าเป็นจริงก็ยิ่งกว่าควาย !
มูลนิธิพระใหญ่ยันไม่มีแชร์ลูกโซ่ฟอกเงิน พร้อมแจงที่มาทุกโครงการตรวจสอบได้ พระอาจารย์เปี๊ยกปฏิบัติภารกิจตามปกติ
ความคืบหน้าหลังผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ พร้อมผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ พบข่าวแพร่สะพัดไปทั่วโลกออนไลน์ และมีผู้แจ้งเบาะแสให้ช่วยตรวจสอบ กรณีผู้มีจิตศรัทธราเตรียมนำเงินร่วมบริจาคสร้างโครงการพระใหญ่ที่สุดในโลก ให้กับมูลนิธิพระใหญ่ที่ จ.ชัยภูมิ รวมมูลค่าเงินทั้งโครงการสูงกว่า 3.2 แสนล้านบาท และมีการตรวจพบมีกลุ่มคนที่อาจจะเข้ามาแอบอ้างหากินเป็นขบวนการแชร์ลูกโซ่บนกองบุญครั้งนี้ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ข่าว : คมชัดลึก |
LAST UPDATE : JUNE 10, 2014 06:00 P.M. ATLANTIC TIME
ยกฟ้องประยุทธ จันทร์โอชา
ข้อหาทำปฏิวัติรัฐประหารปล้นอำนาจประชาชน ศาลอาญาชี้แจงสี่เบี้ยผู้ฟ้องไม่ใช่ผู้เสียหายโดยตรง แต่ผู้เสียหายโดยตรงก็คือ รัฐ ?
อืม..โอ้ ! ศาลอาญาท่านคงจะรอให้มีคนตายเป็นเบือก่อนมั๊ง ถึงค่อยวินิจฉัยว่ามีคนเสียหายเพราะการทำรัฐประหาร การพิพากษาแบบนี้ถือว่าเป็นบรรทัดฐานของศาลในกาลข้างหน้า แบบว่า คนไทย 70 ล้านคน ไม่มีสิทธิ์ฟ้องผู้ทำการปฏิวัติยึดอำนาจจากประชาชน และล้มล้างรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดปกครองประเทศ ตามมาตราที่68 ได้เลยแม้แต่คนเดียว ความจริงถ้าศาลวินิจฉัยว่า "ศาลกลัวลูกปืน จึงไม่กล้าวินิจฉัยว่าคณะปฏิวัติผิด" แบบนี้จะน่าฟังกว่าเสียอีก ถามว่า ถ้าเป็นเช่นนั้น จะร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมาปกครองประเทศให้เสียเวลาทำไมไม่ทราบ ก็ประกาศให้คณะปฏิวัติปกครองประเทศอย่างถาวรไปเลยไม่ดีกว่าหรือ หรือไม่ก็ประกาศตั้ง "พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา" เป็นเจ้าชีวิตของคนไทยไปเลยสิ !
ศาลอาญาไม่รับฟ้อง ′ฉลาด′ ฟ้อง ′ประยุทธ์′ กับพวก รวม 27 คน ผิดฐานกบฏ ชี้ไม่ใช่ผู้เสียหายโดยตรง
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 10 มิถุนายน ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เรืออากาศตรีฉลาด วรฉัตร เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผบ.สส. , พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผบ.ทร. , พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผบ.ทอ. , พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว อดีต ผบ.ตร. , พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รองผบ.ทบ. , พล.อ.จิระ โกมุทพงศ์ เจ้ากรมพระธรรมนูญ , นายธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี , พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก ปลัดกระทรวงกลาโหม พร้อมพวกปลัดกระทรวงต่างๆ รวม 27 คน เป็นจำเลยที่ 1-27 ในความผิดฐานกบฏ เป็นผู้สนับสนุนกระทำความผิด และดูหมิ่นอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112,113,83 และ 86
โดย เรืออากาศตรีฉลาด ระบุว่าการประกาศกฎอัยการศึก ประเทศต้องอยู่ในภาวะสงคราม หรือเกิดเหตุการณ์ความรุนแรง ซึ่งประเทศไทยปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยจึงใช้ระบบอื่นมาปกครองไม่ได้ ถือว่าเป็นการล้มล้างการปกครอง จึงต้องมาฟ้องร้องดำเนินคดี แต่หากภายหลัง ที่ยื่นฟ้องแล้วทาง คสช. จะเรียกให้ไปรายงานตัว ก็จะไม่ไปตามหมายเรียก แต่จะไม่หลบหนี หาก คสช. จะจับกุม ก็ให้ไปจับตนที่หน้ารัฐสภา
