วันจันทร์ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

‘ประยุทธ์’ รับพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าฯ หน.คสช. ลั่นเร่งปฏิรูปคืน ปชต. ลดขัดแย้ง ตอบไม่ชัดนั่งนายกฯเอง

 

 


 

LAST UPDATE : MAY 25, 2014  09:00 P.M.   PACIFIC TIME

 

 

 

 

 


 

 

 

วงแตก !

 

รับน้องใหม่บิ๊กตู่ในตำแหน่งหัวหน้า ครส.

 

นักข่าวรุมถาม

 

ท่านเป็นนายกฯเองเลยหรือเปล่า

เมื่อไหร่จะเลือกตั้ง ?

หนึ่งปี ปีครึ่ง สองปี ฯลฯ ?

 

บิ๊กตู่สู้ไม่ไหว เดินหนีไมค์เอาดื้อๆ

 

 

 

 

 

บิ๊กตู่แถลงข่าวครั้งแรก

 

 

 

 

 

 

กดที่ภาพเพื่อชมเทป

 

 

 

 

'ประยุทธ์' รับพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าฯ หน.คสช. ลั่นเร่งปฏิรูปคืน ปชต. ลดขัดแย้ง ตอบไม่ชัดนั่งนายกฯเอง

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 26 พ.ค. ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ถ.ราชดำเนิน พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รองผบ.ทบ. ในฐานะเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้เป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์ประจำวันแทน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ในฐานะหัวหน้า คสช. โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ซึ่งเป็นการประชุมร่วมระหว่างศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบกกับการประชุม คสช. เพื่อประเมินสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ในส่วนกองบัญชาการกองทัพบกสำรองที่จัดตั้งขึ้นภายในกรมทหารราบที่1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ (ร.1 รอ.) ที่จัดตั้งขึ้นในระหว่างที่มีการชุมนุมบริเวณด้านหน้า บก.ทบ. ถ.ราชดำเนินก็ได้ปิดตัวลง หลังจากที่มีการชุมนุมยุติ

สำหรับความเคลื่อนไหวของ ผบ.เหล่าทัพ ในฐานะคณะ คสช.  ในวันนี้ ทางพล.อ.ประยุทธ์ อยู่ระหว่างเตรียมตัวรับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ เป็นหัวหน้าคณะคสช.โดยมี พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผบ.สส. พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผบ.ทร. และ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผบ.ทอ. พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ในฐานะรองหัวหน้า คสช. เข้าร่วมพิธี ในเวลา 10.49 น. ที่ห้องรับรองพเศษชั้น 6 ภายในกองบัญชาการกองทัพบก ถ.ราชดำเนิน ท่ามกลางการดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวด  โดยห้ามไม่ให้สื่อมวลชนเข้าไปทำข่าวแต่อย่างใด ซึ่งเจ้าหน้าที่ทหารระบุว่าขอให้ติดตามความเคลื่อนไหวผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย 


ส่วนความเคลื่อนไหวที่อาคารพักนักกีฬากำลังเอก ภายในสโมสรทหารบก ถ.วิภาวดีรังสิต ซึ่งเป็นศูนย์ประสานงานสื่อมวลชนของ คสช. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศช่วงเช้าว่าเป็นไปด้วยความคึกคัก มีสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศเดินทางมาติดตามสถานการณ์ รวมถึงทยอยเข้ามาทำบัตรสื่อมวลชนของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) อย่างหนาแน่น เนื่องจากวันนี้เป็นวันสุดท้าย

เวลา 11.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ แถลงหลังได้รับโปรดเกล้าฯ เป็นหัวหน้า คสช. ว่า จะทำงานภายใต้พระบรมราชโองการฯ ขณะนี้ คสช. มีอำนาจเต็มในการบริหารราชการแผ่นดิน งานเร่งด่วนคือการรักษาความสงบเรียบร้อย โดยจะเลือกตั้งเมื่อสงบ เรื่องนายกฯชั่วคราวยังอยู่ในขั้นตอนดำเนินการ 

เราไม่ได้ต้องการอำนาจ แต่จำเป็นต้องทำเพื่อบ้านเมือง เพราะความขัดแย้งไม่สามารถหาข้อสรุปได้ ทั้งนี้ยังต้องเคอฟิว แต่หากมีเรื่องเร่งด่วนหรือต้องทำงานให้แจ้ง จนท. จะคุมเฉพาะเรื่องมั่นคง ขอให้ประชาชนเข้าใจเจตนารมณ์ของ คสช. ทั้งนี้จะใช้เวลาแก้ปัญหาโดยเร็วเราถอยหลังไปไม่ได้อีกแล้ว เมื่อประเทศชาติมาถึงทางตัน ขอให้สื่อมวลชนและภาคส่วนต่างๆ ร่วมกัน ไม่ขยายความขัดแย้ง

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า จะนำประเทศชาติให้ปลอดภัย นำทุกคนกลับสู่หลักกฎหมายเน้นปฏิรูปการเมือง ระบบราชการ การเข้าสู่อำนาจรัฐ การตรวจสอบอำนาจรัฐ

 

"ผมไม่ได้มาทะเลาะเบาะแว้งกับใคร ขอให้ช่วยผม อย่าติติงผม ขอให้อดทนเหมือนที่อดทนมาตลอด ผมถือว่าสถาบันอยู่เหนือความขัดแย้งทั้งปวง"

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า งานเร่งด่วนขณะนี้ คือ การแก้ไขความเดือดร้อนของประเทศ ที่มีอยู่มากมาย โดยขอให้สังคมอย่าเพิ่งออกมาเรียกร้องอะไรมากไปกว่าเดิม เพราะขณะนี้ ต้องคิดว่าทำอย่างไรประเทศชาติปลอดภัย ยืนยันว่าการยึดอำนาจเพื่อปลดล็อก ให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ จึงขอให้สื่อไม่ขยายความขัดเเย้ง โดยเฉพาะการแสดงความคิดเห็นในเฟซบุ๊ก  ถ้าจำเป็นจะเรียกตัว ก็จะขอเรียกมาพูดคุย ส่วนการเรียกร้องของสมาคมสื่อฯ นั้น ก็ไม่ควรมาเรียกร้องตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป 

ทั้งนี้ ในวันนี้เริ่มมีการเดินขบวนประท้วง ซึ่งทหารจำเป็นต้องบังคับใช้กฏหมายอย่างเด็ดขาด จึงขอให้คนที่เคลื่อนไหวดังกล่าวหยุดการเคลื่อนไหว โดยการดำเนินการใดๆ ต้องถูกดำเนินคดีด้วยศาลทหาร ยืนยันว่าได้ทำตามกระบวนการยุติธรรม และเคารพเจ้าหน้าที่ในการทำงาน

นอกจากนี้ยังกล่าวอีกว่า ยืนยันว่าทุกคนที่เรียกมานั้นเป็นการเชิญมาอยู่ในที่พักที่เป็นบ้านทหาร ซึ่งผู้ที่ถูกเรียกตัวหากยังคงฝ่าฝืนต่อต้าน ก็จะถูกดำเนินการจับกุมตัวขั้นเด็ดขาด รวมถึงจะทำทุกวิธีการเช่นการระงับธุรกรรมทางการเงิน จึงขอให้ทุกคนอดทน เพราะปัญหาการเมืองไทยขัดเเย้งกันมากว่า 9 ปี โดยตลอด 6 เดือนที่ผ่านมา เกิดความไม่สบายใจขึ้นกับคนทั้งประเทศ จึงเป็นช่วงเวลาที่ทุกคนต้องช่วยกันสร้างเสถียรภาพความมั่นคง ให้ต่างประเทศเชื่อมั่น ยืนยันจะทำหน้าที่เเก้ไขความขัดแย้งอย่างดีที่สุด

