LAST UPDATE : JUNE 13, 2014 05:00 A.M. ATLANTIC TIME
สามแสนล้าน ! มหาเศรษฐีทุ่มบุญสร้างพระใหญ่ชัยภูมิ ถูกข้อหาปั่นแชร์หมุนเงิน กรรมการดาหน้าออกมาแถตามสูตร ประกาศนโยบาย เงินมาจากไหน-อย่าไปสนใจ ให้สนใจแต่ "เอามาให้เรา" เท่านั้นก็พอ อีกไม่นานก็รู้ หมู่หรือจ่า ศาสนา อิฐ ดิน หิน ทราย และความงมงายแบบนี้ก่อนหน้านั้นท่านเรียกว่า "ผีบุญ" แต่ภายหลังชาวอีสานเรียกว่า "เณรคำ" ก็ไม่น่าเชื่อว่า พระพุทธศาสนาบนดินแดนอีสานจะตกต่ำย่ำแย่ถึงเพียงนี้ ก่อนหน้านี้แห่ไปไหว้เณรคำ วันนี้ร่วงหนักถึงกับไว้ "ไอ้อาจารย์บ้าบอ" ที่อ้างว่าปฏิบัติธรรมทั้งผ้าขาว ไม่ยอมบวชพระ แต่อุตริสร้างพระใหญ่ที่สุดในโลก แถมมีคนบ้าบุญทุ่มเงินให้ถึงสามแสนล้าน ถ้าเป็นจริงก็ยิ่งกว่าควาย ! มูลนิธิพระใหญ่ยันไม่มีแชร์ลูกโซ่ฟอกเงิน พร้อมแจงที่มาทุกโครงการตรวจสอบได้ พระอาจารย์เปี๊ยกปฏิบัติภารกิจตามปกติ ความคืบหน้าหลังผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ พร้อมผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ พบข่าวแพร่สะพัดไปทั่วโลกออนไลน์ และมีผู้แจ้งเบาะแสให้ช่วยตรวจสอบ กรณีผู้มีจิตศรัทธราเตรียมนำเงินร่วมบริจาคสร้างโครงการพระใหญ่ที่สุดในโลก ให้กับมูลนิธิพระใหญ่ที่ จ.ชัยภูมิ รวมมูลค่าเงินทั้งโครงการสูงกว่า 3.2 แสนล้านบาท และมีการตรวจพบมีกลุ่มคนที่อาจจะเข้ามาแอบอ้างหากินเป็นขบวนการแชร์ลูกโซ่บนกองบุญครั้งนี้ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น ล่าสุดเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 13 มิ.ย. คณะกรรมการชุดใหญ่จากมูลนิธิพระใหญ่ชัยภูมิ นำโดย นายอนันต์ ปลื้มสุด ,นายวงษ์ชัย ชนะชัย,นายทองอิน เพียภูเขียว และคณะทนายความของมูลนิธิฯ ติดต่อประสานงานมาที่สื่อมวลชน เพื่อขอชี้แจงต่อกรณีที่เกิดขึ้นทั้งหมด เพื่อขอความเป็นธรรมต่อทุกกรณีข่าวที่เกิดขึ้นด้วย เปิดเผยว่า จากกรณีข่าวที่มีการกล่าวว่ามีขบวนการแชร์ลูกโซ่ใช้กองบุญก่อสร้างพระใหญ่ชัยภูมิหลายพันล้านบาทบังหน้านั้น เพื่อแลกกับผลกำไรใครลง 30,000 บาท ได้ 100,000 บาท หรือ 200,000 บาท ได้คืน 500,000 บาท นั้น ไม่เป็นความจริงเด็ดขาด ที่ผ่านมา ไม่ว่าเรื่องการเปิดให้บูชาพระนั้น ที่มีราคาองค์ละ 29,999 บาท ก็ไม่ได้มีการจำหน่ายมากมายขนาดไหน และไม่ได้บังคับใครอยากได้บูชาไปจ่ายมาคนละ 1,000 - 5,000 บาท ก็มีหรือใครอยากได้ไม่จ่ายเลยก็มี รวมทั้งการจัดหาทุนซื้อที่ดินก็ไม่ได้สูงมากตามที่เป็นข่าวเลย ซึ่งก็ด้วยผู้ใจบุญเขาตั้งราคาไว้สูงหลายแสนมูลนิธิก็พยายามต่อรองลงมาได้ไร่ละไม่เกิน 120,000 บาท ไม่ได้มีเงินทองมหาศาลไปถึง3-4 พันล้านขนาดนั้น และที่ผ่านมา การดำเนินการของโครงการก่อสร้างพระใหญ่ชัยภูมิ มาตั้งแต่ปี 2553 ที่ผ่านมาจนปัจจุบัน รวมมีเงินที่มาดำเนินการจัดซื้อที่ดินทั้งหมดเกือบ 300 ไร่ และก่อสร้างสิ่งต่างๆที่เห็นในพื้นที่ทั้งหมดในปัจจุบันก็มีมูลค่ารวมกว่า 300 ล้านบาทเท่านั้น ที่ยังเหลืออีกมากที่เป้าหมายโครงการพระใหญ่ชัยภูมิ จะสร้างเสร็จภายในปี 2561 ซึ่งอาจารย์เปี๊ยกตั้งไว้น่าจะแล้วเสร็จประมาณเกือบ 