วันจันทร์ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

‘ประยุทธ์’ รับพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าฯ หน.คสช. ลั่นเร่งปฏิรูปคืน ปชต. ลดขัดแย้ง ตอบไม่ชัดนั่งนายกฯเอง

 

 


 

LAST UPDATE : MAY 25, 2014  09:00 P.M.   PACIFIC TIME

 

 

 

 

 


 

 

 

วงแตก !

 

รับน้องใหม่บิ๊กตู่ในตำแหน่งหัวหน้า ครส.

 

นักข่าวรุมถาม

 

ท่านเป็นนายกฯเองเลยหรือเปล่า

เมื่อไหร่จะเลือกตั้ง ?

หนึ่งปี ปีครึ่ง สองปี ฯลฯ ?

 

บิ๊กตู่สู้ไม่ไหว เดินหนีไมค์เอาดื้อๆ

 

 

 

 

 

บิ๊กตู่แถลงข่าวครั้งแรก

 

 

 

 

 

 

กดที่ภาพเพื่อชมเทป

 

 

 

 

'ประยุทธ์' รับพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าฯ หน.คสช. ลั่นเร่งปฏิรูปคืน ปชต. ลดขัดแย้ง ตอบไม่ชัดนั่งนายกฯเอง

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 26 พ.ค. ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ถ.ราชดำเนิน พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รองผบ.ทบ. ในฐานะเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้เป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์ประจำวันแทน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ในฐานะหัวหน้า คสช. โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ซึ่งเป็นการประชุมร่วมระหว่างศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบกกับการประชุม คสช. เพื่อประเมินสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ในส่วนกองบัญชาการกองทัพบกสำรองที่จัดตั้งขึ้นภายในกรมทหารราบที่1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ (ร.1 รอ.) ที่จัดตั้งขึ้นในระหว่างที่มีการชุมนุมบริเวณด้านหน้า บก.ทบ. ถ.ราชดำเนินก็ได้ปิดตัวลง หลังจากที่มีการชุมนุมยุติ

สำหรับความเคลื่อนไหวของ ผบ.เหล่าทัพ ในฐานะคณะ คสช.  ในวันนี้ ทางพล.อ.ประยุทธ์ อยู่ระหว่างเตรียมตัวรับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ เป็นหัวหน้าคณะคสช.โดยมี พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผบ.สส. พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผบ.ทร. และ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผบ.ทอ. พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ในฐานะรองหัวหน้า คสช. เข้าร่วมพิธี ในเวลา 10.49 น. ที่ห้องรับรองพเศษชั้น 6 ภายในกองบัญชาการกองทัพบก ถ.ราชดำเนิน ท่ามกลางการดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวด  โดยห้ามไม่ให้สื่อมวลชนเข้าไปทำข่าวแต่อย่างใด ซึ่งเจ้าหน้าที่ทหารระบุว่าขอให้ติดตามความเคลื่อนไหวผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย 


ส่วนความเคลื่อนไหวที่อาคารพักนักกีฬากำลังเอก ภายในสโมสรทหารบก ถ.วิภาวดีรังสิต ซึ่งเป็นศูนย์ประสานงานสื่อมวลชนของ คสช. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศช่วงเช้าว่าเป็นไปด้วยความคึกคัก มีสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศเดินทางมาติดตามสถานการณ์ รวมถึงทยอยเข้ามาทำบัตรสื่อมวลชนของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) อย่างหนาแน่น เนื่องจากวันนี้เป็นวันสุดท้าย

เวลา 11.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ แถลงหลังได้รับโปรดเกล้าฯ เป็นหัวหน้า คสช. ว่า จะทำงานภายใต้พระบรมราชโองการฯ ขณะนี้ คสช. มีอำนาจเต็มในการบริหารราชการแผ่นดิน งานเร่งด่วนคือการรักษาความสงบเรียบร้อย โดยจะเลือกตั้งเมื่อสงบ เรื่องนายกฯชั่วคราวยังอยู่ในขั้นตอนดำเนินการ 

เราไม่ได้ต้องการอำนาจ แต่จำเป็นต้องทำเพื่อบ้านเมือง เพราะความขัดแย้งไม่สามารถหาข้อสรุปได้ ทั้งนี้ยังต้องเคอฟิว แต่หากมีเรื่องเร่งด่วนหรือต้องทำงานให้แจ้ง จนท. จะคุมเฉพาะเรื่องมั่นคง ขอให้ประชาชนเข้าใจเจตนารมณ์ของ คสช. ทั้งนี้จะใช้เวลาแก้ปัญหาโดยเร็วเราถอยหลังไปไม่ได้อีกแล้ว เมื่อประเทศชาติมาถึงทางตัน ขอให้สื่อมวลชนและภาคส่วนต่างๆ ร่วมกัน ไม่ขยายความขัดแย้ง

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า จะนำประเทศชาติให้ปลอดภัย นำทุกคนกลับสู่หลักกฎหมายเน้นปฏิรูปการเมือง ระบบราชการ การเข้าสู่อำนาจรัฐ การตรวจสอบอำนาจรัฐ

 

"ผมไม่ได้มาทะเลาะเบาะแว้งกับใคร ขอให้ช่วยผม อย่าติติงผม ขอให้อดทนเหมือนที่อดทนมาตลอด ผมถือว่าสถาบันอยู่เหนือความขัดแย้งทั้งปวง"

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า งานเร่งด่วนขณะนี้ คือ การแก้ไขความเดือดร้อนของประเทศ ที่มีอยู่มากมาย โดยขอให้สังคมอย่าเพิ่งออกมาเรียกร้องอะไรมากไปกว่าเดิม เพราะขณะนี้ ต้องคิดว่าทำอย่างไรประเทศชาติปลอดภัย ยืนยันว่าการยึดอำนาจเพื่อปลดล็อก ให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ จึงขอให้สื่อไม่ขยายความขัดเเย้ง โดยเฉพาะการแสดงความคิดเห็นในเฟซบุ๊ก  ถ้าจำเป็นจะเรียกตัว ก็จะขอเรียกมาพูดคุย ส่วนการเรียกร้องของสมาคมสื่อฯ นั้น ก็ไม่ควรมาเรียกร้องตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป 

ทั้งนี้ ในวันนี้เริ่มมีการเดินขบวนประท้วง ซึ่งทหารจำเป็นต้องบังคับใช้กฏหมายอย่างเด็ดขาด จึงขอให้คนที่เคลื่อนไหวดังกล่าวหยุดการเคลื่อนไหว โดยการดำเนินการใดๆ ต้องถูกดำเนินคดีด้วยศาลทหาร ยืนยันว่าได้ทำตามกระบวนการยุติธรรม และเคารพเจ้าหน้าที่ในการทำงาน

นอกจากนี้ยังกล่าวอีกว่า ยืนยันว่าทุกคนที่เรียกมานั้นเป็นการเชิญมาอยู่ในที่พักที่เป็นบ้านทหาร ซึ่งผู้ที่ถูกเรียกตัวหากยังคงฝ่าฝืนต่อต้าน ก็จะถูกดำเนินการจับกุมตัวขั้นเด็ดขาด รวมถึงจะทำทุกวิธีการเช่นการระงับธุรกรรมทางการเงิน จึงขอให้ทุกคนอดทน เพราะปัญหาการเมืองไทยขัดเเย้งกันมากว่า 9 ปี โดยตลอด 6 เดือนที่ผ่านมา เกิดความไม่สบายใจขึ้นกับคนทั้งประเทศ จึงเป็นช่วงเวลาที่ทุกคนต้องช่วยกันสร้างเสถียรภาพความมั่นคง ให้ต่างประเทศเชื่อมั่น ยืนยันจะทำหน้าที่เเก้ไขความขัดแย้งอย่างดีที่สุด

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีนายกรัฐมนตรีที่จะเข้ามาบริหารประเทศนั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวยืนยันว่า ต้องมีนายกฯ ชั่วคราวมาบริหารประเทศ และก็ต้องมีคณะรัฐมนตรีมาบริหารประเทศเช่นกัน โดยอาจมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบไปบ้าง แต่เป็นธรรมเนียมที่เคยทำกันมาแล้ว ส่วนการขับเคลื่อนประเทศนั้น ยังคงเดินหน้าต่อไป 

ส่วนคำถามเรื่องจะเป็นนายกฯ เองหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ตอบคำถาม แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ

ส่วนคำถามเรื่องโรดแม็ปประเทศสู่การเลือกตั้งนั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ยังไม่มีการกำหนด ขึ้นกับสถานการณ์

จากนั้น เมื่อนักข่าวได้พยายามถามคำถามต่อ พล.อ.ประยุทธ์และคณะ ได้เดินออกจากโพเดียมแถลงข่าว

 

 

 

ที่มา : ยูทู๊ป-ข่าวสด
26 พฤษภาคม 2557

 


 

 

 

 

โปรดเกล้าฯ

 

พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา

เป็นหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ

 

 

 

 

 

 

 

 

อะลิตเติ้ลบุ๊ดด่ะ ดอทคอม รายงาน
26 พฤษภาคม 2557

 


 

 

 

ปิดเว็บรัฐบาลยิ่งลักษณ์ !

 

 

 

 

 

เว็บรัฐบาลไทยสมัย คสช.

 

 

หลังจากยึดอำนาจจากรัฐบาลรักษาการ "นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล" เมื่อบ่ายวันที่ 22 พ.ค. ที่ผ่านมา รู้สึกว่า คสช. จะทำงานกันหามรุ่งหามค่ำ ถึงขนาดบ่นว่า "ไม่ได้หลับไม่ได้นอน"

 

เมื่อประมวลงานของ คสช. แล้วก็พูดได้ว่า "ตั้งแต่ไม้จิ้มฟันยันเรือรบ" หรือทุกรูปแบบ ทั้งสงครามใต้ดิน บนดิน และในอากาศ ที่เรียกว่า ไซเบอร์สเปซ หรือโลกออนไลน์ อันมีเครื่องมือในการต่อสู้ อาทิเช่น คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ คอมพิวเตอร์วางตัก (แลปท็อปหรือโน๊ตบุ๊ค) ไอโฟน ไอแพด กล้องดิจิตัล และโทรศัพท์มือถือทุกยี่ห้อ ที่ถูกพัฒนาให้สามารถใช้ "ไวไฟ" หรือสัญญาณอินเตอร์เน็ตได้

 

และนอกจาก คสช. จะเปิดเฟสบุ๊คขึ้นมาเป็นช่องทางสื่อสารหลักแล้ว ก็พบว่า เว็บไซต์ของรัฐบาลไทย ซึ่งทำต่อเนื่องกันมาตั้งแต่สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ก็ถูก คสช. ส่งนักรบไซเบอร์สเปซเข้าไปยึดไว้เบ็ดเสร็จ โดยเมื่อยึดได้แล้วทาง คสช. ก็มิได้พัฒนาเว็บไซต์แต่อย่างใด เพราะยังไม่มีข้อมูลอะไรไปเปลี่ยน จึงทำการเปลี่ยนเฉพาะ "หน้ากาก" เอาไว้เฉยๆ เหมือนปิดไว้ไม่ให้ดู หรือดูได้เฉพาะประตูบ้านเท่านั้นเอง เพราะกดที่ลิงค์เท่าไหร่ก็เข้าไม่ได้

 

คสช. จะเริ่มพัฒนาเว็บไซต์รัฐบาลไทยเมื่อไหร่ก็ไม่ทราบ คงอาจจะรอให้มีนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ชุดใหม่โน่นกระมัง จึงจะสามารถเปิดเว็บไซต์รัฐบาลไทยได้อีกครั้งหนึ่ง

 

 

 

 

 

อะลิตเติ้ลบุ๊ดด่ะ ดอทคอม รายงาน
26 พฤษภาคม 2557

 


 

 

 

THAILAND TONIGHT

 

 

 



 


 

 

 

 

 

คุ้มกันแม๊กโดนัลด์ !

 

 

 

 

 

 

คสช. ส่งทหาร คุ้มกันร้านอาหารดัง "แม๊กโดนัล ราชประสงค์" ดงแดงในอดีต หลังจากมีคนใช้เป็นสถานที่นัดพบทานอาหาร แล้วรวมตัวต่อต้านรัฐประหารขึ้น เมื่อเที่ยงวันที่ 25 ที่ผ่านมา จนเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ นับพันๆ คน ลามไปยังอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ซึ่งถือว่าเป็นการลุกฮือต่อต้านการรัฐประหารครั้งแรก หากยั้งไม่อยู่แล้ว ก็อาจจะเกิดความสูญเสีย และเมื่อนั้นอะไรก็เกิดขึ้นได้ คสช. ได้ลดกระแสความรุนแรงลง ด้วยการปล่อยตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในตอนเย็นวันเดียวกัน เพื่อตัดกระแสมิให้ผู้คนใช้เป็นเงื่อนไขระดมมวลชน ถึงกระนั้นก็ต้องติดตามสถานการณ์การเมืองไทยอย่างใกล้ชิด ว่า"ตระกูลชิน" จะยอมจำนนอย่างง่ายๆ หรือเป็นลูกล่อลูกชนทางการเมือง อันเป็นยุทธวิธีที่ทหารไม่ชำนาญ อีกไม่นานก็รู้ หมู่หรือจ่า

 

รู้แต่ว่า แม๊กโดนัล อาจจะกลายเป็น "จุดเริ่มต้น" ของประชาธิปไตย ก็เป็นได้

 

 

 



 

 

 

 ลำดับเหตุการณ์ร้านแม๊กโดนัล

 

 

 

เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 25 พ.ค. มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ทหารนำกำลังเข้ารักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณที่มีผู้ชุมนุมมาชูป้ายแสดงความไม่เห็นด้วยต่อการยึดอำนาจ หน้าร้านแมคโดนัลด์ ราชประสงค์ และเกิดการกระทบกระทั่งกัน

 

 เวลาประมาณ 14.30 นทหารที่ประจำอยู่ได้ออกมาตั้งแถวด้านหน้าโรงพยาบาลตำรวจ ก่อนมีกำลังมีทหารมาสมทบอีก 3 คันรถยีเอ็มซี โดยแถวหน้าถือโล่ แถวหลังถือปืน จากนั้นเป็นแนวตำรวจ ตั้งแถวปิดแยกราชประสงค์ฝั่งถนนพระราม 1 ทำให้ผู้ชุมนุมโห่ไล่

 

ต่อมาเวลาประมาณ 15.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมหลายพันคนได้เคลื่อนขบวนไปที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ หลังจากมีเจ้าหน้าที่ทหารเข้ามาในพื้นที่หน้าแมคโดนัลด์มากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อเลี่ยงการปะทะ

 

จากนั้นผู้ชุมนุมรวมตัวทยอยเคลื่อนขบวนออกจากหน้าห้างอมรินทร์ ผ่านหน้าเซ็นทรัลเวิลด์ ไปประตูน้ำ เพื่อมุ่งหน้าไปยังอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โดยด้านหน้าเหลือเพียงทหาร-ตำรวจและผู้สื่อข่าวเท่านั้นทั้งนี้ มีนักท่องเที่ยวออกมายืนถ่ายภาพทหาร-ตำรวจ บรรยากาศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

 

ขณะที่ทวิตเตอร์ของรถไฟฟ้าบีทีเอส ‏@BTS_SkyTrain ทวีตว่า"ตั้งแต่เวลา13.15 น. เป็นต้นไป ขบวนรถไฟฟ้าบีทีเอสจะไม่จอดที่สถานีเพลินจิตและสถานีชิดลม เนื่องจากความวุ่นวายใต้สถานี จนกว่าจะแจ้งเปลี่ยนแปลง"

 

ขณะที่ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 25 พ.ค. ที่ห้างสรรพสินค้าอัมรินทร์ พลาซ่า บริเวณย่านแยกราชประสงค์ กลุ่มต่อต้านรัฐประหารนับพันคนรวมตัวกันบริเวณร้านเเมคโดนัลด์ ชั้นล่างของห้างตามการเชิญชวนผ่านทางเฟซบุ๊กของนายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือบก.ลายจุด เพื่อแสดงออกทางสัญลักษณ์แบบสันติวิธี ในการต่อต้านรัฐประหาร สนับสนุนระบอบประชาธิปไตย ในกิจกรรม "กินเเมคต้านรัฐประหาร"

 

ภายในร้านเเมคโดนัลด์ มีประชาชนที่มาร่วมต่อต้านการรัฐประหารอยู่ภายในร้านแน่นขนัด ขณะที่ด้านนอกมีประชาชนทยอยมาสมทบเป็นจำนวนมาก จนล้นทะลักออกมาด้านหน้าร้าน โดยมีเจ้าหน้าที่ทหารพร้อมโล่และกระบอง บางส่วนมีปืนทาร์โวเป็นอาวุธประจำกาย และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปจ.นำกำลังกระจายอยู่หลายจุดในพื้นที่ทั้งบริเวณหน้าห้าง และบนทางเชื่อมรถไฟฟ้าสกายวอล์ก

 

ทั้งนี้มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ทหารได้จับกุมตัวผู้ชุมนุม 2 รายอีกด้วย

 