อย่างไรก็ตาม เรืออากาศตรีฉลาด ได้ทำการอดอาหารประท้วงบริเวณหน้ารัฐสภา มาแล้วเป็นเวลา 19 วัน และที่ผ่านมา มีแพทย์มาตรวจร่างกาย 2 ครั้ง โดย เรืออากาศตรีฉลาด ยืนยันว่า จะอดอาหารไปจนกว่า จะมีการกำหนดวันเลือกตั้ง ที่ชัดเจน แต่หากประเทศยังไม่มีนายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้ง ก็ขออดอาหารไปจนกว่าจะสิ้นชีวิต
นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเรืออากาศตรีฉลาดมีท่าทางที่อิดโรยและหมดแรงซึ่งมีผู้ติดตามคอยพยุงเวลาเดิน และตลอดเวลาที่ให้สัมภาษณ์เรืออากาศตรีฉลาดได้ขอนั่งบริเวณบันไดศาล แทนการยืนให้สัมภาษณ์
ต่อมาเวลา 15.00 น. ศาลอาญามีคำสั่งไม่รับฟ้อง โดยศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า โจทก์บรรยายฟ้องว่าเมื่อระหว่างวันที่ 20 พฤษภาคม 2557 จนถึงวันฟ้องต่อเนื่องกัน ตามคำฟ้องแสดงให้เห็นว่า การเริ่มต้นแห่งการกระทำความผิด ได้เกิดขึ้นก่อนที่ คสช.จะเข้ามาควบคุมอำนาจในการปกครองประเทศ คดีจึงอยู่ในอำนาจของศาลยุติธรรม แม้มีการกระทำความต่อเนื่องกันมา หลังจากนั้นก็ไม่ทำให้คดีนี้ไม่อยู่ในอำนาจการพิจารณาพิพากษาของศาลยุติธรรม
ดังนั้นศาลอาญาจึงมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีนี้ แต่เมื่อความผิดตามฟ้องเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ถือได้ว่าเป็นความผิดต่อรัฐโดยตรง รัฐเท่านั้นเป็นผู้เสียหายที่มีอำนาจดำเนินคดีแก่ผู้กระทำความผิด แม้โจทก์จะอ้างว่าได้รับความเสียหายในการใช้ชีวิตอย่างปกติสุขว่าด้วยสิทธิและเสรีภาพ แต่โจทก์ไม่ใช่ผู้เสียหาย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2 (4) ดังนั้นโจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องในคดีนี้ ตาม ป. วิ อาญา มาตรา 28 ให้ยกฟ้อง
ข่าว : มติชน |
LAST UPDATE : JUNE 07, 2014 06:00 P.M. ATLANTIC TIME
|
ก้าวข้ามความขัดแย้ง !
วิทยานิพนธ์ของว่าที่ ดร.เจ๊หน่อย
ระบุชัด "สื่อนอกระบบ-ตัวการทำลาย" ประชาธิปไตย อยากให้มีประชาธิปไตยสมบูรณ์ต้อง "ควบคุมสื่อ" ซึ่งปรากฏว่า ตรงกับนโยบาย ของ คสช. และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ราวกับว่าคนเขียนนโยบายของ คสช. และคนทำวิทยานิพนธ์ของเจ๊หน่อยเป็นคนเดียวกัน แหมอะไรจะขนาดนั้น เหมือนกันได้ไง ในเมื่อเจ๊ลงทะเบียนเรียน ป.เอก มจร. มาสองปีแล้ว ส่วน คสช. เพิ่งจะปฏิวัติได้ไม่ถึงเดือนเอง ไม่เกรงคนครหาว่าเป็น "วิทยานิพนธ์เฉพาะกิจ-วิทยานิพนธ์ฉบับเพื่อชาติ หรือฉบับ คสช." (คืนความสุขให้ประชาชน) ดอกหรือเจ๊ วิทยานิพนธ์เล่มนี้ถือว่ามีปัญหา แรกนั้นอ้างว่า "เป็นวิทยานิพนธ์ทางธรรม" แต่ลงท้ายกลายเป็น"วิทยานิพนธ์ทางการเมือง" ขนาด "ดร.วิษณุ เครืองาม" กรรมการควบคุมวิทยานิพนธ์ ก็ยังหักหน้าว่า "เน้นการเมืองมากกว่าธรรมะ" ก็เป็นเรื่องที่ต้องพิจารณากันต่อไป ถ้าหากว่าทาง สภามหาวิทยาลัย มจร. พิจารณาให้ผ่าน ก็คงต้องมอบปริญญาดุษฎีบัณฑิตให้แก่ พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. อีกใบหนึ่งด้วย ในฐานะที่นำเอาเนื้อหาในวิทยานิพนธ์เล่มนี้ไปปฏิบัติอย่างเป็นมรรคเป็นผล ตั้งแต่เจ๊หน่อยยังเรียนไม่จบ