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีนายกรัฐมนตรีที่จะเข้ามาบริหารประเทศนั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวยืนยันว่า ต้องมีนายกฯ ชั่วคราวมาบริหารประเทศ และก็ต้องมีคณะรัฐมนตรีมาบริหารประเทศเช่นกัน โดยอาจมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบไปบ้าง แต่เป็นธรรมเนียมที่เคยทำกันมาแล้ว ส่วนการขับเคลื่อนประเทศนั้น ยังคงเดินหน้าต่อไป 

ส่วนคำถามเรื่องจะเป็นนายกฯ เองหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ตอบคำถาม แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ

ส่วนคำถามเรื่องโรดแม็ปประเทศสู่การเลือกตั้งนั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ยังไม่มีการกำหนด ขึ้นกับสถานการณ์

จากนั้น เมื่อนักข่าวได้พยายามถามคำถามต่อ พล.อ.ประยุทธ์และคณะ ได้เดินออกจากโพเดียมแถลงข่าว

 

 

 

ที่มา : ยูทู๊ป-ข่าวสด
26 พฤษภาคม 2557

 


 

 

 

 

โปรดเกล้าฯ

 

พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา

เป็นหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ

 

 

 

 

 

 

 

 

อะลิตเติ้ลบุ๊ดด่ะ ดอทคอม รายงาน
26 พฤษภาคม 2557

 


 

 

 

ปิดเว็บรัฐบาลยิ่งลักษณ์ !

 

 

 

 

 

เว็บรัฐบาลไทยสมัย คสช.

 

 

หลังจากยึดอำนาจจากรัฐบาลรักษาการ "นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล" เมื่อบ่ายวันที่ 22 พ.ค. ที่ผ่านมา รู้สึกว่า คสช. จะทำงานกันหามรุ่งหามค่ำ ถึงขนาดบ่นว่า "ไม่ได้หลับไม่ได้นอน"

 

เมื่อประมวลงานของ คสช. แล้วก็พูดได้ว่า "ตั้งแต่ไม้จิ้มฟันยันเรือรบ" หรือทุกรูปแบบ ทั้งสงครามใต้ดิน บนดิน และในอากาศ ที่เรียกว่า ไซเบอร์สเปซ หรือโลกออนไลน์ อันมีเครื่องมือในการต่อสู้ อาทิเช่น คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ คอมพิวเตอร์วางตัก (แลปท็อปหรือโน๊ตบุ๊ค) ไอโฟน ไอแพด กล้องดิจิตัล และโทรศัพท์มือถือทุกยี่ห้อ ที่ถูกพัฒนาให้สามารถใช้ "ไวไฟ" หรือสัญญาณอินเตอร์เน็ตได้

 

และนอกจาก คสช. จะเปิดเฟสบุ๊คขึ้นมาเป็นช่องทางสื่อสารหลักแล้ว ก็พบว่า เว็บไซต์ของรัฐบาลไทย ซึ่งทำต่อเนื่องกันมาตั้งแต่สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ก็ถูก คสช. ส่งนักรบไซเบอร์สเปซเข้าไปยึดไว้เบ็ดเสร็จ โดยเมื่อยึดได้แล้วทาง คสช. ก็มิได้พัฒนาเว็บไซต์แต่อย่างใด เพราะยังไม่มีข้อมูลอะไรไปเปลี่ยน จึงทำการเปลี่ยนเฉพาะ "หน้ากาก" เอาไว้เฉยๆ เหมือนปิดไว้ไม่ให้ดู หรือดูได้เฉพาะประตูบ้านเท่านั้นเอง เพราะกดที่ลิงค์เท่าไหร่ก็เข้าไม่ได้

 

คสช. จะเริ่มพัฒนาเว็บไซต์รัฐบาลไทยเมื่อไหร่ก็ไม่ทราบ คงอาจจะรอให้มีนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ชุดใหม่โน่นกระมัง จึงจะสามารถเปิดเว็บไซต์รัฐบาลไทยได้อีกครั้งหนึ่ง

 

 

 

 

 

อะลิตเติ้ลบุ๊ดด่ะ ดอทคอม รายงาน
26 พฤษภาคม 2557

 


 

 

 

THAILAND TONIGHT

 

 

 



 


 

 

 

 

 

คุ้มกันแม๊กโดนัลด์ !

 

 

 

 

 

 

คสช. ส่งทหาร คุ้มกันร้านอาหารดัง "แม๊กโดนัล ราชประสงค์" ดงแดงในอดีต หลังจากมีคนใช้เป็นสถานที่นัดพบทานอาหาร แล้วรวมตัวต่อต้านรัฐประหารขึ้น เมื่อเที่ยงวันที่ 25 ที่ผ่านมา จนเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ นับพันๆ คน ลามไปยังอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ซึ่งถือว่าเป็นการลุกฮือต่อต้านการรัฐประหารครั้งแรก หากยั้งไม่อยู่แล้ว ก็อาจจะเกิดความสูญเสีย และเมื่อนั้นอะไรก็เกิดขึ้นได้ คสช. ได้ลดกระแสความรุนแรงลง ด้วยการปล่อยตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในตอนเย็นวันเดียวกัน เพื่อตัดกระแสมิให้ผู้คนใช้เป็นเงื่อนไขระดมมวลชน ถึงกระนั้นก็ต้องติดตามสถานการณ์การเมืองไทยอย่างใกล้ชิด ว่า"ตระกูลชิน" จะยอมจำนนอย่างง่ายๆ หรือเป็นลูกล่อลูกชนทางการเมือง อันเป็นยุทธวิธีที่ทหารไม่ชำนาญ อีกไม่นานก็รู้ หมู่หรือจ่า

 

รู้แต่ว่า แม๊กโดนัล อาจจะกลายเป็น "จุดเริ่มต้น" ของประชาธิปไตย ก็เป็นได้

 

 

 



 

 

 

 ลำดับเหตุการณ์ร้านแม๊กโดนัล

 

 

 

เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 25 พ.ค. มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ทหารนำกำลังเข้ารักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณที่มีผู้ชุมนุมมาชูป้ายแสดงความไม่เห็นด้วยต่อการยึดอำนาจ หน้าร้านแมคโดนัลด์ ราชประสงค์ และเกิดการกระทบกระทั่งกัน

 

 เวลาประมาณ 14.30 นทหารที่ประจำอยู่ได้ออกมาตั้งแถวด้านหน้าโรงพยาบาลตำรวจ ก่อนมีกำลังมีทหารมาสมทบอีก 3 คันรถยีเอ็มซี โดยแถวหน้าถือโล่ แถวหลังถือปืน จากนั้นเป็นแนวตำรวจ ตั้งแถวปิดแยกราชประสงค์ฝั่งถนนพระราม 1 ทำให้ผู้ชุมนุมโห่ไล่

 

ต่อมาเวลาประมาณ 15.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมหลายพันคนได้เคลื่อนขบวนไปที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ หลังจากมีเจ้าหน้าที่ทหารเข้ามาในพื้นที่หน้าแมคโดนัลด์มากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อเลี่ยงการปะทะ

 

จากนั้นผู้ชุมนุมรวมตัวทยอยเคลื่อนขบวนออกจากหน้าห้างอมรินทร์ ผ่านหน้าเซ็นทรัลเวิลด์ ไปประตูน้ำ เพื่อมุ่งหน้าไปยังอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โดยด้านหน้าเหลือเพียงทหาร-ตำรวจและผู้สื่อข่าวเท่านั้นทั้งนี้ มีนักท่องเที่ยวออกมายืนถ่ายภาพทหาร-ตำรวจ บรรยากาศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

 

ขณะที่ทวิตเตอร์ของรถไฟฟ้าบีทีเอส ‏@BTS_SkyTrain ทวีตว่า"ตั้งแต่เวลา13.15 น. เป็นต้นไป ขบวนรถไฟฟ้าบีทีเอสจะไม่จอดที่สถานีเพลินจิตและสถานีชิดลม เนื่องจากความวุ่นวายใต้สถานี จนกว่าจะแจ้งเปลี่ยนแปลง"

 

ขณะที่ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 25 พ.ค. ที่ห้างสรรพสินค้าอัมรินทร์ พลาซ่า บริเวณย่านแยกราชประสงค์ กลุ่มต่อต้านรัฐประหารนับพันคนรวมตัวกันบริเวณร้านเเมคโดนัลด์ ชั้นล่างของห้างตามการเชิญชวนผ่านทางเฟซบุ๊กของนายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือบก.ลายจุด เพื่อแสดงออกทางสัญลักษณ์แบบสันติวิธี ในการต่อต้านรัฐประหาร สนับสนุนระบอบประชาธิปไตย ในกิจกรรม "กินเเมคต้านรัฐประหาร"

 

ภายในร้านเเมคโดนัลด์ มีประชาชนที่มาร่วมต่อต้านการรัฐประหารอยู่ภายในร้านแน่นขนัด ขณะที่ด้านนอกมีประชาชนทยอยมาสมทบเป็นจำนวนมาก จนล้นทะลักออกมาด้านหน้าร้าน โดยมีเจ้าหน้าที่ทหารพร้อมโล่และกระบอง บางส่วนมีปืนทาร์โวเป็นอาวุธประจำกาย และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปจ.นำกำลังกระจายอยู่หลายจุดในพื้นที่ทั้งบริเวณหน้าห้าง และบนทางเชื่อมรถไฟฟ้าสกายวอล์ก

 

ทั้งนี้มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ทหารได้จับกุมตัวผู้ชุมนุม 2 รายอีกด้วย

 

จากนั้นเวลา 11.30 น. บริเวณสี่แยกราชประสงค์ เกิดเหตุความวุ่นวายขึ้นเมื่อประชาชนประมาณ 200 คน พยายามเดินต่อต้านเเนวป้องกันของเจ้าหน้าที่ทหาร พร้อมส่งเสียงตะโกนว่า"ออกไปๆๆ" และ "เลือกตั้งๆๆ" อย่างต่อเนื่อง พร้อมชูป้ายต่อต้านรัฐประหารหลากหลายข้อความทั้งภาษาไทยเเละอังกฤษ เเม้เจ้าหน้าที่พยายามตั้งเเนวป้องกัน เเต่ก็ต้องถอยร่น กระทั่งมาประจำการยังหน้าร้านเเมคโดนัลด์

 

เจ้าหน้าที่ทหารร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุด ปจ. วางกำลังสกัดผู้ชุมนุมที่หน้าร้านแมคโดนัลด์ 3ชั้น โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ทหารเป็นแนวหน้าสกัดกั้นผู้ชุมนุม ตามมากำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ และแนวเจ้าหน้าที่ทหาร

 

เมื่อผู้ชุมนุมทยอยเดินทางมามีจำนวนมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ได้รวมตัวกันพยายามเข้ามาประชิดแนวเจ้าหน้าที่ทหารทำให้บรรยากาศเป็นไปอย่างตึงเครียด ผู้ชุมนุมได้ผลักดันแนวโล่ และขว้างปาขวดน้ำใส่เจ้าหน้าที่ทหารเป็นระยะๆ พร้อมกันนี้ได้ส่งเสียงตะโกนว่า "เลือกตั้งๆๆ" อย่างต่อเนื่อง

 

เวลา12.15 น. เจ้าหน้าที่ทหารนำรถติดเครื่องขยายเสียง 2 คัน เข้ามาในพื้นที่ชุมนุม พร้อมเปิดเพลงปลุกใจ อาทิ รักกันไว้เถิด เราสู้ จากนั้นพยายามชี้เเจงผ่านเครื่องขยายเสียงถึงจุดประสงค์ในการทำหน้าที่ เพื่อความสงบสุข เเต่ไม่ประสบความสำเร็จ ประชาชนส่งเสียงโห่ใส่อย่างต่อเนื่อง บางส่วนยังได้นำสติ๊กเกอร์ต่อต้านการรัฐประหารไปติดที่รถของทหารด้วย

 

เวลา 12.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีหญิงสาวรายหนึ่งซึ่งผู้ชุมนุมเรียกว่า"ฟ้า พรทิภา" เเต่งตัวลักษณะเดียวกับผู้ชุมนุม กปปส. ด้วยการติดประดับต่างหู ลายธงชาติ คล้องคอด้วยสายธงชาติ และพยายามนำนกหวีดขึ้นมาเป่า เข้ามาในพื้นที่ชุมนุม ทำให้ผู้ชุมนุมไม่พอใจ เจ้าหน้าที่ทหารต้องคุ้มกันหญิงดังกล่าว เเต่ก็โดนกดดันจากผู้ชุมนุมอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางเสียงตะโกนด่าทอ และขว้างปาสิ่งของใส่หญิงคนดังกล่าวเป็นระยะๆ ก่อนเจ้าหน้าที่ทหารและเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะนำตัวขึ้นรถกู้ภัยส่งโรงพยาบาลในเวลาต่อมา แม้ผู้ชุมนุมพยายามสกัดกั้นและปิดล้อมรถไว้ก็ตาม

 

เวลา 13.00 น.มีประชาชนนำหน้ากาก บก.ลายจุด มาสวมใส่ให้หุ่นเเมคโดนัลด์ และใส่หน้ากากบก.ลายจุดมาร่วมชุมนุมด้วยจำนวนหนึ่ง นอกจากนั้นยังมีชายเเต่งตัวอาหรับชูป้ายตามหาเพชรซาอุฯ เรียกเสียงฮือฮาให้กับผู้ชุมนุม

 

ส่วนเจ้าหน้าที่ทหารนำรถ 2 คันมาปิดหน้าร้านแมคโดนัลด์ แต่เมื่อผู้ชุมนุมเข้ามากดดัน เจ้าหน้าที่ทหารจึงต้องนำรถออกนอกพื้นที่

 

จากนั้นเวลา 14.00 น. ผู้ชุมนุมผลักดันเจ้าหน้าที่ทหารออกนอกพื้นที่สำเร็จ ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารต้องถอยร่นมายังแยกราชประสงค์

 

เวลา 14.10 น. มีรถลำเลียงเจ้าหน้าที่ทหาร 4 คันรถ มาที่แยกราชประสงค์ฝั่งถนนพระราม 1 ทุกนายมีอาวุธปืนทาร์โวและโล่ ลงมาสมทบกับเจ้าหน้าที่ทหารที่ถอยร่นมาจากร้านแมคโดนัลด์ พร้อมตั้งแนวป้องกันผู้ชุมนุมที่แยกราชประสงค์ ขณะที่ผู้ชุมนุมรวมตัวเดินมาเผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่ทหาร ประมาณ 5 นาที ก่อนพากันเดินต่อไปยังอนุสาวรีย์สมรภูมิเพื่อแสดงพลังต่อต้านรัฐประหารต่อไป