10,000 ล้านบาท "ที่เป็นการดำเนินการรวมเครือข่ายศูนย์ประสานงานลูกศิษย์ลูกหาของมูลนิธิพระใหญ่จากทั่วประเทศที่มีมากกว่า 250 แห่ง ช่วยกันดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2553 ศูนย์ไหนใครมีเงินบริจาคครั้งละ 4-5 พันก็ส่งมาให้โครงการต่อเนื่อง ที่ได้ไม่มากเลย จะมากสุดก็ครั้งละไม่เกิน 50,000-100,000 บาทเท่านั้น แต่เมื่อได้มาต่อเนื่องในส่วนกลุ่มคนที่ขาดเหลืออย่างวัด โรงเรียน โรงพยาบาล เกือบทั่วประเทศก็ขอความช่วยเหลือมาที่มูลนิธิพระใหญ่จำนวนมากด้วยเช่นกัน ทางอาจารย์เปี๊ยก ก็เห็นใจและแบ่งบางส่วนที่ได้มากลับไปช่วยเหลือควบคู่กันมาตลอดที่มีการช่วยบริจาคจากโครงการพระใหญ่ชัยภูมิไปช่วยสร้างวัด โรงเรียน และโรงพยาบาลที่ขาดแคลนมาแล้วเกือบทั่วประเทศประมาณไม่น้อยกว่า 2-3 พันล้านบาทด้วยเช่นกัน"นายอนันต์ กล่าว นายอนันต์ กล่าวอีกว่า จนปัจจุบันรวมเงินได้เพียงกว่า 300 ล้านบาทเท่านั้น ที่เข้ามาดำเนินการอยู่ในโครงการพระใหญ่ชัยภูมิ และยังเริ่มมีหนี้สินติดค่าก่อสร้างบัญชีติดลบเงินในมูลนิธิต้องยังเป็นหนี้ภายนอกอีกกว่า 10 ล้านบาท ส่วนกรณีที่มีนางวัลย์รัตน์ รัตนผล อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลข 38 ถ.เทศบาล 14 ต.เขาปูน อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ที่อ้างว่าตัวเองเป็นผู้ใจบุญและจะสามารถหาเงินจากองค์การค้าระหว่างประเทศ WTO กลุ่มธนาคารประเทศญี่ปุ่น และและกลุ่มธนาคารยุโรป ได้รายละกว่า 1 แสนล้านบาท รวมถึงเงินที่พร้อมจะนำมาช่วยบริจาคให้กับฆราวาสชื่อดังอาจารย์เปี๊ยกพระใหญ่ชัยภูมิในครั้งนี้ได้อีกกว่า 2 หมื่นล้านบาท เพื่อเก็บไว้ใช้ส่วนตัว ซึ่งรวมแล้วเป็นเงินรวมกว่า 320,000,000 ล้านบาท (สามแสนสองหมื่นล้านบาท) มาสมทบสร้างพระใหญ่ สูงที่สุดในโลกครั้งนี้ด้วยในไม่เกินสิ้นเดือน มิ.ย.นี้ได้นั้น นายอนันต์ กล่าวว่า ทางคณะกรรมการมูลนิธิฯก็คงปฏิเสธไม่ได้ หากมีผู้ใจบุญต้องการยื่นมือมาช่วยสานต่อโครงการให้เสร็จตามวัตถุประสงค์ มูลนิธิที่เราทำถูกต้องตามกฎหมาย และจะให้ไปตามคนมาบริจาคว่าจะเอาเงินมาจากไหนได้นั้นคงไม่เหมาะ ก็ต้องรอว่าถ้าเขาทำได้ก็ดีไป และที่ผ่านมาที่ผู้ใจบุญรายนี้มาอยู่ที่นี่หลายเดือน ก็ไม่เคยที่จะเรียกรับเงินทองจากใคร แต่ก็มีแต่จะกลับจะให้มากกว่าด้วย ก็ต้องให้โอกาสกันต่อไปและพร้อมให้ตรวจสอบได้อยู่แล้วทุกขั้นตอนของโครงการพระใหญ่ชัยภูมิ รวมทั้งกรณีที่มีข่าวว่า อาจารย์ทิพากร หรืออาจารย์เปี๊ยก ผู้ก่อตั้งมูลนิธิพระใหญ่ชัยภูมิ หลบหนีไปแล้วนั้น ไม่เป็นความจริงเด็ดขาด ขอให้ทุกคนให้ความเป็นธรรมในจุดนี้ด้วย ใครอยากพบอยากปฏิบัติธรรมก็มาพบได้ที่พระใหญ่ชัยภูมิ ก็ยังจะมีการปฏิบัติภารกิจร่วมปฏิบัติธรรมเปิดบุญร่วมกับญาติโยมผู้มีจิตศรัทธราในทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ตามปกติต่อไป เพื่อให้โครงการนี้เดินหน้าเป็นศูนย์ปฏิบัติธรรมตามโครงการพระใหญ่ที่สุดในโลกต่อไปด้วย ข่าว : คมชัดลึก 14 มิถุนายน 2557 |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น