เจ๊หน่อย สุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ทำวิทยานิพนธ์ส่งมหาวิทยาลัยสงฆ์ มจร. แต่เนื้อในเป็นเรื่องการเมืองล้วนๆ
เจ๊หน่อยเสนอวิทยานิพนธ์ "ก้าวข้ามความขัดแย้งฯ" แนะตั้ง "สภาธรรมาธิปไตย" วิษณุเป็นกก.สอบด้วย
วันที่ 7 มิ.ย. คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานสถาบันสร้างอนาคตไทย กล่าวในการเสวนาวิชาการ เรื่อง "ก้าวข้ามความขัดแย้งด้วยธรรม ด้วยหลักคุณธรรม 4 ประการ" โดยเป็นการนำเสนอวิทยานิพนธ์ปริญญาเอก ตามหลักสูตรพุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาพระพุทธศาสนา บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย ตอนหนึ่งว่า วิทยานิพนธ์ฉบับนี้มีเนื้อหาถึงช่วงมีปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองในช่วง 9 ปีที่ผ่านมา โดยได้นำหลักธรรมคุณธรรม 4 ประการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงพระราชทานในวโรกาสที่เสด็จออกพระสีหบัญชร ณ พระที่นั่งอนันตสมาคม เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2549 ประกอบด้วย
1.ให้ทุกคนคิดพูดทำด้วยความเมตตา มุ่งดี มุ่งเจริญ ต่อกายต่อใจต่อกัน
2. การที่แต่ละคนช่วยเหลือเกื้อกูลกันประสานงาน ประสานประโยชน์กัน ให้งานที่ทำสำเร็จผล ทั้งแก่ตน แก่ผู้อื่น และแก่ประเทศชาติ
3. ทุกคนประพฤติปฏิบัติตนสุจริตในกฎกติกา และในระเบียบแบบแผนโดยเท่าเทียมกันเสมอกัน
4.การที่ต่างคนต่างพยายามทำคามคิดความเห็นของตนให้ถูกต้องเที่ยงตรงและมั่นคงอยู่ในเหตุในผล หากความคิดจิตใจ และการประพฤติปฏิบัติที่ลงรอยเดียวกันในทางที่ดี ที่เจริญนี้ ยังพร้อมมูลในกายในใจคนไทย ก็มั่นใจว่าประเทศชาติจะดำรงอยู่ต่อไปได้
ซึ่งหลักดังกล่าวไม่มีองค์กรใดนำมาปฏิบัติ จึงใช้โอกาสนี้มาศึกษาวิจัย เพื่อนำคุณธรรมทั้ง 4 ประการ มาปรับใช้กับการแก้ไขปัญหาบ้านเมืองให้เป็นรูปธรรมในเชิงปฏิบัติ วิกฤตปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองจึงได้ยืดเยื้อและขยายตัวเพิ่มมากขึ้น สืบเนื่องมาปัจจุบัน
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า 82 ปี ของประชาธิปไตยไทย มีการรัฐประหาร 11 ครั้ง สำเร็จ 10 ครั้ง มีนองเลือด 4 ครั้ง เปลี่ยนรัฐธรรมนูญ 18 ฉบับ ทั้งนี้ในระยะ 9 ปี ที่ผ่านมามีทั้งวิกฤตเศรษฐกิจและวิกฤตทางการเมืองอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันสังคมไทยเกิดความแตกแยกส่วนหนึ่งมาจากสื่อมวลชน ที่ไม่ใช่สื่อหลัก นั่นคือสื่อออนไลน์ที่มีการเผยแพร่อย่างรวดเร็วและบางบริบทนำเสนอความเท็จ ถือเป็นวจีทุจริต สร้างความขัดแย้งเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้โครงสร้างของสังคมไทยเปลี่ยนไปแบบหยั่งรากลึกถึงเรื่องปัญหาของคุณธรรมศีลธรรมของสังคมไทย อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ความขัดแย้งทางการเมือง 9 ปีที่ผ่านมา เป็นความขัดแย้งของสองฝ่าย ทั้งฝ่ายแดงที่คิดว่าไม่ได้รับความเป็นจากการรัฐประหาร สองมาตรฐาน ฉีกรัฐธรรมนูญ อำนาจนอกระบบ มองเห็นเป็นวงจรอุบาศทางการเมือง ซึ่งฝ่ายนี้ต้องการสื่อให้มีประชาธิปไตยอย่างมีคุณภาพ ขณะที่ฝ่ายเหลืองมองว่าได้นักการเมืองที่ไม่มีคุณภาพ สะสมทุน ซื้อเสียงเลือกตั้ง ประชาธิปไตยไทยไม่เป็นธรรมาธิปไตย และเกิดความบกพร่องในโครงสร้างประชาธิปไตยไทย ซึ่งเป็นเรื่องที่ทั้งสองฝ่ายมองวงจรอุบาศกันคนละได้ อย่างไรก็ตามในตามแนวของพระพุทธเจ้าได้ใช้หลักธรรมาธิปไตยเรียกประชุมทุกฝ่าย ใช้เสียงข้างมากในการตัดสินเรื่องต่างๆ จึงไม่เกิดการทะเลาะกัน แต่การตัดสินใจต่างๆ ต้องเป็นผู้ที่มีปัญญาดี ซึ่งหากดูแล้วในทางการเมืองผู้ที่ตัดสินใจ จะประกอบด้วยนักการเมืองและประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ทั้งสองส่วนนี้ต้องใช้ปัญญาในการตัดสินใจ
คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า ประชาธิปไตยหากยึดแค่หลักสิทธิเสรีภาพและความเสมอภาค แต่ไม่ได้เอาโครงสร้างส่วนลึกของครอบครัวที่หล่อหลอมให้มีจริยธรรม การกล่อมเกลาทางจิตใจ จึงก่อให้เกิดประชาธิปไตยแยกส่วน เพราะต่างคนต่างคิดถึงสิทธิของตัวเอง ไม่ได้คำนึงถึงผู้อื่น จึงก่อให้เกิดปัญหาในประชาธิปไตยไทย
คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า หากใช้หลักธรรมของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในเรื่องของความเมตตา มุ่งดี และเจริญต่อกัน จะช่วยสร้างบรรยากาศสมานฉันท์ โดยการยุติการเผชิญหน้าของสองฝ่าย และยุติการใช้สื่อเทียมในการยุยง ซึ่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ดำเนินการแล้ว ที่สำคัญต้องดำเนินการตามหลักกฎหมายอย่างเสมอภาค ขณะเดียวกันหากทำให้ทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหากันพูดคุยกัน หรือสร้างกระบวนการที่เห็นต่าง ให้เป็นผู้ร่วมพัฒนาประชาธิปไตยไทย โดยสงวนจุดต่างเอาจุดร่วมมาพูดคุยกันแล้วให้เกิดมีสภาประชาชนที่จะให้ฟังความคิดเห็นต่างสองฝ่ายมาหล่อหลอมกันให้เป็น"สภาธรรมาธิปไตย" เอาธรรมะเป็นตัวตั้ง ให้ผู้เห็นต่างคิดร่วมกัน น่าจะเป็นหนทางก้าวสมานฉันท์ได้ จึงขอเสนอแนวทางดังกล่าวเป็นโรดแมป แก้ปัญหาความขัดแย้ง เพื่อนำไปสู่การเลือกตั้ง และสภาธรรมาธิปไตย ต้องอยู่ต่อเพื่อสร้างกระบวนการเรียนรู้ต่อไปในอนาคต โดยมีองค์กรไม่แสวงหาประโยขน์เข้ามาดูแล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นได้เปิดโอกาสให้ผู้ทรงคุณวุฒิได้วิพากษ์วิทยานิพนธ์ โดยนายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย คสช. ในฐานะกรรมการควบคุมวิทยานิพนธ์ กล่าวว่า วิทยานิพนธ์ที่ดำเนินการเป็นเรื่องของพระพุทธศาสนา ไม่ใช่รัฐศาสตร์ การเดินเรื่องตั้งแต่ต้นจนจบควรยึดกรอบพระพุทธศาสนา จึงขอให้อิงหลักทางศาสนามากกว่าทางการเมือง ดังนั้นเนื้อหาจึงยังไม่ชัดตามเค้าโครงเรื่อง
ข่าว : มติชน |
Mon, 2014-06-02 07:51
http://www.prachatai.com/journal/2014/06/53722
2 มิ.ย. ผู้ประท้วงและถูกคุมขังที่กองปราบ ณ วันที่ 2 มิ.ย. รวมทั้งสิ้น 10 ราย มาใหม่เมื่อคืนนี้ (1 มิ.ย.) 6 ราย
รายเก่า 4 ราย อย่างไรก็ดี รายที่เป็นชายถูกจับที่อนุสาวรีย์ชัยฯ ราว 18.00 น.วันที่ 28 พ.ค.
ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลวานนี้ (1 มิ.ย.) หลังจากมีอาการปวดท้องอย่างหนัก ไข้ขึ้นสูง และอาเจียน
9 รายที่เหลือประกอบด้วย หญิง 5 คน ชาย 4 คน
- รายแรก หญิงวัย 49 ปี อาชีพแม่บ้าน ชูป้ายที่อนุสาวรีย์ชัยฯ เมื่อ 29 พ.ค.