 

ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารยังวางกำลังป้องกันอยู่ที่แยกราชประสงค์ฝั่งถนนพระราม 1พร้อมกับปิดสกายวอล์กที่เดินเชื่อมระหว่างสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสยามและชิดลมด้วย

 

เมื่อเวลา 15.15 น. ผู้ชุมนุมจากราชประสงค์เคลื่อนขบวนด้วยรถยนต์ จักรยานยนต์ และเดินเท้ามายังอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และกระจายอยู่รอบอนุสาวรีย์ฝั่งแยกไปดินแดงและพญาไท รวมถึงด้านบนสกายวอล์ค พร้อมชูป้ายข้อความต่อต้านรัฐประหาร อาทิ เราไม่เอารัฐทหาร , หยุดปล้นอำนาจประชาชน , คุณเป็นทหารของใคร , We Want Election เป็นต้น ส่งผลให้การจราจรจากพหลโยธินมุ่งหน้าพญาไท และจากดินแดงเข้าอนุสาวรีย์ชัยฯ เป็นอัมพาต ส่วนการจราจรจากพหลโยธินไปดินแดงติดขัด ทั้งนี้ บรรยากาศการชุมนุมยังคึกคักแม้จะมีฝนโปรยลงมาผู้ชุมนุมตะโกนแสดงความไม่เห็นด้วยต่อการรัฐประหารเป็นระยะ

 

เวลา 16.50 น. ที่ใต้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสอนุสาวรีย์ชัยฯ เจ้าหน้าที่ทหารตั้งกำลังมุ่งหน้ามาที่อนุสาวรีย์ชัยฯ แต่กลุ่มผู้ชุมนุมได้รวมตัวกันเผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่ทหาร ก่อนจะเข้ามาผลักดันแนวโล่ พร้อมตะโกนใส่ทหารว่า ออกไปๆๆ อย่างต่อเนื่อง ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องใช้น้ำฉีดสกัด ท่ามกลางความตึงเครียด เจ้าหน้าที่ทหารต้องใช้รถติดเครื่องขยายเสียงเจรจากับผู้ชุมนุมว่าอย่าใช้ความรุนแรงต่อกัน จากนั้นมีตัวแทนผู้ชุมนุมเข้าเจรจาขอให้เจ้าหน้าที่ทหารถอนกำลังออกจากพื้นที่ โดยผู้ชุมนุมจะกลับไปที่อนุสาวรีย์ชัยฯ ตามเดิม

 

ต่อมาเวลา 18.00 น. ผู้ชุมนุมควบคุมตัวชายคนหนึ่งไว้ได้ โดยอ้างเป็นผู้ชุมนุมของกลุ่มกปปส.ที่แฝงตัวเข้ามาถ่ายรูปคนที่เป็นแกนนำพูดกระจายเสียง ทำให้ผู้ชุมนุมต้านรัฐประหารคนอื่นๆ เข้าไปด่าทอ เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องกันชายคนดังกล่าวออกจากพื้นที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิดเท่านั้น ไล่เลี่ยกันมีคนแจ้งว่ามีคนถูกทำร้ายได้บาดเจ็บที่บริเวณใต้ทางเดินสกายวอล์ค เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจและอาสาพยาบาลไปตรวจสอบพบว่า เป็นชายไร้บ้านที่อาศัยอยู่บริเวณดังกล่าว ถูกตีที่ศีรษะแตกหลังทะเลาะวิวาทกับอริ ตำรวจยืนยันไม่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมคัดค้านการรัฐประหารแต่อย่างใด

 

เวลา 19.00 น. ผู้ชุมนุมทยอยเดินทางกลับ โดยนัดหมายรวมตัวกันอีกครั้งวันที่ 26 พ.ค. เวลา 15.00 น. ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ส่วนการจราจรบริเวณอนุสาวรีย์ชัยฯ เปิดใช้การได้แล้วทุกช่องทาง

 

 

 

ข่าว : ข่าวสด

26 พฤษภาคม 2557


 

 

 

 

กองพลที่ 1 รักษาพระองค์ !

 

สถานที่กักตัวยิ่งลักษณ์

หลังออกข่าวลวงมา 3 วันว่าส่งไปสระบุรี

 

นี่คือยุทธวิธี ลับ ลวง พราง

 

 

วาสนา นาน่วม คอนเฟิร์ม "ปล่อยยิ่งลักษณ์กลับบ้านแล้ว" จาก "พล.1 ร.อ." ก็ในกรุงเทพฯนี่เอง แต่แหม ปล่อยข่าวเสียไกลเชียว ว่าปิดม่านรถตู้วิ่งไปไกลถึงสระบุรี ที่แท้ก็..

 

 

 

 

 

 

 

 

 

"วาสนา นาน่วม" เผยแหล่งข่าว คสช. ระบุ "ประยุทธ์" สั่งปล่อยตัว "ยิ่งลักษณ์" ออกจาก พล.1รอ. แล้ว เมื่อเย็นที่ผ่านมา ยันได้รับการดูแลอย่างดี ขณะที่สั่งปล่อยอีกหลายคนภายในคืนนี้ ยกเว้นพวกมีหมายจับ ถูกส่งขึ้นศาลทหาร 26 พ.ค.


       
วันนี้ (25 พ.ค.) เมื่อเวลาประมาณ 23.00 น. น.ส.วาสนา นาน่วม ผู้สื่อข่าวสายทหาร หนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว "Wassana Nanuam" ว่า ยืนยันการปล่อยตัว อดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ แล้ว
       
แหล่งข่าว ใน คสช. เผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ หัวหน้า คสช. สั่งปล่อยตัว "ยิ่งลักษณ์" อดีตนายกฯ เมื่อเย็นนี้ ออกจากหน่วยทหาร แห่งหนึ่ง ในกทม.แล้ว ไม่ใช่ สระบุรี แต่เป็นที่ พล.1รอ. นั่นเอง ...ขณะที่มีคำสั่ง ให้ปล่อยอีกหลายคน จากเซฟท์เฮ้าส์ หลายแห่ง ภายในคืนนี้ โดย ผบ.ทบ.สั่งดูแลอย่างดี สมเกียรติ ทะยอยปล่อยตัวอีก ยกเว้นพวกมีหมายจับ ถูกส่งขึ้นศาลทหาร จันทร์นี้...
       
ส่วนเสียงวิจารณ์ ว่าวาสนาปล่อยข่าวลวงนั้น ขอให้รอ การยืนยันจาก คสช.อย่างเป็นทางการอีกครั้งแล้วกัน แต่วาสยืนยัน ว่า "ปล่อยแล้ว ค่ะ"


ขณะที่สำนักข่าวซีเอ็น ก็ได้อ้างแหล่งข่าวใกล้ชิด น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยระบุว่า ได้รับการปล่อยตัวจากค่ายทหารแล้วเช่นกัน
 

 

 

 

ข่าว : ผู้จัดการ

26 พฤษภาคม 2557


 

 

 

 

 

"ประชาธิปไตยในประเทศทำให้เกิดความสูญเสีย"

 

เหตุผลทำรัฐประหาร "บิ๊กตู่" ชี้แจงสหรัฐอเมริกา

 

 

 

 

 

 