จากนั้นเวลา 11.30 น. บริเวณสี่แยกราชประสงค์ เกิดเหตุความวุ่นวายขึ้นเมื่อประชาชนประมาณ 200 คน พยายามเดินต่อต้านเเนวป้องกันของเจ้าหน้าที่ทหาร พร้อมส่งเสียงตะโกนว่า"ออกไปๆๆ" และ "เลือกตั้งๆๆ" อย่างต่อเนื่อง พร้อมชูป้ายต่อต้านรัฐประหารหลากหลายข้อความทั้งภาษาไทยเเละอังกฤษ เเม้เจ้าหน้าที่พยายามตั้งเเนวป้องกัน เเต่ก็ต้องถอยร่น กระทั่งมาประจำการยังหน้าร้านเเมคโดนัลด์

 

เจ้าหน้าที่ทหารร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุด ปจ. วางกำลังสกัดผู้ชุมนุมที่หน้าร้านแมคโดนัลด์ 3ชั้น โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ทหารเป็นแนวหน้าสกัดกั้นผู้ชุมนุม ตามมากำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ และแนวเจ้าหน้าที่ทหาร

 

เมื่อผู้ชุมนุมทยอยเดินทางมามีจำนวนมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ได้รวมตัวกันพยายามเข้ามาประชิดแนวเจ้าหน้าที่ทหารทำให้บรรยากาศเป็นไปอย่างตึงเครียด ผู้ชุมนุมได้ผลักดันแนวโล่ และขว้างปาขวดน้ำใส่เจ้าหน้าที่ทหารเป็นระยะๆ พร้อมกันนี้ได้ส่งเสียงตะโกนว่า "เลือกตั้งๆๆ" อย่างต่อเนื่อง

 

เวลา12.15 น. เจ้าหน้าที่ทหารนำรถติดเครื่องขยายเสียง 2 คัน เข้ามาในพื้นที่ชุมนุม พร้อมเปิดเพลงปลุกใจ อาทิ รักกันไว้เถิด เราสู้ จากนั้นพยายามชี้เเจงผ่านเครื่องขยายเสียงถึงจุดประสงค์ในการทำหน้าที่ เพื่อความสงบสุข เเต่ไม่ประสบความสำเร็จ ประชาชนส่งเสียงโห่ใส่อย่างต่อเนื่อง บางส่วนยังได้นำสติ๊กเกอร์ต่อต้านการรัฐประหารไปติดที่รถของทหารด้วย

 

เวลา 12.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีหญิงสาวรายหนึ่งซึ่งผู้ชุมนุมเรียกว่า"ฟ้า พรทิภา" เเต่งตัวลักษณะเดียวกับผู้ชุมนุม กปปส. ด้วยการติดประดับต่างหู ลายธงชาติ คล้องคอด้วยสายธงชาติ และพยายามนำนกหวีดขึ้นมาเป่า เข้ามาในพื้นที่ชุมนุม ทำให้ผู้ชุมนุมไม่พอใจ เจ้าหน้าที่ทหารต้องคุ้มกันหญิงดังกล่าว เเต่ก็โดนกดดันจากผู้ชุมนุมอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางเสียงตะโกนด่าทอ และขว้างปาสิ่งของใส่หญิงคนดังกล่าวเป็นระยะๆ ก่อนเจ้าหน้าที่ทหารและเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะนำตัวขึ้นรถกู้ภัยส่งโรงพยาบาลในเวลาต่อมา แม้ผู้ชุมนุมพยายามสกัดกั้นและปิดล้อมรถไว้ก็ตาม

 

เวลา 13.00 น.มีประชาชนนำหน้ากาก บก.ลายจุด มาสวมใส่ให้หุ่นเเมคโดนัลด์ และใส่หน้ากากบก.ลายจุดมาร่วมชุมนุมด้วยจำนวนหนึ่ง นอกจากนั้นยังมีชายเเต่งตัวอาหรับชูป้ายตามหาเพชรซาอุฯ เรียกเสียงฮือฮาให้กับผู้ชุมนุม

 

ส่วนเจ้าหน้าที่ทหารนำรถ 2 คันมาปิดหน้าร้านแมคโดนัลด์ แต่เมื่อผู้ชุมนุมเข้ามากดดัน เจ้าหน้าที่ทหารจึงต้องนำรถออกนอกพื้นที่

 

จากนั้นเวลา 14.00 น. ผู้ชุมนุมผลักดันเจ้าหน้าที่ทหารออกนอกพื้นที่สำเร็จ ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารต้องถอยร่นมายังแยกราชประสงค์

 

เวลา 14.10 น. มีรถลำเลียงเจ้าหน้าที่ทหาร 4 คันรถ มาที่แยกราชประสงค์ฝั่งถนนพระราม 1 ทุกนายมีอาวุธปืนทาร์โวและโล่ ลงมาสมทบกับเจ้าหน้าที่ทหารที่ถอยร่นมาจากร้านแมคโดนัลด์ พร้อมตั้งแนวป้องกันผู้ชุมนุมที่แยกราชประสงค์ ขณะที่ผู้ชุมนุมรวมตัวเดินมาเผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่ทหาร ประมาณ 5 นาที ก่อนพากันเดินต่อไปยังอนุสาวรีย์สมรภูมิเพื่อแสดงพลังต่อต้านรัฐประหารต่อไป

 

ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารยังวางกำลังป้องกันอยู่ที่แยกราชประสงค์ฝั่งถนนพระราม 1พร้อมกับปิดสกายวอล์กที่เดินเชื่อมระหว่างสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสยามและชิดลมด้วย

 

เมื่อเวลา 15.15 น. ผู้ชุมนุมจากราชประสงค์เคลื่อนขบวนด้วยรถยนต์ จักรยานยนต์ และเดินเท้ามายังอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และกระจายอยู่รอบอนุสาวรีย์ฝั่งแยกไปดินแดงและพญาไท รวมถึงด้านบนสกายวอล์ค พร้อมชูป้ายข้อความต่อต้านรัฐประหาร อาทิ เราไม่เอารัฐทหาร , หยุดปล้นอำนาจประชาชน , คุณเป็นทหารของใคร , We Want Election เป็นต้น ส่งผลให้การจราจรจากพหลโยธินมุ่งหน้าพญาไท และจากดินแดงเข้าอนุสาวรีย์ชัยฯ เป็นอัมพาต ส่วนการจราจรจากพหลโยธินไปดินแดงติดขัด ทั้งนี้ บรรยากาศการชุมนุมยังคึกคักแม้จะมีฝนโปรยลงมาผู้ชุมนุมตะโกนแสดงความไม่เห็นด้วยต่อการรัฐประหารเป็นระยะ

 

เวลา 16.50 น. ที่ใต้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสอนุสาวรีย์ชัยฯ เจ้าหน้าที่ทหารตั้งกำลังมุ่งหน้ามาที่อนุสาวรีย์ชัยฯ แต่กลุ่มผู้ชุมนุมได้รวมตัวกันเผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่ทหาร ก่อนจะเข้ามาผลักดันแนวโล่ พร้อมตะโกนใส่ทหารว่า ออกไปๆๆ อย่างต่อเนื่อง ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องใช้น้ำฉีดสกัด ท่ามกลางความตึงเครียด เจ้าหน้าที่ทหารต้องใช้รถติดเครื่องขยายเสียงเจรจากับผู้ชุมนุมว่าอย่าใช้ความรุนแรงต่อกัน จากนั้นมีตัวแทนผู้ชุมนุมเข้าเจรจาขอให้เจ้าหน้าที่ทหารถอนกำลังออกจากพื้นที่ โดยผู้ชุมนุมจะกลับไปที่อนุสาวรีย์ชัยฯ ตามเดิม

 

ต่อมาเวลา 18.00 น. ผู้ชุมนุมควบคุมตัวชายคนหนึ่งไว้ได้ โดยอ้างเป็นผู้ชุมนุมของกลุ่มกปปส.ที่แฝงตัวเข้ามาถ่ายรูปคนที่เป็นแกนนำพูดกระจายเสียง ทำให้ผู้ชุมนุมต้านรัฐประหารคนอื่นๆ เข้าไปด่าทอ เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องกันชายคนดังกล่าวออกจากพื้นที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิดเท่านั้น ไล่เลี่ยกันมีคนแจ้งว่ามีคนถูกทำร้ายได้บาดเจ็บที่บริเวณใต้ทางเดินสกายวอล์ค เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจและอาสาพยาบาลไปตรวจสอบพบว่า เป็นชายไร้บ้านที่อาศัยอยู่บริเวณดังกล่าว ถูกตีที่ศีรษะแตกหลังทะเลาะวิวาทกับอริ ตำรวจยืนยันไม่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมคัดค้านการรัฐประหารแต่อย่างใด

 

เวลา 19.00 น. ผู้ชุมนุมทยอยเดินทางกลับ โดยนัดหมายรวมตัวกันอีกครั้งวันที่ 26 พ.ค. เวลา 15.00 น. ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ส่วนการจราจรบริเวณอนุสาวรีย์ชัยฯ เปิดใช้การได้แล้วทุกช่องทาง

 

 

 

ข่าว : ข่าวสด

26 พฤษภาคม 2557


 

 

 

 

กองพลที่ 1 รักษาพระองค์ !

 

สถานที่กักตัวยิ่งลักษณ์

หลังออกข่าวลวงมา 3 วันว่าส่งไปสระบุรี

 

นี่คือยุทธวิธี ลับ ลวง พราง

 

 

วาสนา นาน่วม คอนเฟิร์ม "ปล่อยยิ่งลักษณ์กลับบ้านแล้ว" จาก "พล.1 ร.อ." ก็ในกรุงเทพฯนี่เอง แต่แหม ปล่อยข่าวเสียไกลเชียว ว่าปิดม่านรถตู้วิ่งไปไกลถึงสระบุรี ที่แท้ก็..

 

 

 

 

 

 

 

 

 

"วาสนา นาน่วม" เผยแหล่งข่าว คสช. ระบุ "ประยุทธ์" สั่งปล่อยตัว "ยิ่งลักษณ์" ออกจาก พล.1รอ. แล้ว เมื่อเย็นที่ผ่านมา ยันได้รับการดูแลอย่างดี ขณะที่สั่งปล่อยอีกหลายคนภายในคืนนี้ ยกเว้นพวกมีหมายจับ ถูกส่งขึ้นศาลทหาร 26 พ.ค.


       
วันนี้ (25 พ.ค.) เมื่อเวลาประมาณ 23.00 น. น.ส.วาสนา นาน่วม ผู้สื่อข่าวสายทหาร หนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว "Wassana Nanuam" ว่า ยืนยันการปล่อยตัว อดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ แล้ว
       
แหล่งข่าว ใน คสช. เผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ หัวหน้า คสช. สั่งปล่อยตัว "ยิ่งลักษณ์" อดีตนายกฯ เมื่อเย็นนี้ ออกจากหน่วยทหาร แห่งหนึ่ง ในกทม.แล้ว ไม่ใช่ สระบุรี แต่เป็นที่ พล.1รอ. นั่นเอง ...ขณะที่มีคำสั่ง ให้ปล่อยอีกหลายคน จากเซฟท์เฮ้าส์ หลายแห่ง ภายในคืนนี้ โดย ผบ.ทบ.สั่งดูแลอย่างดี สมเกียรติ ทะยอยปล่อยตัวอีก ยกเว้นพวกมีหมายจับ ถูกส่งขึ้นศาลทหาร จันทร์นี้...
       
ส่วนเสียงวิจารณ์ ว่าวาสนาปล่อยข่าวลวงนั้น ขอให้รอ การยืนยันจาก คสช.อย่างเป็นทางการอีกครั้งแล้วกัน แต่วาสยืนยัน ว่า "ปล่อยแล้ว ค่ะ"


ขณะที่สำนักข่าวซีเอ็น ก็ได้อ้างแหล่งข่าวใกล้ชิด น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยระบุว่า ได้รับการปล่อยตัวจากค่ายทหารแล้วเช่นกัน
 

 

 

 

ข่าว : ผู้จัดการ

26 พฤษภาคม 2557


 

 

 

 

 

"ประชาธิปไตยในประเทศทำให้เกิดความสูญเสีย"

 

เหตุผลทำรัฐประหาร "บิ๊กตู่" ชี้แจงสหรัฐอเมริกา

 

 

 

 

 

 

     
วันนี้ (25 พ.ค.) ที่สโมสรทหารบก พ.อ.วินธัย สุวารี พร้อมด้วย พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง และ พ.อ.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกกองทัพบก แถลงถึงคำชี้แจงของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในภาพรวมเกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนการทำงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พลเรือน และทหาร อยากวิงวอนประชาชนทุกภาคส่วนเข้าใจบ้านเมืองในขณะนี้ว่าให้ทุกคนเสียสละในระดับที่แต่ละคนน่าจะกระทำกันได้ และยืนยันว่า คสช. ไม่ได้มุ่งหวังเพื่อประโยชน์กับผู้หนึ่งผู้ใด แต่จะคืนความสุขให้กับประชาชนทั้งประเทศ สร้างเสถียรภาพให้สายตาภายในและนอกประเทศเข้าใจ และขอความร่วมมือ ทหาร ตำรวจ พลเรือน ยอมรับหลักการ และขจัดข้อขัดแย้งต่างๆ พร้อมเตือนผู้ที่ปลุกปั่นในโซเชียลหยุดการกระทำเหล่านี้ เพราะสิ่งนั้นไม่ได้เกิดประโยชน์ ส่วนสื่อมวลชนขอให้ลดการนำเสนอ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน ยืนยันว่าสิ่งที่ คสช.ทำไปนั่นไม่ได้เกลียดชังหรือเป็นความเห็นส่วนตัว แต่ทุกอย่างดำเนินการไปตามเหตุผล และขั้นตอนทางกฎหมาย
       
เมื่อถามถึงกรณีที่สหรัฐอเมริกาตัดงบประมาณการช่วยเหลือ และการตัดการฝึกร่วมกับกองทัพไทยนั้น

 

ทีมงานโฆษกกองทัพบกกล่าวว่า ที่ผ่านมาทาง สคช. ได้ทำความเข้าใจในระดับต่างประเทศโดยการสื่อสารผ่านทางผู้บัญชาการทหารบกสหรัฐอเมริกา เพื่อชี้แจงถึงความจำเป็น พร้อมทั้งสร้างความเข้าใจในการรัฐประหาร บางส่วนกระทรวงการต่างประเทศก็ได้ดำเนินการตามขั้นตอนซึ่งเราจะแยกให้เห็นถึงความแตกต่างของประเทศไทยกับต่างชาติ 3 ข้อ คือ

 

1. สภาพแวดล้อมของแต่ละประเทศไม่เหมือนกัน

 

2. เรามีหลักฐานและเหตุผลชัดเจนในการทำรัฐประหารที่จะแสดงต่อต่างชาติ และ

 

3. ประชาธิปไตยในประเทศทำให้เกิดความสูญเสีย
       
อย่างไรก็ดี ที่ผ่านมาทหารได้สนับสนุนการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยมาโดยตลอด อยากให้มองย้อนกลับไป ไม่อยากให้มองเฉพาะจุด การแสดงออกตามระบอบประชาธิปไตยไม่ว่าจะเป็นในส่วนของบุคคล หรือกลุ่มบุคคลทำให้เกิดความสูญเสียมาโดยตลอด รวมถึงการบังคับใช้กฎหมายในการดำเนินคดีก็จะต้องคำนึงหลักประชาธิปไตย และสิทธิเสรีภาพของประชาชน
       
สำหรับในประเทศไทยจะเห็นได้ว่าในส่วนของประเทศไทยที่คนแสดงสิทธิโดยอ้างว่าเป็นการแสดงออกในระบอบประชาธิปไตย ปรากฏว่ามีการใช้อาวุธสงคราม เป็นตัวบ่งชี้ว่าเป็นการสนับสนุนความรุนแรง และกระทำต่อชุมชนเมืองซึ่งถือเป็นเรื่องแปลก และไม่ทราบว่าการแสดงออกของกลุ่มคน หรือบุคคลที่ทำให้เกิดความสูญเสียจะสะท้อนภาพลักษณ์ในสายตาของต่างชาติอย่างไร การใช้ประชาธิปไตยที่แสดงออกมาในประเทศไทยน่าจะแตกต่างจากประเทศอื่น รวมถึงการเสนอข่าวของสื่อไทยและต่างประเทศที่มีความแตกต่างกัน นี่คือคำจำกัดความของคำว่าระบอบประชาธิปไตยในส่วนที่เจ้าหน้าที่ความมั่นคงได้เล็งเห็น

 

 

 

 

ข่าว : ผู้จัดการ

26 พฤษภาคม 2557


 

 

 

 

เตือน !