- หญิง 4 คน ถูกจับ 1 มิ.ย. ได้แก่ รายแรกคือคุณป้าวัย 70 ปีที่ใส่หน้ากาก people ย่านราชประสงค์ ,
รายที่สองคือหญิงวัยราว 40 ปีที่ถูกตำรวจนอกเครื่องแบบบังคับให้ขึ้นรถแท็กซี่สีชมพูบริเวณ terminal 21
รายที่สาม หญิงวัยราว 50 ปีใส่เสื้อสีฟ้า ทำกิจกรรมปิดตาและชู 3 นิ้วที่ terminal 21
อีกรายเป็นหญิงวัย 30 กว่าปี ไม่ทราบรายละเอียด
-ชาย 2 ราย ถูกจับ 1 มิ.ย. คนหนึ่งถูกจับที่บริเวณแยกอโศก อีกคนหนึ่งถูกจับบริเวณห้างฟอร์จูน
ภายหลังผู้คนที่ไปชุมนุมแยกย้ายกันกลับบ้าน
LAST UPDATE : MAY 31, 2014 08:00 P.M. PACIFIC TIME
วัดนวมินทรราชูทิศพร้อม
จัดประชุมใหญ่สมัชชาสงฆ์ไทยในสหรัฐอเมริกา
11-15 มิถุนายน ศกนี้
พิธียิ่งใหญ่ที่สุดในรอบ 50 ปี ของสมัชชาสงฆ์ไทยในสหรัฐอเมริกา
ใครไม่ไปก็เสียดายเด้อ
ถนนทุกสายมุ่งสู่วัดนวมินทร์
กดที่ภาพ เพื่อเข้าสู่เว็บไซต์ วัดนวมินทรราชูทิศ นครบอสตัน
| ||
ปูโผล่ !
โชว์ภาพกอดน้องไปป์บนเฟสบุ๊ค
ขอบคุณแฟนๆ
แต่..งดแสดงความเห็นทางการเมือง
เป็นเรื่องแปลกแต่จริง !
ตระกูลชินวางมือทางการเมืองแล้วหรือไร หรือว่า รอเลือกตั้งรอบใหม่ ในอีก 1 ปีข้างหน้า ?
ภาพ..วันวานยังหวานอยู่
กดที่ภาพเพือฟังเพลง "เจ็บนิดเดียว" ของนิตยา บุญสูงเนิน
ที่มา : เฟสบุ๊คยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
USG. ไม่รับรู้แผนบิ๊กตู่ !
บอกจะทำอะไรไม่สน สนก็แต่เลือกตั้ง
ดังนั้น ทหารต้องสละอำนาจให้ประชาชน
Right Now !
แปลว่า ทันที มิใช่ปีหน้า นะจ๊ะ
อ๊ะๆ..คืนได้ไง ถ้าคิดจะคืนจะยึดมาทำไม ปลดข้าราชการไปตั้งมากมาย เสียของหมดสิ จริงไหม บอกแล้วไงว่า ผมผูกเชือกรองเท้าแล้ว ต้องเดินหน้าต่อไปให้สุดหนทาง เว้นเสียแต่ว่าเชือกผูกรองเท้าจะขาด ถึงตอนนั้นก็ไม่รู้นะ เพราะผมก็มิใช่หมอดูจะได้รู้อนาคต บอกแล้วไงว่าให้ช่วยผมด้วย เพราะผมมิใช่เจ้าของประเทศ แต่เป็นผู้มีอำนาจสูงสุดในประเทศเท่านั้นเอง เอางี้สิฮะ รับไปก่อน แล้วค่อยแก้ไขภายหลัง เหมือนรัฐธรรมนูญ ปี 50 ถึงตอนนั้น ถ้าแก้ไข เราก็ใช้กำลังปฏิวัติอีก ตั้งข้อหา "เปลี่ยนแปลงการปกครองขัดกับหลักรัฐธรรมนูญ" เมื่อฉีกรัฐธรรมนูญทิ้งแล้ว ทหารก็จะร่าง รธน.ฉบับใหม่ ออกมาใช้ต่อไป และต่อไป เขียนรัฐธรรมนูญแบบนี้ ปฏิวัติทีไรได้รับดอกไม้ทุกที
สหรัฐ ไม่รับโรดแม็ป 15 เดือนของ คสช. จี้กองทัพเร่งจัดเลือกตั้ง
ที่มา : ข่าวสด
ปิดไฟใส่กลอน !
ออสเตรเลียห้ามประยุทธเข้าประเทศ
จนกว่าจะสละอำนาจให้ประชาชนเลือกตั้ง
อา..ถ้างั้นก็หมายถึงว่า ไม่ว่าจะเป็นหัวหน้าคณะปฏิวัติ (พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา) หรือหัวหน้ารัฐบาล (นายกรัฐมนตรี) รวมทั้งคณะรัฐมนตรี ที่มาจากการปฏิวัติในครั้งนี้ ถูกรัฐบาลออกเตรเลียคว่ำบาตรไปแล้ว 1 ราย เหลือบิ๊กๆ อีกไม่กี่ราย เช่น สหรัฐอเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมันนี จีน ญี่ปุ่น รัสเซีย อินเดีย เป็นต้น ถ้าส่งสัญญาณพร้อมๆ กัน ซัก 4-5 ประเทศ ก็ทำเอาแผนการฟื้นฟูเศรษฐกิจของ คสช. เพื่อช่วงชิงอำนาจประชานิยมจากทักษิณเป็นหมันนะสิฮะ แหมจะค้าจะขายมันเกี่ยวอะไรกับการเมือง และเอ้อ นี่ขนาดยังไม่ได้ปราบม็อบตายไปซักคนนะ พวกนานาชาติมันสุมหัวกันเล่นงานบิ๊กตู่ซะโอนเอน ถ้ามีรูปปราบม็อบไปโชว์ รับรองว่าบิ๊กตู่โดนรุมกินโต๊ะแน่ !