     
วันนี้ (25 พ.ค.) ที่สโมสรทหารบก พ.อ.วินธัย สุวารี พร้อมด้วย พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง และ พ.อ.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกกองทัพบก แถลงถึงคำชี้แจงของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในภาพรวมเกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนการทำงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พลเรือน และทหาร อยากวิงวอนประชาชนทุกภาคส่วนเข้าใจบ้านเมืองในขณะนี้ว่าให้ทุกคนเสียสละในระดับที่แต่ละคนน่าจะกระทำกันได้ และยืนยันว่า คสช. ไม่ได้มุ่งหวังเพื่อประโยชน์กับผู้หนึ่งผู้ใด แต่จะคืนความสุขให้กับประชาชนทั้งประเทศ สร้างเสถียรภาพให้สายตาภายในและนอกประเทศเข้าใจ และขอความร่วมมือ ทหาร ตำรวจ พลเรือน ยอมรับหลักการ และขจัดข้อขัดแย้งต่างๆ พร้อมเตือนผู้ที่ปลุกปั่นในโซเชียลหยุดการกระทำเหล่านี้ เพราะสิ่งนั้นไม่ได้เกิดประโยชน์ ส่วนสื่อมวลชนขอให้ลดการนำเสนอ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน ยืนยันว่าสิ่งที่ คสช.ทำไปนั่นไม่ได้เกลียดชังหรือเป็นความเห็นส่วนตัว แต่ทุกอย่างดำเนินการไปตามเหตุผล และขั้นตอนทางกฎหมาย
       
เมื่อถามถึงกรณีที่สหรัฐอเมริกาตัดงบประมาณการช่วยเหลือ และการตัดการฝึกร่วมกับกองทัพไทยนั้น

 

ทีมงานโฆษกกองทัพบกกล่าวว่า ที่ผ่านมาทาง สคช. ได้ทำความเข้าใจในระดับต่างประเทศโดยการสื่อสารผ่านทางผู้บัญชาการทหารบกสหรัฐอเมริกา เพื่อชี้แจงถึงความจำเป็น พร้อมทั้งสร้างความเข้าใจในการรัฐประหาร บางส่วนกระทรวงการต่างประเทศก็ได้ดำเนินการตามขั้นตอนซึ่งเราจะแยกให้เห็นถึงความแตกต่างของประเทศไทยกับต่างชาติ 3 ข้อ คือ

 

1. สภาพแวดล้อมของแต่ละประเทศไม่เหมือนกัน

 

2. เรามีหลักฐานและเหตุผลชัดเจนในการทำรัฐประหารที่จะแสดงต่อต่างชาติ และ

 

3. ประชาธิปไตยในประเทศทำให้เกิดความสูญเสีย
       
อย่างไรก็ดี ที่ผ่านมาทหารได้สนับสนุนการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยมาโดยตลอด อยากให้มองย้อนกลับไป ไม่อยากให้มองเฉพาะจุด การแสดงออกตามระบอบประชาธิปไตยไม่ว่าจะเป็นในส่วนของบุคคล หรือกลุ่มบุคคลทำให้เกิดความสูญเสียมาโดยตลอด รวมถึงการบังคับใช้กฎหมายในการดำเนินคดีก็จะต้องคำนึงหลักประชาธิปไตย และสิทธิเสรีภาพของประชาชน
       
สำหรับในประเทศไทยจะเห็นได้ว่าในส่วนของประเทศไทยที่คนแสดงสิทธิโดยอ้างว่าเป็นการแสดงออกในระบอบประชาธิปไตย ปรากฏว่ามีการใช้อาวุธสงคราม เป็นตัวบ่งชี้ว่าเป็นการสนับสนุนความรุนแรง และกระทำต่อชุมชนเมืองซึ่งถือเป็นเรื่องแปลก และไม่ทราบว่าการแสดงออกของกลุ่มคน หรือบุคคลที่ทำให้เกิดความสูญเสียจะสะท้อนภาพลักษณ์ในสายตาของต่างชาติอย่างไร การใช้ประชาธิปไตยที่แสดงออกมาในประเทศไทยน่าจะแตกต่างจากประเทศอื่น รวมถึงการเสนอข่าวของสื่อไทยและต่างประเทศที่มีความแตกต่างกัน นี่คือคำจำกัดความของคำว่าระบอบประชาธิปไตยในส่วนที่เจ้าหน้าที่ความมั่นคงได้เล็งเห็น

 

 

 

 

ข่าว : ผู้จัดการ

26 พฤษภาคม 2557


 

 

 

 

เตือน !

 

อย่าต่อต้านรัฐประหาร

หากยังฝ่าฝืนก็ต้องใช้ไม้แข็ง

 

 

และเมื่อนั้น ถ้าเกิดสูญเสียขึ้นมาจะเรียกร้องอะไรไม่ได้ เพราะทหารปฏิบัติการภายใต้กฎอัยการศึก ซึ่งหมายถึง ฆ่าคนได้โดยไม่ผิดกฎหมาย นะจ๊ะ

 

 

 

 


 

 

 

 

เมื่อเวลา 19.45 น. วันที่ 25 พ.ค. พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก  กล่าวถึงกรณีที่มีประชาชนออกมาชุมนุมต่อต้านการยึดอำนาจอยู่ในขณะนี้ว่า เจ้าหน้าที่อาจจำเป็นต้องบังคับใช้กฏหมายอย่างเด็ดขาด หากมีการปะทะกันอาจมีการบาดเจ็บสูญเสียจะไม่สามารถเรียกร้องอะไรได้เลย เพราะขณะนี้อยู่ในช่วงภาวะไม่ปกติ ทหารและตำรวจทำงานภายใต้กฎอัยการศึก รวมถึงประกาศและคำสั่งของ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในทุกพื้นที่ของประเทศ

 

"อยากให้พ่อแม่พี่น้องลูกหลานแจ้งเตือนกันและกัน เพราะไม่มีประโยชน์หากมาชุมนุมต่อต้าน ขอให้เข้าใจว่าทุกคนกำลังทำหน้าที่เพื่อให้ประเทศชาติมีความสงบ จึงขอให้ประชาชนทั่วไปได้ช่วยกันห้ามปราม และช่วยกันหยุดยั้งการกระทำของกลุ่มต่อต้านดังกล่าว เพื่อร่วมกันสร้างความปลอดภัยให้ทั้งประชาชนและเจ้าหน้าที่ เพื่อช่วยกันนำพาประเทศชาติไปสู่ความสงบโดยเร็ว ทั้งนี้ไม่ทราบว่าจะทำไปเพื่ออะไร เชื่อว่าคนส่วนใหญ่คงอยากเห็นบ้านเมืองกลับมามีความสุขสงบโดยเร็ว" รองโฆษกกองทัพบก กล่าว.

 

 

 

 

ข่าว : เดลินิวส์

26 พฤษภาคม 2557


 

 

 

 

รู้มากกว่าสื่อไทย !

 

สื่อนอกตีข่าวทหารปล่อยตัวยิ่งลักษณ์

ขณะที่สื่อไทยใบ้กิน อ้างอิงแต่ซีเอ็นเอ็น

สงสัยกลัวบิ๊กตู่ซะจนขี้ขึ้นสมอง

 

 

อา..เมื่อ "สื่อไทย" ไร้อิสระ ถึงกับต้องอาศัย "สื่อนอก" มาเป็นแหล่งข่าวภายในให้ ก็หมดสิ้นแล้วสำหรับอิสระเสรีภาพของฐานันดรที่ 5 จิตวิญญาณของสื่อไทยหมดสิ้นไปแล้วจริงๆ หรือ ถ้าไม่จริง ก็ขอภาพยิ่งลักษณ์ตอนออกนอกค่ายทหารมาโชว์ซักภาพสิโยม

 

 

 

 

 

 

 

 

"ซีเอ็นเอ็น" ตีข่าวทั่วโลก คสช.ปล่อยตัว "ยิ่งลักษณ์" ออกจากค่ายทหารแล้ว

 

เมื่อวันที่ 25 พ.ค. ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า แหล่งข่าวใกล้ชิด น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยืนยันกับซีเอ็นเอ็นว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้รับการปล่อยตัวจากค่ายทหารแล้ว หลังจาก คสช. เรียกให้มารายงานตัว และกักตัวไว้ตั้งแต่วันศุกร์ ร่วมกับคณะบุคคลอีกกว่า 100 คน ทั้งนักการเมืองและนักเคลื่อนไหวทางการเมือง

 

 

"วาสนา นาน่วม" ผู้สื่อข่าวสายทหารชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ยันแหล่งข่าววงในระบุตรงกันกับสื่อนอกว่า "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" ได้รับการปล่อยตัวจากค่ายทหารแล้ว...

