วันเสาร์ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

บิ๊กตู่จ่อนายกฯ คุมเองแก้ปัญหาเบ็ดเสร็จ ไม่ให้ซ้ำรอยปี 49 "ปู"รุดรายงานตัว 96 แกนนำ-รมต. โดนกักยาว 7 วัน

วันที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 เวลา 08:25 น.  ข่าวสดออนไลน์ 


บิ๊กตู่จ่อนายกฯ คุมเองแก้ปัญหาเบ็ดเสร็จ ไม่ให้ซ้ำรอยปี 49 
"ปู"รุดรายงานตัว 96 แกนนำ-รมต. โดนกักยาว 7 วัน

คสช.ถกบิ๊กขรก. เร่งจ่ายจำนำข้าว

คสช.เรียก"ยิ่ง ลักษณ์ -สมชาย-เยาวภา"และรัฐมนตรี แกนนำเสื้อแดงนกหวีดรวม 155 คน
เข้ารายงานตัว ล็อตแรก 96 คน ก่อนแยกตัวส่งไปกักบริเวณตามค่ายทหารต่างจังหวัด 
ส่วน"ปู"ถูกพาไปคุมตัวที่สระบุรีคาดในเซฟเฮาส์ศูนย์การทหารม้า ค่ายอดิศร 
เผย"บ.ก.ลายจุด"ก็โดนทหารเรียกด้วย เจ้าตัวยืนยันไม่ไป ส่วน"จาตุรนต์"
ยันอารยะขัดขืนไม่ไป เพราะไม่เห็นด้วยกับการทำรัฐประหาร ถ้าจะจับก็ประสานมา 
"บิ๊กตู่"อ้างประชาชนสั่งให้ปฏิวัติ ลั่นทำหน้าที่เหมือน นายกฯ พร้อมแต่งตั้ง
ให้รองหัวหน้าคสช.คนอื่นๆ ดูแลกระทรวงต่างๆ มีปลัดกระทรวงทำหน้าที่คล้าย
รัฐมนตรี เผยแนวโน้ม"ประยุทธ์" จ่อนั่งนายกฯเอง คุมแก้ปัญหาเบ็ดเสร็จ



"บิ๊กตู่"อ้างทำเพื่อให้คนไทยรักกัน


เมื่อ เวลา 09.00 น. วันที่ 23 พ.ค. ที่ ร.1 รอ. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. 
ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานประชุมติดตามสถานการณ์ 
โดยมีพล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผบ.สส. พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผบ.ทร. 
พล.อ.อ. ประจิน จั่นตอง ผบ.ทอ. และพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. 
ในฐานะรองหัวหน้าคสช. พล.ท.ธีรชัย นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 1 และ
นายทหารระดับสูงเข้าร่วมประชุม นอกจากนี้ยังมีแม่ทัพภาคที่ 2-4 
เข้าร่วมประชุมผ่าน วิดีโอคอนเฟอเรนซ์ด้วย 

รายงาน ข่าวแจ้งว่า พล.อ.ประยุทธ์ชี้แจงให้ที่ประชุมทราบถึงเหตุผลของการยึดอำนาจว่า 
เนื่องจากปัญหาความขัดแย้งไม่สามารถแก้ไขได้ จึงต้องยึดอำนาจ ซึ่งการดำเนินการ
ครั้งนี้เป็นการเสียสละเพื่อชาติบ้านเมือง ทั้งนี้ ตนต้องการให้ประเทศชาติมีความรัก 
ความสามัคคี ลดความขัดแย้ง และลดเหตุการณ์ความรุนแรง ยืนยันว่าสถาบัน
ไม่มีส่วนเข้ามาเกี่ยวข้องกับการยึดอำนาจครั้งนี้แต่อย่างใด

มี รายงานว่า เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย สอบถามถึงการจะมีนายกรัฐมนตรี
และรัฐบาลชั่วคราว แต่คสช.จะทำหน้าที่เป็นรัฐบาลเสียเอง พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า 
คสช.ต้องทำหน้าที่นี้ไปก่อน และต้องให้สถานการณ์พร้อมเสียก่อน 
ส่วนเรื่องรัฐบาลชั่วคราว เป็นสิ่งที่ต้องว่ากันในภายหลัง แต่ทั้งหมดจะนำไปสู่การเลือกตั้ง 