 

อย่าต่อต้านรัฐประหาร

หากยังฝ่าฝืนก็ต้องใช้ไม้แข็ง

 

 

และเมื่อนั้น ถ้าเกิดสูญเสียขึ้นมาจะเรียกร้องอะไรไม่ได้ เพราะทหารปฏิบัติการภายใต้กฎอัยการศึก ซึ่งหมายถึง ฆ่าคนได้โดยไม่ผิดกฎหมาย นะจ๊ะ

 

 

 

 


 

 

 

 

เมื่อเวลา 19.45 น. วันที่ 25 พ.ค. พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก  กล่าวถึงกรณีที่มีประชาชนออกมาชุมนุมต่อต้านการยึดอำนาจอยู่ในขณะนี้ว่า เจ้าหน้าที่อาจจำเป็นต้องบังคับใช้กฏหมายอย่างเด็ดขาด หากมีการปะทะกันอาจมีการบาดเจ็บสูญเสียจะไม่สามารถเรียกร้องอะไรได้เลย เพราะขณะนี้อยู่ในช่วงภาวะไม่ปกติ ทหารและตำรวจทำงานภายใต้กฎอัยการศึก รวมถึงประกาศและคำสั่งของ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในทุกพื้นที่ของประเทศ

 

"อยากให้พ่อแม่พี่น้องลูกหลานแจ้งเตือนกันและกัน เพราะไม่มีประโยชน์หากมาชุมนุมต่อต้าน ขอให้เข้าใจว่าทุกคนกำลังทำหน้าที่เพื่อให้ประเทศชาติมีความสงบ จึงขอให้ประชาชนทั่วไปได้ช่วยกันห้ามปราม และช่วยกันหยุดยั้งการกระทำของกลุ่มต่อต้านดังกล่าว เพื่อร่วมกันสร้างความปลอดภัยให้ทั้งประชาชนและเจ้าหน้าที่ เพื่อช่วยกันนำพาประเทศชาติไปสู่ความสงบโดยเร็ว ทั้งนี้ไม่ทราบว่าจะทำไปเพื่ออะไร เชื่อว่าคนส่วนใหญ่คงอยากเห็นบ้านเมืองกลับมามีความสุขสงบโดยเร็ว" รองโฆษกกองทัพบก กล่าว.

 

 

 

 

ข่าว : เดลินิวส์

26 พฤษภาคม 2557


 

 

 

 

รู้มากกว่าสื่อไทย !

 

สื่อนอกตีข่าวทหารปล่อยตัวยิ่งลักษณ์

ขณะที่สื่อไทยใบ้กิน อ้างอิงแต่ซีเอ็นเอ็น

สงสัยกลัวบิ๊กตู่ซะจนขี้ขึ้นสมอง

 

 

อา..เมื่อ "สื่อไทย" ไร้อิสระ ถึงกับต้องอาศัย "สื่อนอก" มาเป็นแหล่งข่าวภายในให้ ก็หมดสิ้นแล้วสำหรับอิสระเสรีภาพของฐานันดรที่ 5 จิตวิญญาณของสื่อไทยหมดสิ้นไปแล้วจริงๆ หรือ ถ้าไม่จริง ก็ขอภาพยิ่งลักษณ์ตอนออกนอกค่ายทหารมาโชว์ซักภาพสิโยม

 

 

 

 

 

 

 

 

"ซีเอ็นเอ็น" ตีข่าวทั่วโลก คสช.ปล่อยตัว "ยิ่งลักษณ์" ออกจากค่ายทหารแล้ว

 

เมื่อวันที่ 25 พ.ค. ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า แหล่งข่าวใกล้ชิด น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยืนยันกับซีเอ็นเอ็นว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้รับการปล่อยตัวจากค่ายทหารแล้ว หลังจาก คสช. เรียกให้มารายงานตัว และกักตัวไว้ตั้งแต่วันศุกร์ ร่วมกับคณะบุคคลอีกกว่า 100 คน ทั้งนักการเมืองและนักเคลื่อนไหวทางการเมือง

 

 

"วาสนา นาน่วม" ผู้สื่อข่าวสายทหารชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ยันแหล่งข่าววงในระบุตรงกันกับสื่อนอกว่า "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" ได้รับการปล่อยตัวจากค่ายทหารแล้ว...

 

วันที่ 25 พ.ค.57 มีรายงานว่า นางสาววาสนา นาน่วม ผู้สื่อข่าวสายทหาร ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก Wassana Nanuam โดยระบุว่า ได้ยืนยัน การปล่อยตัว นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แล้ว โดยแหล่งข่าวใน คสช. เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. ได้สั่งให้ปล่อยตัว นางสาวยิ่งลักษณ์ ในช่วงเย็นวันนี้ โดยออกจากหน่วยทหารแห่งหนึ่ง ใน กทม.แล้ว ซึ่งไม่ใช่ สระบุรี แต่เป็นที่ พล.1 รอ.

 

ทั้งนี้ ขณะที่มีคำสั่งของ คสช. ให้ปล่อยแกนนำรัฐบาลและพรรคเพื่อไทย อีกหลายคนจากเซฟท์เฮ้าส์หลายแห่ง ภายในคืนนี้ โดย ผบ.ทบ.ได้สั่งดูแลเป็นอย่างดี ให้สมเกียรติ ซึ่งจะได้ทยอยปล่อยตัวอีก ยกเว้นพวกมีหมายจับ ที่ถูกส่งขึ้นศาลทหาร ภายในวันจันทร์นี้ ส่วนเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ว่า วาสนา ปล่อยข่าวลวงนั้น ขอให้รอการยืนยันจาก คสช.อย่างเป็นทางการอีกครั้งแล้วกัน แต่ วาส ยืนยัน ว่า ปล่อยแล้ว ค่ะ

 

ขณะเดียวกัน สำนักข่าวต่างประเทศซีเอ็นเอ็น ได้อ้างแหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้ยืนยันว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ ได้รับการปล่อยตัวเป็นอิสรภาพจากค่ายทหารเรียบร้อยแล้ว

 

 

 

 

ข่าว : มติชน-ไทยรัฐ

26 พฤษภาคม 2557


 

 

 

 

 

ชิงมวลชน !

 

 

คสช.ประกาศจ่ายเงินชาวนาภายใน 1 เดือน

ตบโต๊ะกู้ดะทั้ง ธกส.และสถาบันการเงินในประเทศ

 

ร่วมแสนล้าน !

 

 

 

เปล่าปล้นนโยบายนะจ๊ะ แต่เมื่อทักษิณอาศัยชาวนามาเป็นฐานคะแนน ก็ต้องชิงชาวนามาจากทักษิณ แต่เมื่อติดที่นโยบายจำนำข้าวของทักษิณ ก็ไม่เห็นยาก ไหนๆ ก็ยึดอำนาจจากรัฐบาลยิ่งลักษณ์มาแล้ว ยึดนโยบายจำนำข้าวเพิ่มอีกซักโครงการมันจะเป็นไรไป บอกแล้วไงว่า ผมไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง แต่ผมทำเพื่อชาติ รุ่นอาจารย์ของผม (ท่านพลเอกสุจินดา) เคยลั่นอมตะวาจาเอาไว้ในปี 35 ว่า "เสียสัตย์เพื่อชาติ" ผมยังจำติดใจเลย

 

 

 

 

 

 

 

โปรดทราบ เรายึดนโยบายของท่านไว้หมดแล้ว

 

 

 

พ.อ.ณัฐวัฒน์ จันทร์เจริญ รองผู้อำนวยการกองกรมกิจการพลเรือน ทหารบก ในฐานะรองโฆษกกองทัพบก แถลงผลการประชุมการบริหารราชการ 7 กลุ่มงาน โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ว่า การบริหารราชการให้ดำเนินการตามปกติ โดยให้ปลัดกระทรวงดำเนินการเป็นการชั่วคราว ส่วนแผนงานหรือโครงการใหม่ๆ ที่ใช้เงินงบประมาณสูง จะยังไม่มีการพิจารณาในช่วงนี้ แต่ถ้าแผนงานที่ใช้เงินงบประมาณไม่สูงมาก ให้แต่ละกระทรวงรวบรวมเข้าพิจารณาในที่ประชุมคสช.อนุมัติต่อไป ส่วนงานด้านธุรการ และเอกสารจะลดขั้นตอนเพื่อให้กระชับลง และให้การแก้ไขปัญหาเกิดได้ทันท่วงที โดยทุกกลุ่มงานจะต้องดำเนินการอย่างโปร่งใส และทำงานร่วมกับฝ่ายกฎหมาย ในการดูแลทุกขั้นตอน ขณะที่หัวหน้าคสช.ได้ให้แนวทางการแก้ไขปัญหา เป็น 3 ด้าน คือปัญหาเฉพาะหน้า ปัญหาระยะสั้น และปัญหาระยะยาว โดยในช่วงนี้จะเน้นในเรื่องของการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนเป็นอันดับแรก

 

อย่างไรก็ตาม โครงการที่จะทำเร่งด่วนคือ การจ่ายเงินให้กับชาวนา ที่ได้รับผลกระทบจากโครงการรับจำนำข้าว โดยมีการค้างจ่ายของโครงการประมาณ 9.2 หมื่นล้านบาท ซึ่งทาง คสช. จึงตัดสินใจกู้เงิน 2 ช่วง โดยแบ่งจากสภาพคล่องของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือธกส. ประมาณ 4 หมื่นล้านบาท และสถาบันการเงินภายในประเทศประมาณ 5 หมื่นล้านบาทเศษ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มจ่ายได้ในวันพรุ่งนี้ (26 พ.ค.) และคาดว่าจะสามารถจ่ายเงินให้ชาวนาได้ครบไม่เกิน 1 เดือน ซึ่งชาวนาไม่จำเป็นต้องเดินทางมา แต่จะตั้งจุดจ่ายเงินที่กองทัพบก กองทัพเรือและกองทัพอากาศ ในพื้นที่ หรืออาจจะเป็นที่ธกส. ทั้งนี้ในจังหวัดใดไม่มีหน่วยทหารสำหรับจ่ายเงิน ทางกองทัพจะจัดรถโมบายลงพื้นที่ร่วมกับ ธกส. เพื่อจ่ายเงินให้กับชาวนา ซึ่งทางทหารจะมีหน้าที่ตรวจสอบเอกสารรับเงิน แต่ธกส. จะเป็นผู้จ่ายเงินให้กับชาวนา เนื่องจากเอกสารใบประทวนอยู่ที่ธกส. ด้านกระทรวงพาณิชย์ จะเร่งระบายข้าว โดยคาดว่าจะสามารถระบายข้าวต่อเดือนได้ประมาณ 5-8 พันล้านบาท และจะใช้หนี้จากการกู้เงินได้ภายใน 15 เดือน

 

ขณะเดียวกัน ที่ประชุมได้พูดถึงการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2558 โดยเชื่อว่าไม่มีข้อติดขัดแต่อย่างใด ซึ่งจะสามารถดำเนินการได้ทันตามปฏิทินงบประมาณแน่นอน นอกจากนี้ หัวหน้าคสช. ได้รับทราบในหลักการในเรื่องของการลดอัตราภาษีจากร้อยละ 10 เหลือร้อยละ 7 ด้วย

 

 

ข่าว : มติชน

26 พฤษภาคม 2557


 

 

 

 

โปรดทราบ !

 

การรายงานตัวมี 2 วิธี

 

อย่างเป็นทางการและไม่เป็นทางการ

 

 

 

คสช. แจง การควบคุมตัว "โอ๊ค-พานทองแท้ ชินวัตร" เป็นการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ "อย่างไม่เป็นทางการ" ส่วนคนที่มีชื่อในประกาศนั้น ถือว่าเป็นทางการ

 

อา..ลิ้นพันกันอีกแล้วครับท่าน มาวหรือเปล่า ? เพราะวันก่อน ตอนจับโอ๊คนั้น พ.อ.วินธัย ได้ออกมาปฏิเสธข่าว โดยระบุว่า "ไม่มีการจับ เพราะไม่มีชื่อโอ๊คในคำสั่งให้เข้ารายงานตัว" แต่เมื่อความจริงปรากฏ ก็ออกมาแก้ข่าวว่า "การรายงานตัวมีทั้งอย่างเป็นทางการและไม่เป็นทางการ"หมายความว่า ประชาชนที่ถูกทหารจับกุมหรือควบคุมตัวอย่างไม่เป็นทางการนั้นมีอีกมาก ใช่ไหมครับท่าน แบบนี้ถือว่าเป็นปฏิบัติการสร้างความปรองดองในชาติหรือ ถามว่า ถ้าไม่ใช่ลูกชายทักษิณ จะมีสิทธิ์กลับบ้านเหมือนโอ๊คหรือ ฮื่อ น่ากลัวนะ ไหนล่ะว่าจะใช้อำนาจสร้างความเป็นธรรมในสังคมไทย ?

 

 

 

 

 

พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษก คสช.

เจ้าของฉายา "โฆษกสองสไตล์"

 

 

พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกระแสข่าวการควบคุมตัว นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ว่านายพานทองแท้เดิมพักอยู่ที่ จ.เชียงใหม่ หลังจากได้มีการพูดคุยทำความเข้าใจกันจึงได้ส่งให้กลับบ้านในกรุงเทพฯ ตามที่เจ้าตัวประสงค์ ฉะนั้น ขอให้เข้าใจสิ่งที่หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้ทำไปนั้นมิได้เกิดมาจากความเกลียดชัง หรือเกิดมาจากความเห็นส่วนตัว แต่ด้วยความจำเป็นที่จะต้องให้งานบริหารราชการ และการรักษาความสงบในห้วงนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ประเทศชาติเดินหน้าต่อไปได้
       
เมื่อถามว่าจะเรียกนายพานทองแท้เข้ามารายงานตัวหรือไม่ ทีมงานโฆษกกองทัพบกกล่าวว่า ทุกท่านที่ได้มีคำสั่งให้รายงานตัว ส่วนใหญ่ไม่มีเจ้าหน้าที่นำพามา ส่วนภาพที่ปรากฏว่ามีทหารนำตัวนายพานทองแท้มาควบคุมนั้น ตนไม่มีรายละเอียด ทุกอย่างเป็นไปตามคำชี้แจงของหัวหน้า คสช. ส่วนกรณีตระกูลชินวัตรมีการประสานงานทำความเข้าใจหรือไม่นั้น ตนเรียนกว่าบุคคลที่เชิญมารายงานตัวหลักๆ เป็นการทำความเข้าใจ และเป็นการแลกเปลี่ยนกันว่าที่ผ่านมาได้ทำอะไรคิดอะไรและขอความร่วมมือในการเดินไปข้างหน้าในการทำอะไรที่จะทำให้บ้านเมืองสงบ ส่วนใหญ่เป็นการทำความเข้าใจ
       
ส่วนรายละเอียดบุคคลต้องเป็นไปตามคำสั่ง และประกาศที่ได้เรียนไปตนไม่มีข้อมูลเพียงพอ ทั้งนี้การเชิญตัวบุคคลมี 2 อย่าง คือ การเชิญอย่างเป็นทางการคือผ่านทางคำสั่ง และอย่างไม่เป็นทางการ ส่วนกรณีของคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร อยู่ในกรณีที่ไม่เป็นทางการ ถึงแม้ว่าจะไม่มีรายงานชื่อในคำสั่ง ส่วนจำเป็นที่ หน.คสช.จะต้องพูดคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีหรือไม่นั้น ยังไม่มีข้อมูล ส่วนการควบคุม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีนั้น ยังไม่มีข้อมูลว่าปล่อยตัวหรือไม่ แต่ทุกอย่างดำเนินการไปตามกฎหมาย สำหรับนายจาตุรนต์ ฉายแสง และนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ นั้นก็ต้องดำเนินไปตามคดีที่ได้มีการประกาศคำสั่งไว้

 

 

 

ข่าว : ผู้จัดการ

26 พฤษภาคม 2557


 

 

 

 

เตรียมรับพระบรมราชโองการ !

ตั้ง-ประยุทธ จันทร์โอชา

เป็นหัวหน้าคณะรักษาความเรียบร้อยแห่งชาติ

 

อา..แสดงว่ายังไม่เรียบร้อย !

 

 

หุหุ ก็ไม่ทราบว่าเป็นตำแหน่งอะไร เพราะไม่เคยมีมาก่อนในประเทศไทย ปฏิวัติก็ปฏิวัติแล้ว ยึดอำนาจก็ยึดแล้ว ยังจะต้องรอรับพระบรมราชโองการอีก แล้วที่สั่งจับแกนนำม็อบและนักการเมือง รวมทั้งออกประกาศ-คำสั่งออกมาเป็นร้อยๆ ฉบับนั้น ใช้อำนาจหน้าที่และตำแหน่งอะไรไม่ทราบ ?

 

 

 

 

 

หมวกใบที่สามครับเจ๊

ช่วงนี้โรงงานปิดสี่ทุ่ม หมวกเหลือบานเบอะ

ผมเลยให้เด็กไปเหมามาเป็นโหล กะจะใส่ให้โก้เล่นทุกวัน

 

 

 

 

คสช. เตรียมการและสถานที่พิธีรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นหัวหน้า คสช. ณ ห้องรับรองชั้น 2 กองบัญชาการกองทัพบก...

 

เมื่อวันที่ 25 พ.ค. มีรายงานว่า สืบเนื่องจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ออกประกาศ ฉ.28/2557 เมื่อวันที่ 24 พ.ค.ที่ผ่านมา เรื่องการถวายรายงานสถานการณ์บ้านเมือง ใจความว่า ตามที่กองทัพบก และ คสช. ได้มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติกฎอัยการศึก ทั่วราชอาณาจักร และเข้าควบคุมอำนาจการปกครองเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย และแก้ไขปัญหาความขัดแย้งของบ้านเมืองมาโดยลำดับนั้น กองทัพบก และ คสช. ได้มีหนังสือถึงสำนักราชเลขาธิการแล้ว 2 ครั้ง เมื่อวันที่ 20 พ.ค. และวันที่ 22 พ.ค. เพื่อนำความกราบบังคมทูลฯ ตามโอกาสอันเหมาะสม บัดนี้ได้มีหนังสือตอบกลับจากสำนักราชเลขาธิการว่า ความทราบฝ่าละอองธุลีพระบาทเรียบร้อยแล้วนั้น

 

ล่าสุด มีรายงานเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ ได้มีการเตรียมการและสถานที่พิธีรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ในฐานะหัวหน้า คสช. ดำรงตำแหน่งหัวหน้า คสช. ที่ห้องรับรองชั้น 2 ภายในกองบัญชาการกองทัพบก ถนนราชดำเนิน

 

 

 

ข่าว : ไทยรัฐ

26 พฤษภาคม 2557


 

 

 

 

ส่งโอ๊คกลับบ้าน !