 

วันที่ 25 พ.ค.57 มีรายงานว่า นางสาววาสนา นาน่วม ผู้สื่อข่าวสายทหาร ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก Wassana Nanuam โดยระบุว่า ได้ยืนยัน การปล่อยตัว นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แล้ว โดยแหล่งข่าวใน คสช. เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. ได้สั่งให้ปล่อยตัว นางสาวยิ่งลักษณ์ ในช่วงเย็นวันนี้ โดยออกจากหน่วยทหารแห่งหนึ่ง ใน กทม.แล้ว ซึ่งไม่ใช่ สระบุรี แต่เป็นที่ พล.1 รอ.

 

ทั้งนี้ ขณะที่มีคำสั่งของ คสช. ให้ปล่อยแกนนำรัฐบาลและพรรคเพื่อไทย อีกหลายคนจากเซฟท์เฮ้าส์หลายแห่ง ภายในคืนนี้ โดย ผบ.ทบ.ได้สั่งดูแลเป็นอย่างดี ให้สมเกียรติ ซึ่งจะได้ทยอยปล่อยตัวอีก ยกเว้นพวกมีหมายจับ ที่ถูกส่งขึ้นศาลทหาร ภายในวันจันทร์นี้ ส่วนเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ว่า วาสนา ปล่อยข่าวลวงนั้น ขอให้รอการยืนยันจาก คสช.อย่างเป็นทางการอีกครั้งแล้วกัน แต่ วาส ยืนยัน ว่า ปล่อยแล้ว ค่ะ

 

ขณะเดียวกัน สำนักข่าวต่างประเทศซีเอ็นเอ็น ได้อ้างแหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้ยืนยันว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ ได้รับการปล่อยตัวเป็นอิสรภาพจากค่ายทหารเรียบร้อยแล้ว

 

 

 

 

ข่าว : มติชน-ไทยรัฐ

26 พฤษภาคม 2557


 

 

 

 

 

ชิงมวลชน !

 

 

คสช.ประกาศจ่ายเงินชาวนาภายใน 1 เดือน

ตบโต๊ะกู้ดะทั้ง ธกส.และสถาบันการเงินในประเทศ

 

ร่วมแสนล้าน !

 

 

 

เปล่าปล้นนโยบายนะจ๊ะ แต่เมื่อทักษิณอาศัยชาวนามาเป็นฐานคะแนน ก็ต้องชิงชาวนามาจากทักษิณ แต่เมื่อติดที่นโยบายจำนำข้าวของทักษิณ ก็ไม่เห็นยาก ไหนๆ ก็ยึดอำนาจจากรัฐบาลยิ่งลักษณ์มาแล้ว ยึดนโยบายจำนำข้าวเพิ่มอีกซักโครงการมันจะเป็นไรไป บอกแล้วไงว่า ผมไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง แต่ผมทำเพื่อชาติ รุ่นอาจารย์ของผม (ท่านพลเอกสุจินดา) เคยลั่นอมตะวาจาเอาไว้ในปี 35 ว่า "เสียสัตย์เพื่อชาติ" ผมยังจำติดใจเลย

 

 

 

 

 

 

 

โปรดทราบ เรายึดนโยบายของท่านไว้หมดแล้ว

 

 

 

พ.อ.ณัฐวัฒน์ จันทร์เจริญ รองผู้อำนวยการกองกรมกิจการพลเรือน ทหารบก ในฐานะรองโฆษกกองทัพบก แถลงผลการประชุมการบริหารราชการ 7 กลุ่มงาน โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ว่า การบริหารราชการให้ดำเนินการตามปกติ โดยให้ปลัดกระทรวงดำเนินการเป็นการชั่วคราว ส่วนแผนงานหรือโครงการใหม่ๆ ที่ใช้เงินงบประมาณสูง จะยังไม่มีการพิจารณาในช่วงนี้ แต่ถ้าแผนงานที่ใช้เงินงบประมาณไม่สูงมาก ให้แต่ละกระทรวงรวบรวมเข้าพิจารณาในที่ประชุมคสช.อนุมัติต่อไป ส่วนงานด้านธุรการ และเอกสารจะลดขั้นตอนเพื่อให้กระชับลง และให้การแก้ไขปัญหาเกิดได้ทันท่วงที โดยทุกกลุ่มงานจะต้องดำเนินการอย่างโปร่งใส และทำงานร่วมกับฝ่ายกฎหมาย ในการดูแลทุกขั้นตอน ขณะที่หัวหน้าคสช.ได้ให้แนวทางการแก้ไขปัญหา เป็น 3 ด้าน คือปัญหาเฉพาะหน้า ปัญหาระยะสั้น และปัญหาระยะยาว โดยในช่วงนี้จะเน้นในเรื่องของการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนเป็นอันดับแรก

 

อย่างไรก็ตาม โครงการที่จะทำเร่งด่วนคือ การจ่ายเงินให้กับชาวนา ที่ได้รับผลกระทบจากโครงการรับจำนำข้าว โดยมีการค้างจ่ายของโครงการประมาณ 9.2 หมื่นล้านบาท ซึ่งทาง คสช. จึงตัดสินใจกู้เงิน 2 ช่วง โดยแบ่งจากสภาพคล่องของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือธกส. ประมาณ 4 หมื่นล้านบาท และสถาบันการเงินภายในประเทศประมาณ 5 หมื่นล้านบาทเศษ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มจ่ายได้ในวันพรุ่งนี้ (26 พ.ค.) และคาดว่าจะสามารถจ่ายเงินให้ชาวนาได้ครบไม่เกิน 1 เดือน ซึ่งชาวนาไม่จำเป็นต้องเดินทางมา แต่จะตั้งจุดจ่ายเงินที่กองทัพบก กองทัพเรือและกองทัพอากาศ ในพื้นที่ หรืออาจจะเป็นที่ธกส. ทั้งนี้ในจังหวัดใดไม่มีหน่วยทหารสำหรับจ่ายเงิน ทางกองทัพจะจัดรถโมบายลงพื้นที่ร่วมกับ ธกส. เพื่อจ่ายเงินให้กับชาวนา ซึ่งทางทหารจะมีหน้าที่ตรวจสอบเอกสารรับเงิน แต่ธกส. จะเป็นผู้จ่ายเงินให้กับชาวนา เนื่องจากเอกสารใบประทวนอยู่ที่ธกส. ด้านกระทรวงพาณิชย์ จะเร่งระบายข้าว โดยคาดว่าจะสามารถระบายข้าวต่อเดือนได้ประมาณ 5-8 พันล้านบาท และจะใช้หนี้จากการกู้เงินได้ภายใน 15 เดือน

 

ขณะเดียวกัน ที่ประชุมได้พูดถึงการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2558 โดยเชื่อว่าไม่มีข้อติดขัดแต่อย่างใด ซึ่งจะสามารถดำเนินการได้ทันตามปฏิทินงบประมาณแน่นอน นอกจากนี้ หัวหน้าคสช. ได้รับทราบในหลักการในเรื่องของการลดอัตราภาษีจากร้อยละ 10 เหลือร้อยละ 7 ด้วย

 

 

ข่าว : มติชน

26 พฤษภาคม 2557


 

 

 

 

โปรดทราบ !