จริงหรือจ๊ะ ไม่อยากเชื่อหูเลย
แต่โทษเถิดครับ ผมผูกเชือกรองเท้าแล้ว ต้องออกเดินทันที ไม่มีหันหลัง
รัฐบาลออสเตรเลีย ออกแถลงลดระดับความสัมพันธ์กับผู้นำกองทัพ คสช.เร่งชี้แจง
เมื่อ 31 พ.ค. เว็บไซต์ "อย่างเป็นทางการ" ของกระทรวงการต่างประเทศออสเตรเลีย ออกแถลงการณ์ร่วมของรัฐมนตรีต่างประเทศ และรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม มีเนื้อหาระบุว่า รัฐบาลออสเตรเลียแสดงความไม่เห็นด้วยกับท่าทีของกองทัพไทยที่แทรกแซงการเมืองในประเทศ พร้อมประกาศลดความร่วมมือกับกองทัพไทย และลดระดับความสัมพันธ์กับผู้นำกองทัพไทย
พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก กล่าวถึงท่าทีของต่างประเทศ ว่า ขณะนี้ยังไม่เห็นเอกสารอย่างเป็นทางการของกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งข้อมูลที่ได้รับยังไม่ใช้ข้อมูลที่เป็นทางการเป็นเพียงข้อมูลผ่านสื่อเท่านั้น ทาง คสช.ยังไม่มั่นใจว่า ข้อมูลที่ออกมามีความน่าเชื่อถือแค่ไหน ซึ่งกระบวนการในขณะนี้ ทางคสช.และกระทรวงการต่างประเทศพยายามเร่งทำความเข้าใจ ซึ่งเท่าที่ได้ตามช่าวสารผ่านสื่อต่างๆก็ได้เห็นหลายแนวทางซึ่งมีทั้งเชิงบวกและลบ
ที่มา : มติชน
แก้ประวัติสังฆราช !
ส.ศิวลักษณ์วิพากษ์ประวัติอดีตพระสังฆราช
"ไม่มีมหาสา 18 ประโยค"
ส.ศิวลักษณ์ กูรูวงการพระ
อ้างพระบรมราชโองการ "ไม่มีมหาสา 18 ประโยค อย่างเป็นทางการ" มีแต่ประวัติบอกเล่า "กรรมการสอบเห็นเณรสาทำลับๆ ล่อๆ เลยโดนสั่งให้สอบใหม่" และสอบได้ 18 ประโยคจริงๆ แต่สอบได้ในตอนเป็นเณร มิใช่สึกแล้วกลับมาบวช-สอบใหม่ เหมือนใครต่อใครเล่า แถมท้า ใครมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ก็เอามายืนยัน จะถอนคำพูด
อุ๋ยตาย เรื่องใหญ่ในพงศาวดารกรุงศรีอยุธยาเชียวนะคะ เพราะว่า พระมหาสานั้น ถือว่าเป็นระดับซีเนียของธรรมยุต เพราะเป็นศิษย์ของพระภิกษุวชิรญาณ (สมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว) รุ่นแรก ที่ย้ายจากวัดราชาธิวาสไปอยู่วัดบวรนิเวศวิหาร ภายหลังได้เป็นถึงสมเด็จพระสังฆราช และประวัติเรื่องนี้ นักเรียนบาลีก็รู้กันทุกคน แต่จะรู้ลึกรู้จริงเหมือนอาจารย์ ส.ศิวลักษณ์เล่าหรือไม่ ก็ไม่มีใครทราบ เพราะไม่มีใครเอาไปออกข้อสอบ อย่างไรก็ตาม ตามที่อาจารย์ ส. เล่าให้ฟังนั้น มันก็น่าฟัง เพราะท่านอ้างพระบรมราชโองการว่า "ให้พระอาจารย์สา วัดบวรนิเวศวิหาร เป็นพระสาสนโสภณ ที่พระราชาคณะ" ถามว่า วัดบวรนิเวศวิหาร มีประวัติอย่างเป็นทางการไหม ??
ที่มา : เฟสบุ๊ค ส.ศิวลักษณ์
แก้ พรบ. คณะสงฆ์ !