 

 

คสช.แจงข่าวพานทองแท้ถูกจับที่เชียงใหม่

 

"เปล่ารังแกเด็ก"

 

กลัวลูกโอ๊คกลับบ้านไม่ถูก เลยให้คนไปส่ง ประเดี๋ยวคุณพ่อแม้วเป็นห่วง ดูสิส่งไกล๊ไกล นั่งเฮลิคอปเตอร์จากเชียงใหม่ถึงกรุงเทพฯ ทางไกลก็ต้องใช้เวลานานหน่อย (กว่าจะสอบปากคำเสร็จ) ขออภัยในความล่าช้า

 

 

 

 

ยิ้มก็เห็นแก้ม แย้มก็เห็นไรฟัน

 

 

 

 

 

 

ชุดส่งโอ๊คกลับบ้าน

บางคนส่งให้ทั้ง ข้าวผัด-โอเลี้ยง 7 วันเต็มๆ อิอิ

 

 

 

"ประยุทธ์ จันทร์โอชา" แจงปรับย้าย ตร.-ทหาร ไม่ใช่หยามศักดิ์ศรี ชี้แค่ลดแรงกดดัน ยันไม่ซ้อม-ทรมาน บุคคลสำคัญที่ถูกคุมตัว ลั่นไม่เกิน 7 วันปล่อย ย้ำไม่ได้ทำเพื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง

 

วันที่ 25 พ.ค. นางสาววาสนา นาน่วม ผู้สื่อข่าวสายทหาร โพสต์บนเฟซบุ๊กส่วนตัว Wassana Nanuam ความว่า พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษก ทบ. ได้เผยแพร่คำชี้แจงของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.และหัวหน้า คสช. ต่อการปฏิบัติการของ คสช. ตามข้อความดังนี้

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. และหัวหน้า คสช. ชี้แจงเรื่องการปรับย้ายการปฏิบัติหน้าที่ของ พลเรือนตำรวจทหารว่า ยืนยันไม่ได้เป็นการลดทอนในเกียรติยศศักดิ์ศรีของบุคคลหรือหน่วยงานใด แต่จำเป็นต้องลดความกดดันที่มีต่อกลุ่มบุคคลดังกล่าว

สำหรับตำแหน่ง ผบ.ตร. ผู้ที่จะมารักษาการ แทนก็มาจากรอง ผบ.ตร.ซึ่งมีลำดับอาวุโสอันดับ 1 ซึ่งทั้งหมดก็เพื่อให้เกิดความไว้วางใจจากสังคม และประชาชน อยากให้เห็นใจผู้ที่ถูกปรับย้ายการปฏิบัติหน้าที่ และงดที่จะแสดงออกถึงการดูถูกเกลียดชังกัน เพราะท่านเหล่านั้นไม่ได้มีความผิดใดๆ ขอให้ถือว่าเป็นการปรับย้ายเพื่อให้เกิดความเหมาะสมต่อสถานการณ์ในห้วงปัจจุบัน อยากฝากให้ทุกคนได้ให้ความร่วมมือกับผู้ที่มารักษาการแทนด้วย

ส่วนเรื่องการควบคุมตัวบุคคลผู้ที่ถูกเรียกรายงานตัว พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เพื่อทำความเข้าใจในข้อขัดแย้ง และให้ชี้แจงข้อเท็จจริงหลังการปฏิบัติของแต่ละพวก แต่ละฝ่าย และเพื่อเสาะหาข้อเท็จจริง โดยได้จากสถานที่ดูแลที่เหมาะสม ไม่ได้มีพันธนาการ ซ้อม ทรมานแต่อย่างใด พร้อมให้เกียรติทุกคน

โดยให้เห็นถึงความจำเป็นว่า ต้องร่วมมือกันแก้ไขปัญหาบ้านเมืองในขณะนี้ ขณะนี้ได้ทยอยปล่อยกลับบ้านแล้วเป็นจำนวนมาก โดยการควบคุมตามกฎหมายไม่เกิน 7 วัน ซึ่งบางคนได้ปล่อยไปในวันแรกๆ แล้ว โดยได้จัดลำดับจำนวนวันในการควบคุมตัวตามความสำคัญของแต่ละบุคคล ซึ่งจะได้รายงานให้ทราบเป็นระยะ

รวมถึงผู้ที่ถูกควบคุมที่มีหมายจับหรือมีคดีติดตัว จะได้นำเข้ามอบตัว เพื่อดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่วันจันทร์เป็นต้นไป

นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า มีจับกุมอาวุธสงครามได้จำนวนมาก ซึ่งยังคงจะต้องดำเนินการต่อไปเรื่อยๆ เพื่อเป็นการรักษาความสงบเรียบร้อย อยากขอให้ประชาชนทุกภาคส่วน หลีกเลี่ยงการใช้ชุมนุมประท้วงต่อต้าน เพราะในขณะนี้ กระบวนการประชาธิปไตย ทำไม่ได้เป็นปกติ คสช.ไม่ได้มุ่งหวังทำเพื่อประโยชน์ผู้หนึ่งผู้ใด แต่เพื่อคืนความสุขให้คนไทยทุกคน และจะนำไปสู่การสร้างความมั่นใจ ในเสถียรภาพ จากต่างประเทศเพื่อเดินหน้าต่อไป

"ขอความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่พลเรือนตำรวจทหารทุกคน ได้อดทนเสียสละและยอมรับในหลักการ การขจัดข้อขัดแย้งของประเทศ อาจมีผลกระทบต่อองค์กรอยู่บ้าง ต้องร่วมมือช่วยกันต่อไป มิฉะนั้น เราจะกลายเป็นรัฐที่ล้มเหลว ทุกคนไม่มีความสุข"

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ผู้ที่อาศัยโซเชียลมีเดีย ในการยุยงปลุกปั่น ขอให้หยุดการกระทำดังกล่าว เพราะไม่ได้เกิดประโยชน์ต่อใครเลย ขอให้สื่อลดหรือระวังการพูดจา วิพากษ์วิจารณ์ ให้ร้ายทุกพวกทุกฝ่าย โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ทั้ง พลเรือน ตำรวจ ทหารให้เสียหายโดยเด็ดขาด

กรณี นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดิมพักอยู่ที่ จ.เชียงใหม่ หลังจากได้มีการพูดคุยทำความเข้าใจกัน จึงได้ส่งให้กลับบ้านในกรุงเทพฯ ตามที่เจ้าตัวประสงค์

"ขอให้เข้าใจสิ่งที่ผมได้ทำไปนั้นมิได้เกิดมาจากความเกลียดชัง หรือเกิดมาจากความเห็นส่วนตัว แต่ด้วยความจำเป็นที่จะต้องให้งานบริหารราชการ และการรักษาความสงบในห้วงนี้ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ประเทศชาติเดินหน้าต่อไปได้" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว.

 

 

ข่าว : ไทยรัฐ

25 พฤษภาคม 2557

วันอาทิตย์ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

สหรัฐเรียกร้อง คสช. 2 ข้อใหญ่ 1. คืนประเทศให้ประชาชนตัดสินใจ 2. ปล่อยยิ่งลักษณ์ และนักการเมือง



 

LAST UPDATE : MAY 24, 2014  07:00 P.M.   PACIFIC TIME

 

 

 

 

 

 

 

 

เริ่มเข้าประเด็นหลัก

 

 

สหรัฐเรียกร้อง คสช. 2 ข้อใหญ่

 

1. คืนประเทศให้ประชาชนตัดสินใจ

2. ปล่อยยิ่งลักษณ์ และนักการเมือง

 

 

 

 

 

 

 

FREE YINGLUK - ปัญหาหลักของ คสช.

 

 

 

 

โฆษก กต.มะกัน เผยคำแถลงทบทวนการช่วยเหลือ ยกเลิกโครงการระหว่างไทย-สหรัฐ จี้ กลับสู่ระบอบ ปชต. ผ่านเลือกตั้ง-ปล่อยผู้นำการเมือง 
      
วันนี้ (25พ.ค.) น.ส.มารี ฮาร์ฟ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา เผยคำแถลง สืบเนื่องจากเหตุการณ์รัฐประหารโดยกองทัพในประเทศไทย สหรัฐฯ ยังคงพิจารณาทบทวนความช่วยเหลือและความร่วมมือทางทหารและด้านอื่นๆ ตามที่กฎหมายสหรัฐฯ กำหนด
       
นอกเหนือจากการระงับเงินช่วยเหลือต่างประเทศแก่ประเทศไทยดังที่ได้ประกาศแล้วก่อนหน้านี้ ในวันนี้ กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ได้ประกาศยกเลิกการฝึกร่วม CARAT ซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างการฝึก รวมถึงโครงการแลกเปลี่ยนสำหรับเจ้าหน้าที่ระดับอาวุโสบางโครงการ อีกทั้งยกเลิกโครงการฝึกอบรมการใช้อาวุธปืนแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจไทยซึ่งเป็นโครงการที่สนับสนุนการเงินโดยรัฐบาลสหรัฐฯ และมีกำหนดเริ่มการอบรมในวันที่ 26 พฤษภาคม ตลอดจนยกเลิกการเดินทางศึกษาดูงาน ณ สหรัฐอเมริกา ที่รัฐบาลสหรัฐฯ สนับสนุนค่าใช้จ่าย สำหรับเจ้าหน้าที่ตำรวจอาวุโสของไทยหลายคนในช่วงเดือนมิถุนายน ซึ่งรวมถึงการเยี่ยมชมสำนักงานสอบสวนกลางแห่งสหรัฐอเมริกา (เอฟบีไอ) และการพบปะกับเจ้าหน้าที่อาวุโสฝ่ายการบังคับใช้กฎหมายของสหรัฐฯ
       
สหรัฐฯ ขอเรียกร้องให้ประเทศไทยกลับมามีการบริหารแผ่นดินโดยพลเรือนทันที 
และปล่อยตัวผู้นำทางการเมืองที่ถูกควบคุมตัว ตลอดจนขอเรียกร้องให้ประเทศกลับสู่ระบอบประชาธิปไตยผ่านการเลือกตั้งแต่เนิ่นๆ และขอให้เคารพสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพขั้นพื้นฐาน

 

 

 

 

ข่าว : ผู้จัดการ

25 พฤษภาคม 2557


 

 

 

 

ปัดตอบ "ปล่อยยิ่งลักษณ์" เมื่อไหร่ !

 

 

คสช. ขากรรไกรค้าง !

 

 

อ้าง "กักยิ่งลักษณ์-เจ๊แดง-สมชาย ให้ทหารเหยียบบ้านแม่ริม และจับลูกโอ๊ค" ทุกอย่างทำไปเพราะจำเป็น มิใช่เพราะเกลียดชังเป็นการส่วนตัว

 

 

 

 

 

 

ขอความเห็นใจ

 

ประกาศ คสช. เรื่อง ของความเห็นใจ

 

โปรดเห็นใจผมด้วย ผมจำเป็นต้องยึดอำนาจ เพราะประเทศชาติขาดสามัคคี ผมจำเป็นต้องทำอย่างนี้ (เช่นจับลูกโอ๊ค) มิใช่เพราะเกลียดชังเป็นการส่วนตัว ดังนั้น ก็ขอความเห็นใจ ส่วนผมจะเห็นใจใครหรือไม่นั้นห้ามถาม  ! (ลงนาม)

 

 

 

 

"วินธัย" ย้ำ คสช. ไม่ได้ควบคุมตัว "โอ๊ค" เผยอาจมีคุยนอกรอบตระกูลชินฯ ปัดตอบปล่อยตัว "ยิ่งลักษณ์" เมื่อไหร่ ลั่นจนท.ต้องใช้กฎหมายผสมวิธีที่ละเอียดอ่อนกับกลุ่มต่อต้าน หวังเกิดความสงบเรียบร้อยมากที่สุด

 

เมื่อเวลา10.40 น. วันที่ 25 พ.ค. ที่อาคารที่พักนักกีฬากำลังเอก ภายในสโมสรทหารบก ถ.วิภาวดีรังสิต พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกองทัพบก กล่าวถึงกรณีที่มีการเผยแพร่ภาพ นายพานทองแท้  ชินวัตร บุตรชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ถูกทหารควบคุมตัวนั้น ว่า  ทุกคนที่มีรายชื่อตามคำสั่งให้เข้ามารายงานตัว ส่วนใหญ่ไม่มีเจ้าหน้าที่นำตัวมาส่วนเรื่องภาพที่ปรากฏนั้นตนไม่มีข้อมูล แต่ทราบว่าเดิมนายพานทองแท้ พักอยู่ที่ จ.เชียงใหม่ หลังจากได้มีการพูดคุยทำความเข้าใจกันกับเจ้าหน้าที่จึงได้ส่งให้กลับบ้านใน กทม. ตามที่เจ้าตัวประสงค์ เพราะฉะนั้นขอให้เข้าใจสิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะหัวหน้าคณะ คสช. ได้ทำไปนั้น มิได้เกิดมาจากความเกลียดชังหรือเกิดมาจากความเห็นส่วนตัว แต่ด้วยความจำเป็นที่จะต้องให้งานบริหารราชการและการรักษาความสงบในห้วงนี้ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ประเทศชาติเดินหน้าต่อไปได้

 

 

เมื่อถามว่า จะมีการประสานบุคคลในครอบครัวตระกูลชินวัตร  โดยเฉพาะคุณหญิงพจมาน ณ  ป้อมเพชร อดีตภรรยาของ พ.ต.ท.ทักษิณ มาทำความเข้าใจด้วยหรือไม่ พ.อ.วินธัย  กล่าวว่า  อาจเป็นไปได้ที่อาจมีการพูดคุยนอกรอบแต่ไม่มีข้อมูลชัดเจนที่เพียงพอที่จะยืนยันได้ ทั้งนี้ คสช. มีหลักคิดคือการเชิญหลายฝ่ายมาทำความเข้าใจและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพื่อขอความร่วมมือเดินไปข้างให้บ้านเมืองสงบ ส่วนใหญ่เป็นเรื่องการทำความเข้าใจ ส่วนรายละเอียดนั้นเป็นไปตามคำสั่งของ คสช.

 

 

เมื่อถามว่า ได้พูดคุยนอกรอบ พ.ต.ท.ทักษิณ หรือไม่ พ.อ.วินธัย กล่าวว่า ขณะนี้ตนไม่มีข้อมูล

 

เมื่อถามต่อว่า ขณะนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีถูกปล่อยตัวแล้วหรือยัง

 

พ.อ.วินธัย กล่าวต่อว่า จะเห็นได้ว่ามีหลายท่านที่ไปรายงานตัวเฉย ๆ และได้กลับบ้านเลย โดยขอความร่วมมือ ว่า จะเดินทางไปไหนขอให้ติดต่อกับทางเจ้าหน้าที่ทหารก่อน ส่วนที่เห็นได้ชัดในขณะนี้คือนายจารุพงศ์  เรืองสุวรรณ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และอดีต รมว.มหาดไทย รวมถึงนายจาตุรนต์ ฉายแสง  อดีต รมว.ศึกษาธิการ ยังไม่ได้มารายงานตัว ซึ่งจะต้องมีการดำเนินการตามกฎหมายที่ได้ประกาศไปแล้วอย่างไรก็ตามขณะนี้มีบุคคลที่ คสช. มีคำสั่งให้มารายงานตัวทั้งหมดมารายงานตัวแล้วประมาณ 90%  แต่การรับรายงานตัวยังไม่ได้สิ้นกระบวนการทั้งหมดจึงยังไม่สามารถสรุปยอดได้

 

เมื่อถามถึงกรณีที่มีกลุ่มที่ออกมาต่อต้านการยึดอำนาจ พ.อ.วินธัย กล่าวว่า  ขณะนี้ คสช. ได้มอบนโยบายระดับพื้นที่ และก็มีหลายกลุ่มที่มีความเข้าใจแต่ต้องติดตามดูอยู่ อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ต้องใช้มาตรทางกฎหมาย ผสมกับวิธีที่ละเอียดอ่อนเพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อยมากที่สุด.

 

 

 

ข่าว : เดลินิวส์

25 พฤษภาคม 2557


 

 

 

 

NO RESIGN !

 

 

บิ๊กแจ๊ดลั่นวาจาลูกผู้ชาย

 

"ไม่ลาออก"

 

ครั้งก่อนผมเคยพูดจริงฮะว่า "ถ้าประชาธิปัตย์ได้เป็นรัฐบาล ผมจะลาออกทันที แต่นี่มิใช่รัฐบาลประชาธิปัตย์ จะหาว่าผมเสียสัตย์ไม่ได้" อืม ก็จริงของบิ๊กแจ๊ดนะ ใครจะหาว่าตระบัดสัตย์ก็ฟังให้ดี ว่าที่บิ๊กแจ๊ดเคยพูดไว้น่ะ ตรงกันไหม ?

 

 

 

 

 

 

บิ๊กแจ๊ด-พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง

อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.)