 

การรายงานตัวมี 2 วิธี

 

อย่างเป็นทางการและไม่เป็นทางการ

 

 

 

คสช. แจง การควบคุมตัว "โอ๊ค-พานทองแท้ ชินวัตร" เป็นการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ "อย่างไม่เป็นทางการ" ส่วนคนที่มีชื่อในประกาศนั้น ถือว่าเป็นทางการ

 

อา..ลิ้นพันกันอีกแล้วครับท่าน มาวหรือเปล่า ? เพราะวันก่อน ตอนจับโอ๊คนั้น พ.อ.วินธัย ได้ออกมาปฏิเสธข่าว โดยระบุว่า "ไม่มีการจับ เพราะไม่มีชื่อโอ๊คในคำสั่งให้เข้ารายงานตัว" แต่เมื่อความจริงปรากฏ ก็ออกมาแก้ข่าวว่า "การรายงานตัวมีทั้งอย่างเป็นทางการและไม่เป็นทางการ"หมายความว่า ประชาชนที่ถูกทหารจับกุมหรือควบคุมตัวอย่างไม่เป็นทางการนั้นมีอีกมาก ใช่ไหมครับท่าน แบบนี้ถือว่าเป็นปฏิบัติการสร้างความปรองดองในชาติหรือ ถามว่า ถ้าไม่ใช่ลูกชายทักษิณ จะมีสิทธิ์กลับบ้านเหมือนโอ๊คหรือ ฮื่อ น่ากลัวนะ ไหนล่ะว่าจะใช้อำนาจสร้างความเป็นธรรมในสังคมไทย ?

 

 

 

 

 

พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษก คสช.

เจ้าของฉายา "โฆษกสองสไตล์"

 

 

พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกระแสข่าวการควบคุมตัว นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ว่านายพานทองแท้เดิมพักอยู่ที่ จ.เชียงใหม่ หลังจากได้มีการพูดคุยทำความเข้าใจกันจึงได้ส่งให้กลับบ้านในกรุงเทพฯ ตามที่เจ้าตัวประสงค์ ฉะนั้น ขอให้เข้าใจสิ่งที่หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้ทำไปนั้นมิได้เกิดมาจากความเกลียดชัง หรือเกิดมาจากความเห็นส่วนตัว แต่ด้วยความจำเป็นที่จะต้องให้งานบริหารราชการ และการรักษาความสงบในห้วงนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ประเทศชาติเดินหน้าต่อไปได้
       
เมื่อถามว่าจะเรียกนายพานทองแท้เข้ามารายงานตัวหรือไม่ ทีมงานโฆษกกองทัพบกกล่าวว่า ทุกท่านที่ได้มีคำสั่งให้รายงานตัว ส่วนใหญ่ไม่มีเจ้าหน้าที่นำพามา ส่วนภาพที่ปรากฏว่ามีทหารนำตัวนายพานทองแท้มาควบคุมนั้น ตนไม่มีรายละเอียด ทุกอย่างเป็นไปตามคำชี้แจงของหัวหน้า คสช. ส่วนกรณีตระกูลชินวัตรมีการประสานงานทำความเข้าใจหรือไม่นั้น ตนเรียนกว่าบุคคลที่เชิญมารายงานตัวหลักๆ เป็นการทำความเข้าใจ และเป็นการแลกเปลี่ยนกันว่าที่ผ่านมาได้ทำอะไรคิดอะไรและขอความร่วมมือในการเดินไปข้างหน้าในการทำอะไรที่จะทำให้บ้านเมืองสงบ ส่วนใหญ่เป็นการทำความเข้าใจ
       
ส่วนรายละเอียดบุคคลต้องเป็นไปตามคำสั่ง และประกาศที่ได้เรียนไปตนไม่มีข้อมูลเพียงพอ ทั้งนี้การเชิญตัวบุคคลมี 2 อย่าง คือ การเชิญอย่างเป็นทางการคือผ่านทางคำสั่ง และอย่างไม่เป็นทางการ ส่วนกรณีของคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร อยู่ในกรณีที่ไม่เป็นทางการ ถึงแม้ว่าจะไม่มีรายงานชื่อในคำสั่ง ส่วนจำเป็นที่ หน.คสช.จะต้องพูดคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีหรือไม่นั้น ยังไม่มีข้อมูล ส่วนการควบคุม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีนั้น ยังไม่มีข้อมูลว่าปล่อยตัวหรือไม่ แต่ทุกอย่างดำเนินการไปตามกฎหมาย สำหรับนายจาตุรนต์ ฉายแสง และนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ นั้นก็ต้องดำเนินไปตามคดีที่ได้มีการประกาศคำสั่งไว้

 

 

 

ข่าว : ผู้จัดการ

26 พฤษภาคม 2557


 

 

 

 

เตรียมรับพระบรมราชโองการ !

ตั้ง-ประยุทธ จันทร์โอชา

เป็นหัวหน้าคณะรักษาความเรียบร้อยแห่งชาติ

 

อา..แสดงว่ายังไม่เรียบร้อย !

 

 

หุหุ ก็ไม่ทราบว่าเป็นตำแหน่งอะไร เพราะไม่เคยมีมาก่อนในประเทศไทย ปฏิวัติก็ปฏิวัติแล้ว ยึดอำนาจก็ยึดแล้ว ยังจะต้องรอรับพระบรมราชโองการอีก แล้วที่สั่งจับแกนนำม็อบและนักการเมือง รวมทั้งออกประกาศ-คำสั่งออกมาเป็นร้อยๆ ฉบับนั้น ใช้อำนาจหน้าที่และตำแหน่งอะไรไม่ทราบ ?

 

 

 

 

 

หมวกใบที่สามครับเจ๊

ช่วงนี้โรงงานปิดสี่ทุ่ม หมวกเหลือบานเบอะ

ผมเลยให้เด็กไปเหมามาเป็นโหล กะจะใส่ให้โก้เล่นทุกวัน

 

 

 

 

คสช. เตรียมการและสถานที่พิธีรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นหัวหน้า คสช. ณ ห้องรับรองชั้น 2 กองบัญชาการกองทัพบก...

 

เมื่อวันที่ 25 พ.ค. มีรายงานว่า สืบเนื่องจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ออกประกาศ ฉ.28/2557 เมื่อวันที่ 24 พ.ค.ที่ผ่านมา เรื่องการถวายรายงานสถานการณ์บ้านเมือง ใจความว่า ตามที่กองทัพบก และ คสช. ได้มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติกฎอัยการศึก ทั่วราชอาณาจักร และเข้าควบคุมอำนาจการปกครองเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย และแก้ไขปัญหาความขัดแย้งของบ้านเมืองมาโดยลำดับนั้น กองทัพบก และ คสช. ได้มีหนังสือถึงสำนักราชเลขาธิการแล้ว 2 ครั้ง เมื่อวันที่ 20 พ.ค. และวันที่ 22 พ.ค. เพื่อนำความกราบบังคมทูลฯ ตามโอกาสอันเหมาะสม บัดนี้ได้มีหนังสือตอบกลับจากสำนักราชเลขาธิการว่า ความทราบฝ่าละอองธุลีพระบาทเรียบร้อยแล้วนั้น

 

ล่าสุด มีรายงานเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ ได้มีการเตรียมการและสถานที่พิธีรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ในฐานะหัวหน้า คสช. ดำรงตำแหน่งหัวหน้า คสช. ที่ห้องรับรองชั้น 2 ภายในกองบัญชาการกองทัพบก ถนนราชดำเนิน

 

 

 

ข่าว : ไทยรัฐ

26 พฤษภาคม 2557


 

 

 

 

ส่งโอ๊คกลับบ้าน !