ส.ศิวลักษณ์ จี้ "คสช." ต่อยอดภารกิจหลัก
อยากให้การเมืองมีคุณธรรม ต้องอย่าลืมวงการสงฆ์ เพราะพระสงฆ์คือผู้แสดงธรรม
ถ้าแสดงผิด ก็ผิดตั้งแต่ต้นธาตุต้นธรรม จะนำไป "สวรรค์" หรือ "นรก" ก็อยู่ที่พระสงฆ์
ดังกรณี "ธุดงค์บนกุหลาบ" ที่ผิดเพี้ยน
แก้ตรงนี้ไม่ได้ ก็อย่าหวังว่าจะไปถึงไหน
การจะปรับให้ระบบการศึกษาดีขึ้น รวมถึงการคณะสงฆ์ด้วย แต่เกรงว่าทัศนะดังกล่าว คงไม่อยู่ในสายตา ของคนที่มีอำนาจในบัดนี้
การรัฐประหารครั้งล่าสุด ณ วันที่ 24 พฤษภาคม 2557 นี้ ดูจะใช้บทเรียนจากความล้มเหลวของคราวที่แล้ว อย่างน่าทึ่ง เช่น
ที่มา : เฟสบุ๊ค ส.ศิวลักษณ์
เปิดหนังสือรายงานตัว !
พระนิติภูมิ อภินิติโก
ถึง..พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
เล่นสำนวนโดนใจแม้ว
"อาตมาหวังว่า คสช.จะยึดอำนาจไว้ไม่นาน"
มิน่า คสช. ถึงต้องการตัวทั้งผ้าเหลือง
พระนิติภูมิ อภินิติโก พระธรรมยุตหนึ่งเดียวที่ถูกคำสั่ง คสช. ให้รายงานตัว
ที่มา : ผู้จัดการ
ฮือฮา !
นิติภูมิ นวรัตน์ อดีต ส.ส. พรรคเพื่อไทย
ห่มเหลืองเข้ารายงานตัวต่อ คสช.
โชว์หนังสือสุทธิ ระบุชื่อพระอุปัชฌาย์
"สมเด็จพระวันรัต" วัดบวรนิเวศวิหาร เจ้าคณะใหญ่ธรรมยุติกนิกาย
สมเด็จพระวันรัต วัดบวรนิเวศวิหาร เจ้าคณะใหญ่ธรรมยุติกนิกาย พระอุปัชฌาย์ของพระนิติภูมิ นวรัตน์
อาตมา-พระนิติภูมิ อภินิติโก บวชก่อนเบียด เอ๊ย ก่อนปฏิวัติ นะจ๊ะ อย่าเข้าใจผิดว่าบวชการเมือง
'นิติภูมิ นวรัตน์' ห่มผ้าเหลืองเข้ารายงานตัว คสช. หอบเอกสารยืนยันหลักฐานการบวชตั้งแต่วันที่ 7 พ.ค. มาแสดง ขอทหารใช้เวลาไม่นานรักษาความสงบบ้านเมือง ด้าน 'โคทม-แกนนำแดง' ทยอยรายงานตัวคึกคัก
เมื่อวันที่ 30 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่หอประชุมกองทัพบก เทเวศร์ หลังจากที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีคำสั่งให้บุคคลมารายงานตัวเพิ่มเติมในวันนี้ จำนวน 45 คน ที่ห้องจามจุรี สโมสรทหารบก โดยแยกให้รายงานตัวในช่วงเช้าตั้งแต่เวลา10.00-12.00 น. ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแกนนำเสื้อแดงที่เคลื่อนไหวในพื้นที่ จ.นนทบุรีปทุมธานี ภาคเหนือและอีสานบางส่วน นักการเมืองท้องถิ่น นักจัดรายการวิทยุชุมชนสมาชิกสมาคมชาวปักษ์ใต้ อดีต ส.ส.นักวิชาการ ประกอบด้วย
1. น.ส.จิรนันท์ จันทวงษ์ แกนนำกลุ่ม 24 มิถุนา ประชาธิปไตย จังหวัดเชียงใหม่ 2. นายณัฐชัย อินทราย 3. นายเมธี หรือนายนิติธาดา เมธาสุข ดีเจเสื้อแดง จ.พะเยา 4. นายเจริญ ปัญญาวงศ์ 5. นายมหวรรณกะวัง แกนนำเสื้อแดงเชียงใหม่ และนายกสมาคมศิษย์เก่าโรงเรียนยุพราชวิทยาลัยรุ่น "บัวเกี๋ยง" ร่วมรุ่นกับน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี 6. น.ส.อุบลกาญจน์ อมรสิน ดีเจวิทยุชุมนุมเสื้อแดง จ.อุบลราชธานี 7. นายไพรัช สร้างถิ่น 8. นายชัชวาล กาญจนะหุต พิธีกรรายการทีวีเสื้อแดง 9. นายเฉลิมพล เจษฎางกูล ณ อยุธยา หรือผาสุข นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองลาดสวาย จ.