 

 

 

'บิ๊กแจ๊ด' ลั่นลาออกแน่ หาก ปชป. เป็นรัฐบาล ไม่ต้องเรียกร้อง

 

เมื่อวันที่ 18 ม.ค. 2556 พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ให้สัมภาษณ์กรณีนายวัชระ เพชรทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ แถลงเรียกร้องให้ลาออกจากตำแหน่ง เนื่องจากการสอบสวนคดีนายราเมศ รัตนชะเวง รองโฆษกและทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ ถูกทำร้าย ไม่มีความคืบหน้า ว่า "ผมบอกแล้ว ผมเคยพูดแล้วว่าไม่ต้องเรียกร้องให้ผมลาออกหรอก ถ้าพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลเมื่อไหร่ ผมลาออกทันทีอยู่แล้ว ไม่ต้องเรียกร้อง ผมเป็นคนรักษาคำพูด"

 

 

 

 

 

 

"มีวันนี้เพราะพี่ให้"

ภาพดังของบิ๊กแจ๊ด

 

กดที่ภาพเพื่อฟังเพลง "พี่มีแต่ให้" ของเอกชัย ฉิมพะวงศ์

 

 

 

"คำรณวิทย์" เข้ารายงานตัว ตร. หลังถูกเด้ง - ระบุยังไม่คิดลาออก ขอทำงานต่อจนเกษียณ

 

จากกรณี พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ รักษาการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีหนังสือราชการระบุคำสั่งจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรื่อง "ให้ข้าราชการตำรวจไปปฏิบัติราชการ" โดยในหนังสือดังกล่าวระบุว่า ให้ข้าราชการตำรวจจำนวน 8 นาย ไปปฏิบัติราชการในสำนักตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2552 ซึ่งมีรายชื่อดังต่อไปนี้.. 

 

1. พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการ ตำรวจนครบาล

 

2. พล.ต.ท.นเรศ นันทโชติ ผู้บัญชาการ ตำรวจภูธรนครบาล 1

 

3. พล.ต.ท.กวี สุภานันท์ ผู้บัญชาการ ตำรวจภูธรนครบาล 2

 

4. พล.ต.ท.อนุชัย เล็กบำรุง ผู้บัญชาการ ตำรวจภูธรนครบาล 4

 

5. พล.ต.ท.สุเทพ เดชรักษา ผู้บัญชาการ ตำรวจภูธรนครบาล 5

 

6. พล.ต.ท.หาญพล นิตย์วิบูลย์ ผู้บัญชาการ ตำรวจภูธรนครบาล 7

 

7. พล.ต.ท.ภาณุ เกิดลาภผล ผู้บัญชาการ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง

 

8. พล.ต.ท.สฤษฎ์ชัย เอนกเวียง ผู้บัญชาการ ตำรวจสันติบาล

 

ล่่าสุด วันที่ 25 พ.พล...คำรณวิทย์  เปิดเผยภายหลังรายงานตัวที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) สั้นๆ ว่า เบื้องต้นขณะนี้ได้รายงานตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตนยังคงปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะเกษียณอายุราชการ ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าจะลาออกนั้น ตนไม่ทราบ ยืนยันว่า กระแสข่าวดังกล่าวไม่มีปัญหาแต่อย่างใด ยินดีที่จะปฏิบัติตามคำสั่ง ตร. จนกว่าจะหมดหน้าที่ในอีกไม่กี่เดือนที่จะถึงนี้

 

 

 

 

 

ข่าว : ข่าวสด

25 พฤษภาคม 2557


 

 

 

 

ส่งโอ๊คกลับบ้าน !

 

 

คสช.แจงข่าวพานทองแท้ถูกจับที่เชียงใหม่

 

"เปล่ารังแกเด็ก"

 

กลัวลูกโอ๊คกลับบ้านไม่ถูก เลยให้คนไปส่ง ประเดี๋ยวคุณพ่อแม้วเป็นห่วง ดูสิส่งไกล๊ไกล นั่งเฮลิคอปเตอร์จากเชียงใหม่ถึงกรุงเทพฯ ทางไกลก็ต้องใช้เวลานานหน่อย (กว่าจะสอบปากคำเสร็จ) ขออภัยในความล่าช้า

 

 

 

 

ยิ้มก็เห็นแก้ม แย้มก็เห็นไรฟัน

 

 

 

 

 

 

ชุดส่งโอ๊คกลับบ้าน

บางคนส่งให้ทั้ง ข้าวผัด-โอเลี้ยง 7 วันเต็มๆ อิอิ

 

 

 

"ประยุทธ์ จันทร์โอชา" แจงปรับย้าย ตร.-ทหาร ไม่ใช่หยามศักดิ์ศรี ชี้แค่ลดแรงกดดัน ยันไม่ซ้อม-ทรมาน บุคคลสำคัญที่ถูกคุมตัว ลั่นไม่เกิน 7 วันปล่อย ย้ำไม่ได้ทำเพื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง

 

วันที่ 25 พ.ค. นางสาววาสนา นาน่วม ผู้สื่อข่าวสายทหาร โพสต์บนเฟซบุ๊กส่วนตัว Wassana Nanuam ความว่า พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษก ทบ. ได้เผยแพร่คำชี้แจงของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.และหัวหน้า คสช. ต่อการปฏิบัติการของ คสช. ตามข้อความดังนี้

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. และหัวหน้า คสช. ชี้แจงเรื่องการปรับย้ายการปฏิบัติหน้าที่ของ พลเรือนตำรวจทหารว่า ยืนยันไม่ได้เป็นการลดทอนในเกียรติยศศักดิ์ศรีของบุคคลหรือหน่วยงานใด แต่จำเป็นต้องลดความกดดันที่มีต่อกลุ่มบุคคลดังกล่าว

สำหรับตำแหน่ง ผบ.ตร. ผู้ที่จะมารักษาการ แทนก็มาจากรอง ผบ.ตร.ซึ่งมีลำดับอาวุโสอันดับ 1 ซึ่งทั้งหมดก็เพื่อให้เกิดความไว้วางใจจากสังคม และประชาชน อยากให้เห็นใจผู้ที่ถูกปรับย้ายการปฏิบัติหน้าที่ และงดที่จะแสดงออกถึงการดูถูกเกลียดชังกัน เพราะท่านเหล่านั้นไม่ได้มีความผิดใดๆ ขอให้ถือว่าเป็นการปรับย้ายเพื่อให้เกิดความเหมาะสมต่อสถานการณ์ในห้วงปัจจุบัน อยากฝากให้ทุกคนได้ให้ความร่วมมือกับผู้ที่มารักษาการแทนด้วย

ส่วนเรื่องการควบคุมตัวบุคคลผู้ที่ถูกเรียกรายงานตัว พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เพื่อทำความเข้าใจในข้อขัดแย้ง และให้ชี้แจงข้อเท็จจริงหลังการปฏิบัติของแต่ละพวก แต่ละฝ่าย และเพื่อเสาะหาข้อเท็จจริง โดยได้จากสถานที่ดูแลที่เหมาะสม ไม่ได้มีพันธนาการ ซ้อม ทรมานแต่อย่างใด พร้อมให้เกียรติทุกคน

โดยให้เห็นถึงความจำเป็นว่า ต้องร่วมมือกันแก้ไขปัญหาบ้านเมืองในขณะนี้ ขณะนี้ได้ทยอยปล่อยกลับบ้านแล้วเป็นจำนวนมาก โดยการควบคุมตามกฎหมายไม่เกิน 7 วัน ซึ่งบางคนได้ปล่อยไปในวันแรกๆ แล้ว โดยได้จัดลำดับจำนวนวันในการควบคุมตัวตามความสำคัญของแต่ละบุคคล ซึ่งจะได้รายงานให้ทราบเป็นระยะ

รวมถึงผู้ที่ถูกควบคุมที่มีหมายจับหรือมีคดีติดตัว จะได้นำเข้ามอบตัว เพื่อดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่วันจันทร์เป็นต้นไป

นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า มีจับกุมอาวุธสงครามได้จำนวนมาก ซึ่งยังคงจะต้องดำเนินการต่อไปเรื่อยๆ เพื่อเป็นการรักษาความสงบเรียบร้อย อยากขอให้ประชาชนทุกภาคส่วน หลีกเลี่ยงการใช้ชุมนุมประท้วงต่อต้าน เพราะในขณะนี้ กระบวนการประชาธิปไตย ทำไม่ได้เป็นปกติ คสช.ไม่ได้มุ่งหวังทำเพื่อประโยชน์ผู้หนึ่งผู้ใด แต่เพื่อคืนความสุขให้คนไทยทุกคน และจะนำไปสู่การสร้างความมั่นใจ ในเสถียรภาพ จากต่างประเทศเพื่อเดินหน้าต่อไป

"ขอความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่พลเรือนตำรวจทหารทุกคน ได้อดทนเสียสละและยอมรับในหลักการ การขจัดข้อขัดแย้งของประเทศ อาจมีผลกระทบต่อองค์กรอยู่บ้าง ต้องร่วมมือช่วยกันต่อไป มิฉะนั้น เราจะกลายเป็นรัฐที่ล้มเหลว ทุกคนไม่มีความสุข"

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ผู้ที่อาศัยโซเชียลมีเดีย ในการยุยงปลุกปั่น ขอให้หยุดการกระทำดังกล่าว เพราะไม่ได้เกิดประโยชน์ต่อใครเลย ขอให้สื่อลดหรือระวังการพูดจา วิพากษ์วิจารณ์ ให้ร้ายทุกพวกทุกฝ่าย โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ทั้ง พลเรือน ตำรวจ ทหารให้เสียหายโดยเด็ดขาด

กรณี นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดิมพักอยู่ที่ จ.เชียงใหม่ หลังจากได้มีการพูดคุยทำความเข้าใจกัน จึงได้ส่งให้กลับบ้านในกรุงเทพฯ ตามที่เจ้าตัวประสงค์

"ขอให้เข้าใจสิ่งที่ผมได้ทำไปนั้นมิได้เกิดมาจากความเกลียดชัง หรือเกิดมาจากความเห็นส่วนตัว แต่ด้วยความจำเป็นที่จะต้องให้งานบริหารราชการ และการรักษาความสงบในห้วงนี้ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ประเทศชาติเดินหน้าต่อไปได้" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว.

 

 

ข่าว : ไทยรัฐ

25 พฤษภาคม 2557


 

 

 

 

อายัดทรัพย์ 2 จา !

 

 

จารุพงษ์ เรืองสุวรรณ - จาตุรนต์ ฉายแสง

 

หลังประกาศขัดขืน-ต่อต้านรัฐประหาร

 

 

 

 

 

 

จารุพงษ์ เรืองสุวรรณ

หัวหน้าพรรคเพื่อไทย

อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

 

 

 

 

 

 

 

จดหมายนายจารุพงษ์ เรืองสุวรรณ

 

 

 

 

 

 

 

 

คสช. สั่งสถาบันการเงินระงับทำธุรกรรมการเงิน อายัดบัญชี "จารุพงษ์ เรืองสุวรรณ" และ"จาตุรนต์ ฉายแสง" และรับซื้อ-แลกเปลี่ยนเช็ค ตั๋วสัญญาใช้เงิน ตั๋วแลก หรือตราสารทางการเงินอื่นๆให้กับบุคคลทั้ง 2 หลังฝ่าฝืนไม่มารายงานตัว...

 

เมื่อวันที่ 24 พ.ค. พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แถลงคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 10 เรื่อง ห้ามมิให้กระทำการใดๆ หรือสั่งให้การทำการใดๆ เกี่ยวกับการทำธุรกรรมทางการเงิน หรือการดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินของบุคคล เท่าที่จำเป็นแก่การรักษาความมั่นคงของชาติ และความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนโดยรวม เนื่องจากปรากฎว่าบุคคลที่มีรายชื่อต้องมารายงานตัวบางราย ฝ่าฝืนไม่มารายงานตัวตามคำสั่งดังกล่าว ดังนั้นเพื่อป้องกัน ระงับ มิให้บุคคลทั้ง 2 กระทำการช่วยเหลือหรือสนับสนุนด้านการเงินแก่บุคคล หรือกลุ่มบุคคลที่กระทำการ หรือมีการกระทำที่ก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยของบ้านเมือง

 

ทั้งนี้ จึงออกคำสั่ง ห้ามมิให้สถาบันการเงินตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจสถาบันการเงิน ธนาคาร ตามที่ได้มีกฎหมายจัดตั้งขึ้นโดยเฉพาะ บริษัทหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ บริษัทประกันชีวิตตามกฎหมายว่าด้วยการประกันชีวิต และบริษัทประกันวินาศภัยตามกฎหมายว่าด้วยการประกันวินาศภัย และสหกรณ์ตามกฎหมายว่าด้วยสหกรณ์ นิติบุคคลที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับปัจจัยชำระเงินต่างประเทศ ตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน นิติบุคคลที่ได้รับอนุญาตให้บริการโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์

 

รวมถึง บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด นิติบุคคลที่เป็นที่ประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าตามกฎหมายว่าด้วยสัญญา ซื้อขายล่วงหน้า และนิติบุคคลที่เป็นผู้ประกอบธุรกิจการซื้อขายล่วงหน้าตามกฎหมายว่าด้วยการ ซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า ทำนิติกรรมสัญญา หรือการดำเนินการใด ๆ ทางการเงิน ทางธุรกิจ หรือการดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สิน และห้ามมิให้บุคคลหรือนิติบุคคลใดรับซื้อ หรือรับแลกเปลี่ยนเช็ค ตั๋วสัญญาใช้เงิน ตั๋วแลก หรือ ตราสารทางการเงินอื่น ๆ ที่สั่งจ่ายให้กับนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ และนายจาตุรนต์ ฉายแสง

 

นอกจากนี้ ให้สถาบันการเงิน และนิติบุคคลที่ประกอบธุรกิจดังกล่าว แจ้งและส่งข้อมูลเกี่ยวกับการทำธุรกรรมของบุคคลดังกล่าวที่ได้กระทำขึ้น ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. จนถึงวันที่ 24 พ.ค. 2557 ส่งให้หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ภายใน 3 วันนับตั้งแต่วันที่มีคำสั่ง

 

พร้อมทั้ง ขอเพิกถอนคำสั่งห้ามทำนิติกรรมสัญญา หรือการดำเนินการใด ๆ ทางการเงิน ทางธุรกิจ หรือการดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินกับบุคคลทั้ง 2 เฉพาะรายครั้งแล้วแต่กรณี และให้บุคคลทั้ง 2 พร้อมด้วยสถาบันการเงิน หรือนิติบุคคลที่ประกอบธุรกิจ ดังกล่าวยื่นคำขอ และแสดงตนต่อหัวหน้ารักษาความสงบแห่งชาติ พร้อมด้วยหลักฐานที่แสดงว่าการทำนิติกรรม สัญญา หรือการดำเนินการใด ๆ ทางการเงิน ทางธุรกิจ หรือการดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สิน ไม่ได้เป็นการกระทำ หรือสนับสนุนการกระทำ เพื่อให้เกิดเหตุแห่งความไม่สงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ทั้งนี้ ผู้ใดฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ.

 

 

 

 

ข่าว : ไทยรัฐ

25 พฤษภาคม 2557


 

 

 

เลิกร่วมมือ !