 

 

คสช.แจงข่าวพานทองแท้ถูกจับที่เชียงใหม่

 

"เปล่ารังแกเด็ก"

 

กลัวลูกโอ๊คกลับบ้านไม่ถูก เลยให้คนไปส่ง ประเดี๋ยวคุณพ่อแม้วเป็นห่วง ดูสิส่งไกล๊ไกล นั่งเฮลิคอปเตอร์จากเชียงใหม่ถึงกรุงเทพฯ ทางไกลก็ต้องใช้เวลานานหน่อย (กว่าจะสอบปากคำเสร็จ) ขออภัยในความล่าช้า

 

 

 

 

ยิ้มก็เห็นแก้ม แย้มก็เห็นไรฟัน

 

 

 

 

 

 

ชุดส่งโอ๊คกลับบ้าน

บางคนส่งให้ทั้ง ข้าวผัด-โอเลี้ยง 7 วันเต็มๆ อิอิ

 

 

 

"ประยุทธ์ จันทร์โอชา" แจงปรับย้าย ตร.-ทหาร ไม่ใช่หยามศักดิ์ศรี ชี้แค่ลดแรงกดดัน ยันไม่ซ้อม-ทรมาน บุคคลสำคัญที่ถูกคุมตัว ลั่นไม่เกิน 7 วันปล่อย ย้ำไม่ได้ทำเพื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง

 

วันที่ 25 พ.ค. นางสาววาสนา นาน่วม ผู้สื่อข่าวสายทหาร โพสต์บนเฟซบุ๊กส่วนตัว Wassana Nanuam ความว่า พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษก ทบ. ได้เผยแพร่คำชี้แจงของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.และหัวหน้า คสช. ต่อการปฏิบัติการของ คสช. ตามข้อความดังนี้

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. และหัวหน้า คสช. ชี้แจงเรื่องการปรับย้ายการปฏิบัติหน้าที่ของ พลเรือนตำรวจทหารว่า ยืนยันไม่ได้เป็นการลดทอนในเกียรติยศศักดิ์ศรีของบุคคลหรือหน่วยงานใด แต่จำเป็นต้องลดความกดดันที่มีต่อกลุ่มบุคคลดังกล่าว

สำหรับตำแหน่ง ผบ.ตร. ผู้ที่จะมารักษาการ แทนก็มาจากรอง ผบ.ตร.ซึ่งมีลำดับอาวุโสอันดับ 1 ซึ่งทั้งหมดก็เพื่อให้เกิดความไว้วางใจจากสังคม และประชาชน อยากให้เห็นใจผู้ที่ถูกปรับย้ายการปฏิบัติหน้าที่ และงดที่จะแสดงออกถึงการดูถูกเกลียดชังกัน เพราะท่านเหล่านั้นไม่ได้มีความผิดใดๆ ขอให้ถือว่าเป็นการปรับย้ายเพื่อให้เกิดความเหมาะสมต่อสถานการณ์ในห้วงปัจจุบัน อยากฝากให้ทุกคนได้ให้ความร่วมมือกับผู้ที่มารักษาการแทนด้วย

ส่วนเรื่องการควบคุมตัวบุคคลผู้ที่ถูกเรียกรายงานตัว พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เพื่อทำความเข้าใจในข้อขัดแย้ง และให้ชี้แจงข้อเท็จจริงหลังการปฏิบัติของแต่ละพวก แต่ละฝ่าย และเพื่อเสาะหาข้อเท็จจริง โดยได้จากสถานที่ดูแลที่เหมาะสม ไม่ได้มีพันธนาการ ซ้อม ทรมานแต่อย่างใด พร้อมให้เกียรติทุกคน

โดยให้เห็นถึงความจำเป็นว่า ต้องร่วมมือกันแก้ไขปัญหาบ้านเมืองในขณะนี้ ขณะนี้ได้ทยอยปล่อยกลับบ้านแล้วเป็นจำนวนมาก โดยการควบคุมตามกฎหมายไม่เกิน 7 วัน ซึ่งบางคนได้ปล่อยไปในวันแรกๆ แล้ว โดยได้จัดลำดับจำนวนวันในการควบคุมตัวตามความสำคัญของแต่ละบุคคล ซึ่งจะได้รายงานให้ทราบเป็นระยะ

รวมถึงผู้ที่ถูกควบคุมที่มีหมายจับหรือมีคดีติดตัว จะได้นำเข้ามอบตัว เพื่อดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่วันจันทร์เป็นต้นไป

นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า มีจับกุมอาวุธสงครามได้จำนวนมาก ซึ่งยังคงจะต้องดำเนินการต่อไปเรื่อยๆ เพื่อเป็นการรักษาความสงบเรียบร้อย อยากขอให้ประชาชนทุกภาคส่วน หลีกเลี่ยงการใช้ชุมนุมประท้วงต่อต้าน เพราะในขณะนี้ กระบวนการประชาธิปไตย ทำไม่ได้เป็นปกติ คสช.ไม่ได้มุ่งหวังทำเพื่อประโยชน์ผู้หนึ่งผู้ใด แต่เพื่อคืนความสุขให้คนไทยทุกคน และจะนำไปสู่การสร้างความมั่นใจ ในเสถียรภาพ จากต่างประเทศเพื่อเดินหน้าต่อไป

"ขอความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่พลเรือนตำรวจทหารทุกคน ได้อดทนเสียสละและยอมรับในหลักการ การขจัดข้อขัดแย้งของประเทศ อาจมีผลกระทบต่อองค์กรอยู่บ้าง ต้องร่วมมือช่วยกันต่อไป มิฉะนั้น เราจะกลายเป็นรัฐที่ล้มเหลว ทุกคนไม่มีความสุข"

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ผู้ที่อาศัยโซเชียลมีเดีย ในการยุยงปลุกปั่น ขอให้หยุดการกระทำดังกล่าว เพราะไม่ได้เกิดประโยชน์ต่อใครเลย ขอให้สื่อลดหรือระวังการพูดจา วิพากษ์วิจารณ์ ให้ร้ายทุกพวกทุกฝ่าย โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ทั้ง พลเรือน ตำรวจ ทหารให้เสียหายโดยเด็ดขาด

กรณี นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดิมพักอยู่ที่ จ.เชียงใหม่ หลังจากได้มีการพูดคุยทำความเข้าใจกัน จึงได้ส่งให้กลับบ้านในกรุงเทพฯ ตามที่เจ้าตัวประสงค์

"ขอให้เข้าใจสิ่งที่ผมได้ทำไปนั้นมิได้เกิดมาจากความเกลียดชัง หรือเกิดมาจากความเห็นส่วนตัว แต่ด้วยความจำเป็นที่จะต้องให้งานบริหารราชการ และการรักษาความสงบในห้วงนี้ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ประเทศชาติเดินหน้าต่อไปได้" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว.

 

 

ข่าว : ไทยรัฐ

25 พฤษภาคม 2557

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น