ปทุมธานี 10. นายสมชาติ นาคบรรจง เสื้อแดงปทุมธานี และจัดวิทยุชุมชน 11. นายชาญไชยะ ดีเจวิทยุชุมชน กวป. 12. นายวุฒินันท์ ปราบนอก 13. น.ส.สกุล บางระมาด 14. นายไพรวรรณ์ สีน้ำอ้อม 15. นายประเทือง ภิญโญ 16. นายพงศ์พิศิษฐ์ คงเสนา หรือเล็กบ้านดอน แกนนำวิทยุ กวป. 17. นายอำนวย คลังผา อดีต ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย 18. นายสมนึก ธนเดชากุล นายกเทศมนตรีเทศบาลนครนนทบุรี 19. นายสมบูรณ์ สิมะแสงยาภรณ์ อดีตคนเดือนตุลาฯ อดีตที่ปรึกษา รมว.คมนาคม สมัยนายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย เป็น รมว.คมนาคม 20. นายโคทม อารียา ผอ.สำนักสันติวีธี ม.มหิดล 21. นายนิติภูมิ นวรัตน์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย 22. นายสมบัติ เฉลิมวุฒินันท์ 23. นายสุชัย พรชัยศักดิ์อุดม 24. น.ส.อภิรดี สุพรรณ 25. นายประเสริฐทองนุ่ม 26. นายสุนทร ลิ้มพิกุล ที่ปรึกษาชมรมทักษิณสัมพันธ์ 27. นายประวิทย์ ใจห้าว 28. นายอาน่า วิภูสมิธ กรรมการสมาคมชาวปักษ์ใต้ 29. นายณรงค์ แก้วพรพงษ์ 30. พ.ต.อ.(พิเศษ) พินิจ ไชยเสนีย์ สมาคมชาวปักษ์ใต้ 31. นายชัยมงคล เสน่หานายกสมาคมศิษย์เก่ารามคำแหง 32. นายอนุศักดิ์ อนุการ นายกสมาคมศิษย์เก่ารามคำแหง 33. นายสุวิชา พานิชผล อดีตกรรมการผู้จัดการบริษัท พลังงานบริสุทธ์ 34. น.ส.สายลม กาบบัวแดง 35. นายโยธิน ศรีจันทร์เทพ 36. นพ.สง่า คุณยศยิ่ง แกนนำ นปช.ปราจีนบุรี 37. ร.อ.ทองทศ มากสาคร อบจ.สระแก้ว และ นปช.สระแก้ว 38. นางมณีรัตน์ โกธันต์ ประธานนปช.สระแก้ว 39. นพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย 40. นายปิยะบุตร พรหมลักขโณ อดีตรองนายกฯ อบจ.ขอนแก่น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทั่งเวลา 11.15 น. นายโคทมได้เดินทางเข้ารายงานตัวตามคำสั่ง คสช. โดยมีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส พร้อมโบกทักทายสื่อมวลชนด้วย จากนั้นเวลา 11.40 น. ร.ต.อ.นิติภูมิ นวรัตน์ ได้เดินทางเข้ารายงานตัวด้วยพร้อมผู้ติดตาม ซึ่งได้สร้างความฮือฮาให้กับสื่อมวลชนที่ปักรอทำข่าวอย่างมาก เนื่องจาก ร.ต.อ.นิติภูมิได้บวชเป็นพระภิกษุ ฉายาว่า อภินิติโก โดยได้นำเอกสารรับรองการบรรพชาอุปสมบทของสมเด็จพระวันรัต เป็นพระอุปัชฌาย์ รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดวัดบวรนิเวศวิหารมอบต่อ คสช. เป็นการยืนยันการอุปสมบท พร้อมแจกจ่ายสำเนาเอกสารดังกล่าวให้กับสื่อมวลชนด้วย โดยหนังสือดังกล่าวชี้แจงว่า ได้ทำการบวชเมื่อวันที่7 พ.ค. ที่ผ่านมาก่อนที่ คสช.จะมีคำสั่งเรียกรายงานตัวเป็นเวลา 15 วัน ซึ่งในระหว่างนั้นได้เดินทางไปศึกษาพระปริยัติธรรมที่ประเทศอินเดีย และเนปาล และเดินทางกลับมาถึงเมื่อวันที่ 22 พ.ค. และได้จำวัดอยู่ที่วัดบวรฯ ตั้งแต่นั้นมา
ดังนั้น หากมีความจำเป็นที่ คสช. ต้องการสอบสวนก็จะขอให้ คสช. ส่งเจ้าหน้าที่มาสอบได้ที่วัดบวรนิเวศฯ อย่างไรก็ตาม หวังว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะหัวหน้า คสช. จะใช้เวลาไม่นานในการรักษาความสงบและแก้ไขปัญหาบ้านเมือง
ข่าว : เดลินิวส์ |