 

 

กลาโหมสหรัฐระงับความสัมพันธ์กับกองทัพไทย

 

หลังใช้วิธี "กักขัง-หน่วงเหนี่ยว" นักการเมือง

 

 

 

โดยเฉพาะ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

 

 

จี้ประยุทธรีบคืนประชาธิปไตยในทันที

 

ขณะที่ "โอบาม่า" ยังไม่เท็คแอ๊คชั่น

เพราะถ้าถึงขั้นนั้นก็คงสิ้นสายสัมพันธ์

 

 

 

 

 

 

พล.ร.ต. จอห์น เคอร์บี โฆษกเพนตากอน

 

 

 

 

 

 

รอยเตอร์/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ (เพนตากอน) ออกคำแถลงในวันเสาร์ (24) ระบุ กองทัพสหรัฐฯ ขอยกเลิกแผนจัดการฝึกอบรมและเตรียมความพร้อมทางทหารทั้งมวลกับประเทศไทย หลังจากที่กองทัพไทยทำรัฐประหารเข้าควบคุมอำนาจการปกครองประเทศ รวมถึงแจ้งยกเลิกการเดินทางเยือนประเทศไทยของ พล.ร.อ.แฮร์รี แฮร์ริส ผู้บัญชาการ "กองเรือแปซิฟิก" ในเดือนมิถุนายนนี้
       
พล.ร.ต. จอห์น เคอร์บี โฆษกเพนตากอน กล่าวในคำแถลงว่าทางกองทัพสหรัฐฯยังตัดสินใจขอ "ยกเลิกคำเชิญ"เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกองทัพไทยไปเยือนศูนย์บัญชาการกองเรือแปซิฟิกของสหรัฐฯด้วยเช่นกัน
       
"เราขอเน้นย้ำว่า ถือเป็นเรื่องที่มีความสำคัญยิ่ง ที่ทางกองทัพไทยจะต้องยุติการทำรัฐประหารในครั้งนี้ และต้องเร่งนำประชาธิปไตยกลับคืนสู่ประชาชนชาวไทย รวมถึงการจัดให้มีเส้นทางก้าวไปข้างหน้าสู่การเลือกตั้ง" โฆษกเพนตากอน กล่าว
       
ความเคลื่อนไหวล่าสุดของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ มีขึ้นหลังจากที่รัฐบาลอเมริกัน ภายใต้การนำของประธานาธิบดี บารัค โอบามา ประกาศระงับความช่วยเหลือแก่ไทยในวงเงิน 3.5 ล้านดอลลาร์ (ราว 113 ล้านบาท) หรือคิดเป็น 1 ใน 3 ของความช่วยเหลือทั้งหมดที่มอบกับชาติพันธมิตรเก่าแก่แห่งนี้ หลังกองทัพไทยก่อรัฐประหารยึดอำนาจ พร้อมเผยเตรียมทบทวนตัดงบอุดหนุนส่วนอื่นๆ เพิ่มเติม
       
โดยแมรี ฮาร์ฟ โฆษกหญิงกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ออกมาแถลงว่า นอกจากระงับความช่วยเหลือเบื้องต้นแล้ว ทางสหรัฐฯยังกำลังทบทวนงบช่วยเหลือส่วนที่เหลือทั้งหมด ซึ่งมอบให้แก่ไทยรวม 10.5 ล้านดอลลาร์ (ราว 340 ล้านบาท) ในปี 2013
       
นอกจากนี้ ฮาร์ฟ บอกต่อว่า สหรัฐฯกำลังตรวจสอบเงินทุนที่รัฐบาลอเมริกันจัดสรรให้องค์กรระหว่างประเทศ ซึ่งรวมถึงสมาชิกสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือกลุ่มอาเซียน 10 ชาติ เพื่อจำแนกแยกแยะว่าเงินส่วนใดบ้างที่ส่งตรงถึงไทย
       
ทั้งนี้ ภายใต้กฎหมายภายใน สหรัฐฯมีพันธะต้องระงับความช่วยเหลือแก่กองทัพต่างชาติ หากพบว่าทหารของประเทศนั้นๆก่อการรัฐประหาร โดยหนล่าสุดที่วอชิงตันสั่งระงับเงินช่วยเหลือแก่ไทยนั้น เกิดขึ้นหลังจากเหตุรัฐประหารโค่นอำนาจ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ในปี 2006
       
 ล่าสุด ทางกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ออกคำแถลงด่วนจากกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. โดยระบุ สหรัฐฯ ขอยกเลิกความร่วมมือในการฝึกอบรมการใช้อาวุธแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจของไทย หลังเกิดการรัฐประหารในประเทศไทย
 

 

 

 

ข่าว : ผู้จัดการ

25 พฤษภาคม 2557


 

 

 

เปิดคาถามหานิยม  !

 

 

คุ้มกันโอ๊คไม่ถูกรวบตัว

 

"ไทยโชคดี มี ผบ.ทบ. ชื่อ พล.อ.ประยุทธ"

 

 

 

ใครที่เคยกล่าวไว้ว่า ประเทศไทยโชคดี ที่มีอภิสิทธิ์เป็นนายกฯ ผมเชื่อว่า ยังไม่ได้เศษเสี้ยวของความโชคดี ที่ประเทศไทยมี ผบ.ทบ. ที่ชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คนนี้

 

 

โอ๊ค-พานทองแท้ ชินวัตร

11 มกราคม 2557

 

 

 

 

 

 

 

 

'โอ๊ค' บอก 'ไทยโชคดีมี ผบ.ทบ. ชื่อประยุทธ์' ขอหนักแน่น ไม่นำพาประเทศให้พ้นออกไปจากระบอบประชาธิปไตย

 

 

 

11 ม.ค.57 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว "Oak Panthongtae Shinawatra" โดยข้อความระบุว่า

 

 

สวัสดีวันเด็ก 2557  ปีที่มี 2 คำขวัญ ทั้งคำขวัญ จากนายกฯหญิง ที่สนับสนุนการเลือกตั้ง และคำขวัญ จากกำนันกบฏ ที่มุ่งมั่นจะล้มการเลือกตั้ง

 

ตาอิน เอา "เลือกตั้ง" ตานา เอา "เทือกตั้ง" ตกลงกันไม่ได้ สุดท้าย....ตาอยู่ เอา "รถถัง" ออกมากินเรียบ ทุกทีไป..!!

 

 

เป็นสัจธรรมของประชาธิปไตยแบบไทยๆ ที่ดำเนินไปไม่เท่าไหร่ พี่น้องไทยจะต้องโดน รถถังออกมาบังคับ ให้เปลี่ยนแปลงการปกครอง ทุกยุคทุกสมัย ทั้งๆ ที่ในภูมิภาคนี้ เขาเป็นประชาธิปไตยกันหมด แต่พี่ไทยเรากลับโดนพรรคการเมืองเก่าแก่ ยกระดับความขัดแย้งเสียจนประเทศถอยหลังไปทุกทีๆๆๆๆ

 

รถไฟความเร็วสูงที่จะนำความเจริญไปทุกภูมิภาค กลับแปลงร่างเป็น "รถไฟเหาะความเลวสูง" ที่มีพลขับและผู้โดยสารคุ้นหน้าคุ้นตา ล้วนมาจาฟากพรรคการเมืองเดียวกัน แวะฉลองวันเด็กกันสักแป๊บ แล้วก็จะเปลี่ยนโฉมออกมาเรียกร้องให้ขบวนรถถังออกมาวิ่ง แอ่น-แอน-แอ๊น ในที่สุด..!!

 

พี่ใหญ่แห่งอาเซียน เตรียมเปลี่ยนชื่อเป็น "น้องไทย" ได้เลยครับแบบนี้ เตรียมตัวล้าหลัง

 

"เดินตามโสร่งพี่พม่า เดินตามผ้าซิ่นพี่ลาว และเดินวัดรอยเท้าตามพี่เขมร" ได้เลย ถ้ายังคงฝืนสัจธรรมแบบไทยๆ นี้ไม่ได้

 

ความหวังสุดท้ายของพี่น้องไทย อยู่ที่การตัดสินใจอันมีเดิมพันสูงสุดของ อาประยุทธ์ คนเดียวเท่านั้นครับ ใครที่เคยกล่าวไว้ว่า ประเทศไทยโชคดี ที่มีอภิสิทธิ์เป็นนายกฯ ผมเชื่อว่า ยังไม่ได้เศษเสี้ยวของความโชคดี ที่ประเทศไทยมี ผบ.ทบ.ที่ชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คนนี้

 

ขอพระบารมีของพระสยามเทวาธิราชโปรดจงบันดาลให้ อาประยุทธ์มีจิตใจหนักแน่น ไม่แกว่งไหว ไม่นำพาประเทศไทยให้พ้นออกไป จากระบอบประชาธิปไตยด้วยเทอญ....

 

 

 

 

ข่าวเก่าจาก : คมชัดลึก
11 มกราคม 
2557


 

 

 

เปล่ารวบตัวโอ๊ค  !

 

 

คสช. ปฏิเสธข่าว "จับโอ๊ค" กลางสนามบินเชียงใหม่ อ้างไม่มีคำสั่งให้รายงานตัว สำหรับรูปที่เห็นนั้น เป็นเพียงการอำนวยความสะดวกของเจ้าหน้าที่ เอ๊ะ..เจ๊ปูก็ได้รับการอำนวยความสะดวกแบบนี้นี่นา ?

 

 

 

 

 

 

เปล่ารวบตัว !

 

ก็ไม่ได้รวบตัวจริงๆ ฮ่ะ เพราะปล่อยให้เดินสบายเลย

 

 

 

วันที่ 24 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.เชียงใหม่ว่า มีกระแสข่าวลือว่าเจ้าหน้าที่ทหารเข้าพบนายพานทองแท้ ชินวัตร ลูกชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เพื่อแจ้งให้มารายงานตัวกับทหาร นายพานทองแท้ ก็ตอบรับ และขอเดินทางเข้ากทม. พร้อมเจ้าหน้าที่ทหาร โดยเดินทางจากท่าอากาศยานเชียงใหม่ มาลงที่ท่าอากาศยานดอนเมือง โดยมีเจ้าหน้าที่อาวุธครบมือควบคุมตัว

 

อย่างไรก็ตาม พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก ยืนยันว่า ไม่มีการควบคุมตัว นายพานทองแท้ ชินวัตร เพราะไม่มีคำสั่งให้รายงานตัว ขณะที่คนใกล้ชิดยืนยัน นายพานทองแท้ ชินวัตร ไม่ได้ถูกควบคุมตัวอย่างที่ปรากฏเป็นข่าว โดยภาพที่เดินมาพร้อมทหาร เป็นเพียงการมาอำนวยความสะดวกที่สนามบินเท่านั้น

 

เช่นเดียวกับ อินสตาแกรมของ นางพินทองทา คุณากรวงศ์ และนางสาวแพทองธาร ชินวัตร น้องสาวนายพานทองแท้ ที่ระบุเหมือนกันว่า "พี่โอ๊คไม่ได้โดนรวบตัวนะคะ ปลอดภัยดีค่ะ ขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วงและให้กำลังใจครอบครัวเราค่ะ

 


 

 

ข่าว : ข่าวสด
25 พฤษภาคม 
2557


 

 

 

 

 

เดลินิวส์คอนเฟิร์ม

 

จับโอ๊คจริง !

 

 

 

 

 

 

เมื่อวันที่ 24 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 17.00 น. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร ได้บุกเข้าควบคุมตัว นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายของอดีตนายกทักษิณ ขณะที่รอขึ้นเครื่องบินจากสนามบินเชียงใหม่ เพื่อไปกรุงเทพมหานคร โดยเจ้าหน้าที่ทหารได้นำตัว นายพานทองแท้ ขึ้นเครื่องบินเล็ก เพื่อไปลงยังสนามบินดอนเมือง และยังไม่ทราบจุดหมายปลายทางที่แน่ชัด.

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าแหล่งข่าวใกล้ชิด นายพานทองแท้ระบุว่า ข่าวดังกล่าวเป็นเรื่องจริง ส่วนชะตากรรมนายพานทองแท้จะเป็นอย่างไรนั้น ไม่สามารถทราบได้.

 

 

 

 

ข่าว : เดลินิวส์
25 พฤษภาคม 
2557


 

 

 

จับลูกโอ๊ค  !

 

 

คสช. รวบ "พานทองแท้ ชินวัตร" ลูกชายสุดเลิฟของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร คาสนามบินเชียงใหม่ คุมตัวเข้ากรุงเทพฯ แต่อุ๊งอิ้งบอกแฟนคลับ "พี่โอ๊คยังสบายดี"

 

 

ไม่รู้ข่าวไหนจริง ข่าวไหนปลอม ?

 

 

 

 

 

ภาพที่เชื่อว่า พานทองแท้ ถูกจับ ที่สนามบินเชียงใหม่

 

 

 

(ผู้จัดการ) วันนี้ (24 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่า ทางคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยเจ้าหน้าที่คอมมานโดของหน่วยอากาศโยธินได้ควบคุมตัว นายพานทองแท้ ชินวัตร หรือ โอ๊ค บุตรชายคนโต ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ที่จังหวัดเชียงใหม่
       
ทั้งนี้แหล่งข่าวเปิดเผยด้วยว่าเมื่อควบคุมตัวนายพานทองแท้ได้แล้วก็มีใช้การสลับเที่ยวบิน โดยเดินทางผ่านสนามบินเชียงใหม่คุมตัวเข้ามากรุงเทพมหานครผ่านทางเฮลิคอปเตอร์ลงที่สนามบินดอนเมือง ก่อนนำไปควบคุมตัวภายใต้ "ยุทธศาสตร์ตีแตกแยกกลุ่ม"
       
สำหรับข่าวดังกล่าวได้รับการยืนยันจากรายงานของเว็บไซต์หนังสือพิมพ์ข่าวสด ในเครือมติชน ซึ่งมีความใกล้ชิดกับฝั่งพรรคเพื่อไทยและกลุ่มคนเสื้อแดง ขณะเดียวกัน 
เฟซบุ๊กแฟนเพจ ชาวเชียงราย ไม่เอาระบอบทักษิณ ก็มีการเผยแพร่ภาพนายพานทองแท้ถูกควบคุมตัวด้วย พร้อมข้อความระบุว่า "รูปชัดๆ โดนแล้ว !!!! โอ๊ค พานทองแท้ ชินวัตร โดนคุมตัวจากสนามบินเชียงใหม่ขึ้นฮ.มาลงที่ดอนเมืองเมื่อครู่" 
       
       อย่างไรก็ตามเมื่อผู้สื่อข่าว ASTVผู้จัดการ ตรวจสอบย้อนไปยังบัญชีโซเชียลมีเดียที่นายพานทองแท้ใช้เป็นประจำพบว่า ช่วงค่ำวานนี้ (23 พ.ค.) อินสตาแกรม @oak_ptt ของนายพานทองแท้โพสต์ภาพระบุว่าตนเองอยู่ที่หาดป่าตอง จังหวัดภูเก็ต ขณะเดียวกันเมื่อตรวจสอบไปยังอินสตาแกรมของ "เอม" พินทองทา ชินวัตร และ "อุ๊งอิ๊ง" แพทองธาร ชินวัตร น้องสาวทั้งสองคนของนายพานทองแท้ พบว่ายังไม่มีความเคลื่อนไหวอะไรผิดปกติ โดยในช่วง 21.00น. ที่ผ่านมา อินสตาแกรม @aimpintongta ของ "เอม" พินทองทา ยังโพสต์รูปทั่วไป โดยไม่ได้กล่าวถึงการถูกควบคุมตัวของพี่ชายแต่อย่างใด

 

 

 

 

 

 

 

(ไทยรัฐ) เอม - อุ๊งอิ้ง โพสต์ไอจีส่วนตัวสยบข่าวพี่ชาย พานทองแท้ ชินวัตร ถูกรวบสนามบิน จ.เชียงใหม่ ย้ำปลอดภัยดี... 

 

ภายหลังมีภาพที่ชาวโซเชียลเผยแพร่ อ้างว่าเป็นภาพ นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายคนโตของ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร กับ นางพจมาน ณ ป้อมเพชร ถูกคสช.รวบตัวได้ที่เชียงใหม่

 

ล่าสุด  เอม พินทองทา และ อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร น้องสาวแท้ๆ ของ พานทองแท้ ชินวัตร ออกมาโพสต์อินสตาแกรมส่วนตัวว่า พี่โอ๊คไม่ได้โดนรวบตัวนะค่ะ ปลอดภัยดีค่ะ ขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วงและให้กำลังใจครอบครัวเราค่ะ

 

 

 

 

อะลิตเติ้ลบุ๊ดด่ะ ดอทคอม รายงาน
25 พฤษภาคม 
2557


 

 

 

 

ปลอมเพจ คสช.  !

 

 

คสช. ประกาศ มีกลุ่มบุคคลทำ "เฟสบุ๊คปลอม" ในนามคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เหมือนกันเด๊ะ แถมแฟนตรึม เพราะเหมือนกันแม้แต่คำว่า "อนึ่ง" สงสัยพวกนักวิชาการตกอับ อยากช่วยงาน คช. พอไม่ถูกเรียกไปรายงานตัว ก็ทำเพจขึ้นมาเชียร์เสียอย่างนั้นแหละ เดี๋ยวดูเถิด อาจจะมีคำสั่งแต่งตั้ง "พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร" เป็นนายกรัฐมนตรี ลงนามโดย "บิ๊กตู่นะจ๊ะ" โผล่มาก็ได้ รับรองพวกกดไลค์เพียบ อิอิ !

 

 

 

 

 

 

 

 

ด้านล่างนี้เพจจริง

 

 

 

 

 

 

อะลิตเติ้ลบุ๊ดด่ะ ดอทคอม รายงาน
25 พฤษภาคม 
2557


 

 

 

ลองของ คสช.  !

 

ตัดต่อคำสั่งหยุดเรียน

 

 

เฟสบุ๊ค "คสช." โพสต์เอกสารเปรียบเทียบ "ปลอม-จริง" กรณีมีมือดี ทำการตัดต่อคำสั่งคณะปฏิวัติ จ่ากให้หยุดเรียนเพียง 3 วัน จากเดิม"23 พ.ค. ถึง 25 พ.ค. 57" แก้เป็น "23 พ.ค. ถึง 1 ส.ค. 57" แต่ยังไม่รู้ว่าใครบังอาจลูบคมบิ๊กตู่นะจ๊ะ สงสัยพวกเด็กขี้เกียจ ไม่อยากไปโรงเรียน แหมแบบนี้น่าจับมาตีก้น

 

 

 

 

 

 

 

 

อะลิตเติ้ลบุ๊ดด่ะ ดอทคอม รายงาน
25 พฤษภาคม 
2557


 

 

 

คสช.อ้าง !

 

"ในหลวงทรงรับทราบทหารปฏิวัติ"

 

ผ่านสำนักราชเลขาธิการ

 

 

 

 

 

 

 

อะลิตเติ้ลบุ๊ดด่ะ ดอทคอม รายงาน
25 พฤษภาคม 
2557


 

 

 

นายกฯ ส.ว.ตั้ง สะดุด !

 

ประยุทธสั่งยุบวุฒิสภา

 

 

หลังจากเก็บ "วุฒิสภา" เอาไว้ เพื่อให้ประธานวุฒิสภา รับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ตั้งนายกฯพระราชทาน เหมือนสมัยตั้ง"สัญญา ธรรมศักดิ์" แต่สุดท้ายไปไม่รอด ต้องยุบหมด ต่อจากนี้ก็มีทางเดียว คือ ยุบรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ออกรัฐธรรมนูญชั่วคราวใช้ ตั้งสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และตั้งนายกรัฐมนตรี มีหัวหน้าคณะปฏิวัติรับสนองพระบรมราชโองการ เป็นองค์รัฏฐาธิปัตย์ !

 

 

 

 

แก้มวยรายวัน

 

ต่อยไปด้วย ถามพี่เลี้ยงไปด้วย งานหินของบิ๊กตู่

 

 

 

ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ

ฉบับที่ 30/2557
เรื่อง ให้วุฒิสภาสิ้นสุดลง


       
ตามที่ได้มีประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 11/2557 ลงวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ให้วุฒิสภาที่มีอยู่ ณ วันที่ประกาศดังกล่าวมีผลใช้บังคับ ยังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อไปนั้น เพื่อประโยชน์ในการบริหารราชการแผ่นดิน หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จึงมีประกาศดังต่อไปนี้
       
ข้อ 1. ให้วุฒิสภาที่ยังคงปฏิบัติหน้าที่อยู่ ณ วันที่ประกาศฉบับนี้มีผลใช้บังคับ สิ้นสุดลง
       
ข้อ 2. ในกรณีที่มีกฎหมายบัญญัติให้การดำเนินการเรื่องใดต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา สภาผู้แทนราษฎร หรือวุฒิสภา ให้เป็นอำนาจของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ในการให้ความเห็นชอบแทนรัฐสภา สภาผู้แทนราษฎร หรือวุฒิสภา ในเรื่องนั้น

 


       
ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 24 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557
       
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ

 

 

 

 

 

อะลิตเติ้ลบุ๊ดด่ะ ดอทคอม รายงาน
25 พฤษภาคม 
2557


 

 

 

7 วัน อันตราย !

 

คสช. รับ "ขังปู" หนึ่งสัปดาห์

 

 

หลังจากออกข่าวลวงผ่านแม่บ้านเจ๊แดงว่า "ปล่อยสมาชิกตระกูลชินกลับไปกินข้าวที่บ้านแล้ว ไปตามข่าวกันเอาเอง" แต่สุดท้ายก็จำนนต่อพยานว่า ยิ่งลักษณ์-สมชาย-เยาวภา ยังไม่มีใครได้กลับบ้าน หลังจากไปพบ คสช. เมื่อวาน วันนี้ คสช. ยอมแถลงแล้วว่า "สมาชิกตระกูลชินถูกกักตัวไว้ในที่แห่งใดแห่งหนึ่ง" แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ รวมทั้งรับประกันความปลอดภัย ความสะดวกสบายระดับวีไอพี จะขาดก็แต่ "อิสรภาพ" เท่านั้นสิ่งที่จะประกันอิสรภาพและความปลอดภัย ของยิ่งลักษณ์และพี่สาวพี่เขยในช่วง 7 วันนี้ ก็คือ ไม่มีการต่อต้านคณะปฏิวัติจากกลุ่มเสื้อแดง แค่นี้เอง เกมง่ายๆ สั่งเสื้อแดงไม่ได้ ก็ไม่ต้องออกค่ายทหาร แฟร์ไหมคะ ?

 

 

 

 

 

 

คสช.ยืนยัน 7 วัน ปล่อยยิ่งลักษณ์

 

 

 

 

 

 

′ยิ่งลักษณ์′ อยู่สบาย ′คสช.′ เผยคุมตัวไม่เกิน 1 สัปดาห์

 

พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ความเป็นอยู่ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และแกนนำทุกคน ได้รับความสะดวกสบาย มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบถ้วน ขณะที่ระยะเวลาในการควบคุมตัวนั้นแล้วแต่บุคคล อาจเป็น 3 วัน 5 วัน แต่จะไม่เกิน 1 สัปดาห์ ส่วนการปล่อยตัวนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปปัตย์ นั้นเนื่องจากพิจารณาจากความสัมพันธ์กับเหตุการณ์ความไม่สงบในบ้านเมือง

 

 

 

่าว มติชน
24 พฤษภาคม 
2557


 

 

 

 

คอนเฟิร์ม !

 

ปูยังไม่กลับบ้าน

 

 

3 สมาชิกตระกูลชิน ยังติดค่ายทหาร

ไม่รู้เมื่อไหร่จะปล่อยตัว

 

 

 

เดลินิวส์พลิกข่าว หลังจากเขียนฟันธงไปเมื่อวันก่อน ว่า คสช. ปล่อยตัวยิ่งลักษณ์ เจ๊แดง และสมชาย กลับบ้านหมดแล้ว อ้างแม่บ้านให้สัมภาษณ์ว่า "ทุกคนสบายดี" แหมพูดเหมือนไม่อยากพบหน้าใครงั้นแหละ แต่วันนี้ เดลินิวส์ยืนยันว่า สมาชิกระดับอาวุโสของตระกูลชินทั้งสามท่าน ยังไม่ได้กลับบ้าน ไม่ว่าจะเป็นบ้านที่กรุงเทพฯหรือที่เชียงใหม่ ไม่มีใครเห็น ยิ่งลักษณ์-สมชาย-เยาวภา เลย

 

 

 

 

 

คำถามที่น่าห่วง

"ทุกคนปลอดภัยดี ไม่ต้องเป็นห่วง"

 

 

 

คสช. ยังควบคุมตัว "ปู-สมชาย-เจ๊แดง"

 

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 24 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรานยงาน ความเคลื่อนไหวกรณีที่คณะรักษาความมั่นคงแห่งชาติ ประกาศให้บุคคลเข้ารายงานตัวเมื่อวันที่ 23 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งได้มีบรรดาอดตีกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย อดีตรัฐมนตรี และผู้ที่มีความเคลื่อนไหวในทางการเมืองต่าง ๆเข้าพบนั้น ซึ่งในช่วงเย็นก็มีกระแสของออกมาว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์  ได้เข้าไปรางานตัวและได้รับการปล่อยตัวออกมาแล้วนั้น

 

ช่วงเช้านี้ จากการตรวจสอบอีกครั้ง ได้มีการยืนยันว่า ทั้ง 3 คนยังไม่ได้กลับบ้าน แต่มีคนโทรไปบอกคนที่บ้านให้สบายใจได้ว่า "น.ส.ยิ่งลักษณ์ นายสมชาย และนางเยาวภา ปลอดภัยดี ไม่ต้องเป็นห่วง"

 

 

 

 

่าว เดลินิวส์
24 พฤษภาคม 
2557


 

 

 

 

 

คนเก่ง "อั้ม เนโกะ" ก็โดน !

 

 

คสช.เรียกรายงานตัว บ่ายโมงวันนี้ ที่เทเวศน์

 

 

 

สมัยก่อน ในประเทศลาว เขาเรียก "การรายงานตัว" ว่า "ไปสัมมนา"ทราบว่าบางคนติดสัมมนาอยู่นาน ไม่ได้กลับบ้านจนตายก็มี

 

 

ว่าแต่ คสช. ไม่นิมนต์ "พระครูพัน-วัดศรีบุญเรือง" กับ "พระมหาโชว์แห่ง มจร." ไปปฏิบัติธรรมร่วมกับพุทธะอิสระบ้างหรือฮะ เห็นสองท่านนี้ก็เล่นการเมืองอย่างเต็มตัวมานานแล้ว ใครห้ามฟังซะที่ไหน

 

 

 

 

 

พระดังจีวรแดง

 

ซ้าย ดร.พระมหาโชว์ ทสฺสนีโย วัดศรีสุดาราม สำนักส่งเสริมพระพุทธศาสนาและบริการสังคม มจร.

 

ขวา : พระครูพันเทวา วัดศรีบุญเรือง เชียงใหม่ เจ้าของตำรับเพ่งตะวันแก้กรรม

 

 

 

 

 

นายศรันย์ ฉุยฉาย หรืออั้มเนโกะ

นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ออกมาประท้วงการประกาศกฎอัยการศึกของ คสช.

วันนี้ ถูก คสช. เรียกตัวไปอบรม อาจจะต้องใช้เวลานานหน่อย

 

 

 

 

ะลิตเติ้ลบุ๊ดด่ะ ดอทคอม รายงาน
24 พฤษภาคม 
2557


 

 

 

สนธิ ลิ้มทองกุล โดน !

 

 

คสช.เรียกรายงานตัว บ่ายโมงวันนี้ ที่เทเวศน์

 

 

อา..ไม่ทราบว่าจะเริ่มรายงานอย่างไร ในเมื่อก่อนหน้านี้ นายสนธิเคยด่าพล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา ออกสื่อหลายครั้ง จนกลายเป็นไม้เบื่อไม้เมา ถึงกับ พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา ทนไม่ไหว เคยให้สัมภาษณ์ด่าสื่อผู้จัดการ แล้วบานปลายกลายเป็นวิวาทะใหญ่มาแล้ว

 

 

 

 

 

สนธิ ลิ้มทองกุล

เจ้าพ่อม็อบนัมเบอร์วันของประเทศไทย

 

 

 

 


 

 

คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 5/2557
 

เรื่อง ให้บุคคลมารายงานตัวเพิ่มเติม
       


เพื่อให้การรักษาความสงบและการแก้ไขปัญหาบ้านเมือง เป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงให้บุคคลมารายงานตัวเพิ่มเติม ณ หอประชุมกองทัพบก เทเวศร์ ในวันที่ 24 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557 เวลา 13.00 น. ตามรายชื่อดังต่อไปนี้
       
       1. นายเกรียง กัลป์ตินันท์
       2. พล.ต.ท.ฉลอง สนใจ
       3. พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก
       4. นายพิพัฒน์ชัย ไพบูลย์
     
  5. นายสนธิ ลิ้มทองกุล
       6. นายวรเจตน์ ภาคีรัตน์
       7. นายเพชรวรรต วัฒนพงศ์ศิริกุล
       8. จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไชยศรีษะ
       9. นายสมศักดิ์ เทพสุทิน
       10. นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ
       11. นายอนุทิน ชาญวีรกูล
       12. นายสุทิน คลังแสง
       13. นายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์
       14. นายสุนัย จุลพงศธร
       15. นายสงวน พงษ์มณี
       16. นายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์
       17. นายธนพล อิ๋วสกุล
       18. นายณัฐ สัตยาภรพิสุทธิ์
       19. นายจักรพันธ์ บริรักษ์
       20. นายธันย์ฐวุฒิ ทวีวโดมกุล
       21. นายวราวุธ ฐานังกรณ์
       22. นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล
       23. นายสุรภักดิ์ ภูไชยแสง
       24. นายสุรพศ ทวีศักดิ์
       25. นายพันทิวา ภูมิประเทศ
       26. น.ต.ชนินทร์ คล้ายคลึง
       27. นายนิธิวัต วรรณศิริ
       28. นายศรัณย์ ฉุยฉาย
       29. น.ส.สุดา รังกุพันธ์
       30. นายไตรรงค์ สินสืบผล
       31. นายชัยอนันท์ ไผ่สีทอง
       32. นายชฤต โยนกนาคพันธุ์
       33. นายวัฒน์ วรรลยางกูร
       34. น.ส.สาวตรี สุขศรี
       35. นางสุดสงวน สุธีสร


       
สั่ง ณ วันที่ 24 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557
       
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ

 

 

 

 

ะลิตเติ้ลบุ๊ดด่ะ ดอทคอม รายงาน
24 พฤษภาคม 
2557


 

 

 

 

ตีก้นประยุทธ !

 

 

ยูเอสหยุดช่วยไทยครั้งแรก

 

112 ล้านบาท !

 

ข้อหาทำรัฐประหารโดยไร้เหตุผล

 

 

ย้ำแล้วย้ำอีก

"ในฐานะเป็นพันธมิตรใกล้ชิดที่สุด"

 

 

โอ้ ไอ้กันมันคงเห็นไทยเป็นเกาะกงมั๊ง ถึงได้ให้เงินกินขนมทีละ 100 ล้าน กินกันจนฟันผุเลยสิท่า พันธมิตร แปลว่าอะไรนะ แปลว่า ลูกแหง่ของอเมริกามั๊ง ถ้าทำงานระหว่างประเทศเช่นนี้ ก็เห็นทีความเป็นอภิมหาอำนาจคงหาได้ไม่ยากหรอก ถุยเอาเงินร้อยล้านมาขู่ประเทศไทย แค่ทักษิณคนเดียวก็มีเป็นแสนล้านแล้ว มิน่า พันธมิตรอเมริกาจึงหายากขึ้นทุกวัน เพราะมันช่วยเหลือกัน "กระจอกๆ" แบบนี้นี่เอง เฮ้อ เซ็งจุงเบย !

 

 

 

 

 

 

 

 

สหรัฐอเมริกา "ระงับ" ความช่วยเหลือแก่ไทย งวดแรก

 

 

สำนักข่าวเอพี รายงาน เมื่อวันที่ 23 พ.ค. ตามเวลาสหรัฐอเมริกา ว่า น.ส.มารี ฮาร์ฟ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ แถลงว่า รัฐบาลสหรัฐตัดสินใจระงับเงินช่วยเหลือด้านการทหารแก่ไทยในเบื้องต้น 3.5 ล้านดอลลาร์ หรือราว 112 ล้านบาท หลังจากเกิดการรัฐประหารในไทย

 

ขณะเดียวกัน รัฐบาลสหรัฐกำลังทบทวนความช่วยเหลือระดับทวิภาคีต่อไทย มูลค่า 7 ล้านเหรียญ หรือราว 224 ล้านบาท และความช่วยเหลือจากโครงการระดับสากลและระดับภูมิภาคเป็นลำดับต่อไป

 

สำหรับโครงการที่ระงับไปแล้วได้แก่ โครงการการเงินด้านการทหารต่างประเทศที่ให้ทุนสำหรับการซื้ออาวุธ โครงการอบรมและให้การศึกษาด้านการทหารระหว่างประเทศแก่เจ้าหน้าที่

 

รายงานระบุว่า ไทยเป็นพันธมิตรและหุ้นส่วนทางทหารที่ใกล้ชิดกับสหรัฐ เหตุรัฐประหารล่าสุดนี้ นายจอห์น แคร์รี่ รมว.สหรัฐ แถลงว่า ไม่มีเหตุผลอันชอบด้วยกฎหมาย และขอให้ฟื้นฟูรัฐบาลพลเรือนพร้อมกลับสู่ประชาธิปไตยโดยเร็ว

 

 

 

ข่าว : มติชน
24 พฤษภาคม 
2557


 

 

 

 

เหยียบบ้านทักษิณ !

 

 

ปฏิบัติการเชิงสัญลักษณ์

 

"เชียงใหม่ไม่ใช่ฐานของใคร"

 

 

คอการเมืองวิจารณ์แซ่ด

"เล่นกันขนาดนั้นเชียวเหรอ แล้วทักษิณว่าไง ?"

 

 

 

 

 

 

เหยียบบ้านทักษิณ = เหยียบจมูกแม้ว !

 

 

 

หลังการประกาศปฏิวัติ ยึดอำนาจประเทศไทย ในวันที่ 22 พฤษภาคม ที่ผ่านมา นอกจากประกาศคณะปฏิวัตินับสิบๆ ฉบับที่ประกาศออกมาจนคนอ่านกันไม่ทันแล้ว ยังมีกิจกรรมสำคัญอื่นๆ อาทิเช่น การสลายม็อบ นปช. ที่ถนนอักษะ สลายม็อบ กปปส. หลายจุดในกรุงเทพมหานคร การสั่งให้นักการเมืองและผู้มีอิทธิพลทางการเมืองเข้ารายงานตัว การเชิญทูตานุทูตจากประเทศต่างๆ ที่มีสถานทูตอยู่ในกรุงเทพมหานคร เข้ารับการชี้แจงถึงเหตุผลของการทำปฏิวัติ เป็นต้น

 

แต่ยังมีเหตุการณ์สำคัญที่ไม่สามารถมองข้ามไปได้ 2 กรณี คือ

 

1. คำสั่งให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี น้องสาวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รายงานตัวต่อคณะปฏิวัติ ในเวลา 10.00 น. วันที่ 23 พฤษภาคม ซึ่งหลังจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ เข้ารายงานตัวแล้ว ก็มีกระแสข่าวลือว่า ถูกนำตัวไปกักบริเวณไว้ที่ค่ายทหารม้าอดิศร จังหวัดสระบุรี นับเป็นกรณีสำคัญ เพราะ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นอดีตนายกรัฐมนตรี เป็นนักการเมืองคนสำคัญระดับประเทศ หากถูกกักขัง ก็แสดงว่า คณะปฏิวัติปฏิบัติการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างแรง เพียงพ่อต่อการถูกนานาชาติคว่ำบาตรได้

 

2.  ปฏิบัติการทางทหารชุดเล็กๆ โดยการส่งทหารจำนวนแค่ 20 นาย มีอาวุธครบมือ บุกค้นบ้านพักของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในหมู่บ้านกรีนวัลเลย์ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ในเวลา 09.00 น. วันที่ 23 พฤษภาคม 2557

 

เหตุการณ์ครั้งหลังนี้ ถือว่ามีความสำคัญยิ่ง ระดับเล็กพริกขี้หนู คือ "เล็กดี แต่รสโต"เพราะหลังจากนั้น พล.ต.ศรายุธ รังษี ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 33 (มทบ.33) ค่ายกาวิละ จังหวัดเชียงใหม่ ได้ให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนว่า

 

"ยอมรับว่าลึกๆ ยังมีการเคลื่อนไหวบางอย่างอยู่ แต่ไม่รุนแรงมากนัก อาจเป็นความคุ้นเคยของผู้คนทำให้ออกมาจับกลุ่มชุมนุม หรือขึ้นป้ายต่อต้านทหาร จึงได้จัดส่งทหารเข้าไปเจรจาทำความเข้าใจ ส่วนการเข้าค้นบางพื้นที่นั้น ก็เป็นการลาดตระเวนเพื่อตรวจสอบว่ามีความผิดปกติหรือไม่เท่านั้น ดังนั้นการประกาศเคอร์ฟิวจึงจะเข้มข้นเฉพาะคนคิดไม่ดีเท่านั้น" และ "เชียงใหม่ไม่ใช่ฐานของใคร เพราะเราทุกคนต่างเป็นคนไทยด้วยกัน จึงไม่อยากให้เกิดความแตกแยกเป็นฝักเป็นฝ่าย และอยากบอกว่าทุกข์ของประชาชนคือทุกข์ของทหาร และเราต้องร่วมมือกันแก้ไขปัญหาของชาติบ้านเมือง"

 

 

"เชียงใหม่ไม่ใช่ฐานของใคร" เป็นคำพูดที่สะดุดใจมาก สามารถเชื่อมโยงกับปฏิบัติการ"เหยียบบ้านทักษิณ-ประมุขของตระกูลชิน" ได้เป็นอย่างดี ก่อนจะมีคำพูดนี้ออกมาจากปากของ ผบ.มทบ.33 ค่ายกาวิละ

 

ใครๆ ก็รู้ว่า ทักษิณและตระกูลชินวัตร เป็นชาวเชียงใหม่ เกิดและอาศัยอยู่ที่นั่น ผูกพันเป็นเรือนนอน บ้านของทักษิณที่เชียงใหม่ ถ้าเทียบราคาแล้ว ก็ถูกกว่า "บ้านจันทร์ส่องหล้า" ราวฟ้ากับดิน แต่ถามว่า ทำไมทหารเจาะจงไปบ้านที่เชียงใหม่ คำตอบก็คือว่า"เชียงใหม่ไม่ใช่ฐานของใคร"

 

นั้นนะสิ "เชียงใหม่เป็นฐานของใครล่ะ" ทำไมจึงพูดพูดเจาะจงว่า "เชียงใหม่ไม่ใช่ฐานของใคร"

 

ทำไมไม่ไปเหยียบบ้านสุเทพ บ้านอภิสิทธิ์ หรือนักการเมืองคนอื่นๆ บ้าง และกล่าวว่า "สุราษฎร์ธานีมิใช่ฐานของใคร" หรือ "กรุงเทพมิใช่ฐานของใคร" อย่างนี้บ้าง ทำไมต้องเจาะจงลงไปที่เชียงใหม่เพียงแห่งเดียวว่า "ไม่ใช่ฐานของใคร"

 

หรือกลัวว่า "เชียงใหม่" จะเป็น "ฐานของใคร" จึงต้องรีบไปบอกให้ใครคนนั้นรู้ว่า "ไม่ยอมให้เป็นฐานของคุณ"

 

 

"ลูกผู้ชาย ฆ่าได้ แต่หยามไม่ได้" ภาษิตไทยวลีนี้ เป็นที่รู้จักกันดีในวงนักเลง เป็นเรื่องของ "เกียรติยศและศักดิ์ศรี" ของชายไทยทั่วไป อย่านับถึงระดับทหารหรือผู้มีอิทธิพลในทางการการเมืองระดับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ต้องรักศักดิ์ศรีเป็นอย่างยิ่งเลย เด็กๆ แถวเชียงใหม่ ถูกเหยียบหัวแม่เท้าก็ไม่พอใจ ถึงกับต้องวางมวยกันให้หายแค้นกันไปข้างหนึ่งแล้ว แต่นี่เล่นเหยียบกันถึง "จมูก" ซึ่งอยู่บนใบหน้า ถามว่าจะต้อง "เอาคืน" กันเท่าไหร่จึงจะสมราคาวลีทอง ?

 

วันนี้ "ตระกูลชินวัตร" ถูกท้าทายด้วยรองเท้าทหารและด้วยวาจา "เชียงใหม่ไม่ใช่ฐานของใครในโอกาสต่อไป ถ้าคนในตระกูลชิน ได้กลับมามีอำนาจทางการเมืองอีกครั้ง นอกจากตำแหน่ง ผบ.เหล่าทัพทั้งสามที่จะต้องคอนโทรลให้ได้แล้ว ตำแหน่ง"ผบ.มทบ.33 ค่ายกาวิละ" ก็ต้องถูกขึ้นบัญชีเป็น "ตำแหน่งพิเศษ" ที่ต้องวางกำลังคนเข้าไปคุมให้ได้ เพื่อมิให้ได้ยินคำว่า "เชียงใหม่เป็นฐานของใครอีก ฟันธง !

 

 

 

 

เชียงใหม่เป็นฐานของใคร

ใครเอาเชียงใหม่เป็นฐาน

ใครมีบ้านอยู่เชียงใหม่

บ้านในเชียงใหม่มีเป็นล้านๆ หลัง

แต่ทำไมเจาะจงไปเฉพาะที่ "กรีนวัลเล่ย์"

 

คันหู เอ๊ย คันจมูกจังเลย กับปริศนาที่ว่า

 

"เชียงใหม่ไม่ใช่ฐานของใคร"

 

 

 

 

 

ะลิตเติ้ลบุ๊ดด่ะ ดอทคอม รายงาน
24 พฤษภาคม 
2557


 

 

 

 

โลกจับตา !

 

กักตัวยิ่งลักษณ์

 

เข้าข่ายถูกสหรัฐอเมริกาแซงชั่น

 

เมื่อนั้นก็เตรียมตัว พพป. พังเพราะปู

 

 

 

 

 

 

ภาพ : ไทยรัฐ

 

 

 

กระแสข่าว "กักตัวยิ่งลักษณ์-ปล่อยตัวยิ่งลักษณ์" กำลังถูกนักข่าวทั่วโลกเจาะ ว่าข่าวไหนจริง ข่าวไหนลวง ข่าวไหนพราง หากยิ่งลักษณ์ถูกทหาร "กักตัว" ไว้ในค่ายจริง ก็จะถูกนานาชาติ โดยเฉพาะ"สหรัฐอเมริกาและพันธมิตร" ทำการคว่ำบาตรรัฐบาลทหารของพล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา และส่งผลให้การลุกขึ้นต่อต้านรัฐบาลทหารจุดติดในทันที นี่คือประเด็นที่ต้องระมัดระวัง สำนวนไทยใหม่ "น้ำปูหยดเดียวเหม็นทั้งค่าย" เอาไว้ให้ดี เพราะยิ่งลักษณ์เป็นถึงอดีตนายกรัฐมนตรี เป็นผู้นำทางการเมืองระดับอินเตอร์ ใครๆ ก็รู้จัก และรู้จักมากกว่า พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา ด้วยซ้ำไป

 

 

 

 

 

ภาพนี้ยืนยัน

 

 

 

 

 

ค่ายอดิศร-สระบุรี

ถูกระบุว่าเป็นที่กักตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

 

 

 

 

ดังนั้น ภายในวันพรุ่งนี้ ถ้ายังไม่มีการแถลงข่าวเรื่องนี้ ให้ชัดเจน อย่างเป็นทางการ จาก พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา ก็เชื่อว่าจะมีผลทางการเมืองอย่างใหญ่ในทันที เพราะคนเสื้อแดงจะระดมกันไปเยี่ยมนายกฯปู

 

เรียกทูตานุทูตมาแจงสารพัดเรื่องแล้ว อย่าลืมแจงเรื่อง "จับปู" ด้วยนะพล.อ.ประยุทธ นายกรัฐมนตรี ที่มีอำนาจพิเศษ

 

 

 

 

อะลิตเติ้ลบุ๊ดด่ะ ดอทคอม
24 พฤษภาคม 2557


 

 

 

สองกระแส !

 

1. ยิ่งลักษณ์ถูกกักบริเวณค่ายอดิศรสระบุรี

2. ปล่อยตัวยิ่งลักษณ์ไปพบหน้าน้องไปป๊

 

ไม่รู้อันไหนจริงอันไหนปลอม

 

 

ลับ-ลวง-พราง

 

พล.อ.ประยุทธ สั่งห้ามสื่อเสนอข่าวไม่เป็นกรอง ก็ช่วยกรองข่าวหน่อยสิว่า ตกลง "ยิ่งลักษณ์" อยู่ไหน แฟนๆ คิดถึงใจจะขาด อยากเห็น "วีรสตรีประชาธิปไตย" ในวันสิ้นอิสรภาพ

 

 

 

 

 

YINGLUCK WHERE ARE YOU ?

 

 

 

สะพัด ! คสช. กัก "ยิ่งลักษณ์" ในค่ายทหารสระบุรี ปล่อยข่าวอ้าง "ปู-เจ๊แดง-สมชาย" กลับเซฟเฮาส์

 

วันที่ 23 พฤษภาคม 2557  ผู้สื่อข่าวรายงานกรณี  น.ส.ยิ่งลักษณ์  ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายสมชาย  วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี พี่เขย นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ หรือเจ๊แดง อดีต ส.ส.เชียงใหม่ เขต 3 พรรคเพื่อไทย พี่สาว น.ส.ยิ่งลักษณ์เข้ารายงานตัวกับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่หอประชุมกองทัพบก เทเวศร์ กรุงเทพฯ

 

นางศุภกานต์ สุประการ  สมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ อ.สารภี เขต 1 คนใกล้ชิด นางเยาวภา เผยว่า หลัง น.ส.ยิ่งลักษณ์ นายสมชาย และนางเยาวภารายงานตัวแล้ว ทางทหารไม่ได้ควบคุมตัว และปล่อยตัวกลับทันที โดยเดินทางกลับเซฟเฮ้าส์ โดยไม่เปิดเผยสถานที่ นางเยาวภา บอกว่า ทุกคนปลอดภัย สบายดี ไม่มีปัญหาอะไร พร้อมฝากขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจ และห่วงใยครอบครัวตระกูลชินวัตร ซึ่งช่วงนี้ไม่มีกิจกรรมทางการเมือง และไม่เดินทางออกนอกประเทศตามคำสั่ง ศสช.ฉบับที่ 21 ที่ห้ามเดินทางออกนอกราชอาญาจักร

 

ด้านนายยศชนัน  วงศ์สวัสดิ์  อดีตผู้สมัคร ส.ส.เชียงใหม่ เขต 3 พรรคเพื่อไทยบุตรชายนางเยาวภา กล่าวว่า ครอบครัวไม่รู้สึกวิตกกังวล เพราะปฏิบัติตามกฏหมายทุกคนห่วงใย  ให้กำลังใจซึ่งกันและกัน เชื่อว่าจะผ่านมรสุมไปได้ ก่อนวางสายไป

 

อย่างไรก็ตาม น.ส.ฐาปณีย์ เอียดศรีไชย ผู้สื่อข่าวช่อง 3 ทวีตรายงานผ่านทวิตเตอร์ ‏@thapanee3miti ระบุว่า คาดว่า คสช.นำตัวน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ไปไว้ที่ศูนย์การทหารม้า ค่ายอดิศร จ.สระบุรี คาดอาจถูกคุมตัวไม่ต่ำกว่า 7 วัน

 

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ล่าสุดมีรายงานข่าวว่า ทางคสช.นำตัวน.ส.ยิ่งลักษณ์ ออกจากกองพล 1 รอ. ไปยังค่ายอดิศร สระบุรี คาดจะกักตัวเอาไว้ 3 วัน

 

วันเดียวกัน สำนักข่าวรอยเตอร์อ้างแหล่งข่าวนายทหารระดับอาวุโส เผยว่า คสช.ควบคุมตัวอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ เอาไว้ หลังจากมารายงานตัวกับทางคสช.

 

"เราควบคุมตัวยิ่งลักษณ์ พี่สาวและพี่เขยของเธอ แต่เราคงไม่คุมตัวเอาไว้เกินกว่า 1 สัปดาห์เพราะยาวเกินไป เราเพียงแค่ต้องการจัดระเบียบสิ่งต่างๆ ในประเทศให้เรียบร้อยเสียก่อน" แหล่งข่าวระบุ

 

ล่าสุด น.ส.ฐปณีย์ เอียดศรีไชย ได้รายงานอีกครั้ง ผ่านรายการข่าวสามมิติ ซึ่งแพร่ภาพทางช่อง 3 ว่า คสช. ได้จัดให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ พำนักอยู่ในสถานที่ปลอดภัยแห่งหนึ่ง โดยอดีตนายกฯ ไม่ได้ถูกควบคุมตัวแต่อย่างใด

 

ล่าสุดแหล่งข่าวใกล้ชิดตระกูลชินวัตร เปิดเผยว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ นางเยาวภาและนายสมชาย ยังไม่ได้รับการปล่อยตัวตามที่เป็นข่าวอย่างแน่นอน และไม่สามารถติดต่อได้ คาดเป็นการปล่อยข่าวลดกระแสกดดันจากต่างชาติ

 

 

 

ข่าว มติชน
24 พฤษภาคม 
2557


 

 

 

 

บุกบ้านทักษิณ !

 

 

ทหารพรึ่บบ้านทักษิณ-กรีนวัลเลย์ แม่ริม

 

พูดพิลึก

"เชียงใหม่ไม่ใช่ฐานของใคร"

 

อ้าว..เป็น ส.ส.เขาก็ต้องมีฐานเสียงมิใช่เหรอ

มีฐานเสียงมันผิดตรงไหน ?

 

 

 

 

 

 

ทหารบุกค้นบ้าน "ทักษิณ-เยาวภา" ย้ำเชียงใหม่ไม่ใช่ฐานของใคร ทุกคนต่างเป็นคนไทยด้วยกัน

 

เมื่อเวลาประมาณ 09.00 น.วันที่ 23 พฤษภาคม 2557 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีกำลังทหารจำนวนกว่า 20 นาย พร้อมอาวุธครบมือบุกเข้าตรวจค้นบ้านพักของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย ซึ่งตั้งอยู่ภายในหมู่บ้านเชียงใหม่กรีนวัลเลย์ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ โดยพบเพียงพ่อบ้านแม่บ้านที่นำตรวจค้นพื้นที่ เบื้องต้นไม่ได้จับกุมหรือตรวจยึดสิ่งของใดๆ โดยใช้เวลาดำเนินการประมาณครึ่งชั่วโมงจึงยกกำลังกลับที่ตั้ง


โดยในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ มีการนำกำลังทหารอากาศจากกองบิน 41 และค่ายกาวิละ รวม 80 นาย เข้าร่วมปฏิบัติการเพื่อประจำในจุดสำคัญทางยุทธศาสตร์ของสนามบินใน 4 จุด คือ บริเวณประตูเข้า-ออกอาคารผู้โดยสารทั้งภายในและต่างประเทศ อาคารคาร์โก และดับเพลิง รวมทั้งตรวจสอบเครื่องบินเช่าเหมาลำ


ต่อมา ในเวลา 12.00 น. พล.ต.ศรายุธ รังษี ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 33 (มทบ.33) ค่ายกาวิละ อำเภอเมืองเชียงใหม่ ได้พบปะและร่วมพูดคุยกับสื่อมวลชนในพื้นที่้เพื่อสร้างความเข้าใจและแจ้งถึงความจำเป็นของการยึดอำนาจการปกครองพร้อมแสดงความห่วงใยในเรื่องข้อมูลข่าวสาร โดยเฉพาะข่าวลือที่เผยแพร่เรื่องว่ามีทหารเชียงใหม่แตกแถวและเกิดการปฏิวัติซ้อนในช่วงค่ำที่ผ่านมา ซึ่งไม่เป็นความจริง จะมีเพียงการเผายางรถยนต์บนถนน 1 จุด ในพื้นที่สันป่าตองเท่านั้น


"ยอมรับว่าลึกๆ ยังมีการเคลื่อนไหวบางอย่างอยู่ แต่ไม่รุนแรงมากนัก อาจเป็นความคุ้นเคยของผู้คนทำให้ออกมาจับกลุ่มชุมนุม หรือขึ้นป้ายต่อต้านทหาร จึงได้จัดส่งทหารเข้าไปเจรจาทำความเข้าใจ ส่วนการเข้าค้นบางพื้นที่นั้นก็เป็นการลาดตระเวนเพื่อตรวจสอบว่ามีความผิดปกติหรือไม่เท่านั้น ดังนั้นการประกาศเคอร์ฟิวจึงจะเข้มข้นเฉพาะคนคิดไม่ดีเท่านั้น"    


พล.ต.ศรายุธ กล่าวว่า เชียงใหม่ไม่ใช่ฐานของใคร เพราะเราทุกคนต่างเป็นคนไทยด้วยกัน จึงไม่อยากให้เกิดความแตกแยกเป็นฝักเป็นฝ่าย และอยากบอกว่าทุกข์ของประชาชนคือทุกข์ของทหาร และเราต้องร่วมมือกันแก้ไขปัญหาของชาติบ้านเมือง

 

 

 

ข่าว มติชน
24 พฤษภาคม 
2557