นอกจากนี้ คณะทูตต่างประเทศได้ฝากให้คสช.ดูแลความปลอดภัยของชาวต่างประเทศ
ที่อยู่ในไทย ด้วย ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ยืนยันว่าจะดูแลชาวต่างประเทศเป็นอย่างดีเท่ากับที่ดูแลคนไทยบรรยากาศที่ ร.1 รอ. ได้ปิดประตูทางเข้า-ออก และติดป้ายประกาศด้านหน้าประตูว่าเป็นพื้นที่ควบคุม 
ภายในรั้วมีการนำรถบรรทุก จอดขวางประตูไว้หลายคัน และห้ามบุคคลภายนอกเข้าออกโดยเด็ดขาด

ส่วนที่สโมสรทหารบก ถ.วิภาวดีรังสิต ซึ่งเป็นสถานที่ที่ คสช.ประกาศยึดอำนาจเมื่อ วันที่ 22 พ.ค. 
เวลา 16.30 น.นั้น เตรียมพร้อมสถานที่บริเวณโถงชั้น 1 ในการรับการรายงานตัวของข้าราชการประจำในเวลา 13.30 น. และเวลา 16.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ได้เชิญ คณะทูตานุทูต ผู้แทนองค์การระหว่างประเทศ 
ผู้ช่วยทูตทหารทุกเหล่าทัพที่ประจำประเทศไทย เข้าร่วมรับฟังการชี้แจง



แนวโน้มบิ๊กตู่นั่งนายกฯเอง

รายงาน ข่าวจากกองทัพเปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์และคณะนายทหารใกล้ชิด 
ได้เตรียมแผนการแก้ปัญหาประเทศเอาไว้อย่างครบถ้วนแล้ว โดยเฉพาะการสลาย
ความขัดแย้งทางการเมือง ยุติความแตกแยกของประชาชนที่แบ่งเป็นสีต่างๆ ซึ่
งเป็นเป้าหมายใหญ่ในการเข้ายึดอำนาจครั้งนี้ ขณะเดียวกันได้มีการหารือ
ในหมู่คณะนายทหารที่ร่วมรัฐประหารว่า เพื่อให้แผนงานการแก้ปัญหาที่ตระเตรียมเอาไว้ 
เป็นไปอย่างครบถ้วนกระบวนความ และให้เกิดผลสำเร็จอย่างครบวงจร 
จึงมีความจำเป็นที่พล.อ.ประยุทธ์จะต้องมีบทบาทในรัฐบาลใหม่ที่จะเกิดขึ้นใน เร็วๆ นี้ 

รายงานข่าวเปิดเผยด้วยว่าอีกทั้งหากพิจารณาจากบทเรียนการ รัฐประหาร 19 กันยายน 2549 
ซึ่งผู้ก่อการรัฐประหารเป็นคนหนึ่ง แล้วผู้นำรัฐบาลเป็นอีกคนหนึ่ง ทำให้เกิดปัญหางานไม่ต่อเนื่อง 
แผนการที่เตรียมเอาไว้ ไม่สามารถเดินหน้าได้ตามเป้าหมาย จึงทำให้ภาพรวมของการปฏิวัติ
ครั้งนั้นดูล้มเหลว คณะนายทหารที่ก่อการหนนี้ จึงมีความเห็นว่าพล.อ.ประยุทธ์ควรเป็นนายกฯ
ด้วยตัวเอง เพื่อคุมเกมการแก้ปัญหาประเทศให้เบ็ดเสร็จเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นการยึดอำนาจ
จะไม่ประสบความสำเร็จในบั้นปลาย จะส่งผลเสียหายต่อพล.อ.ประยุทธ์เอง ขณะนี้
จึงมีแนวโน้มสูงมาก ที่พล.อ.ประยุทธ์จะต้องเป็นนายกฯเอง อีกทั้งที่มีข่าวมาตลอด
เรื่องนายกฯคนกลางนั้น ในความเป็นจริงไม่เคยมีการไปทาบทามใครแม้แต่คนเดียว



"ลูกหมอเหวง"บุกถามข่าวพ่อ-แม่ 

เวลา 12.00 น. ที่หน้าสโมสรทหารบก นายสลักธรรม โตจิราการ ลูกชายของ นพ.เหวง 
และนางธิดา โตจิราการ แกนนำ นปช.ที่ถูก คสช.ควบคุมตัวเมื่อวันที่ 22 พ.ค. 
เดินทางมาพบเจ้าหน้าที่ทหาร โดยกล่าวว่า ทราบข่าวว่าแกนนำ กปปส.ที่ถูกควบคุมตัว
เมื่อวันที่ 22 พ.ค. ได้รับการปล่อยตัวแล้ว จึงเดินทางมาเพื่อสอบถามความเป็นอยู่
ของ นพ.เหวง ซึ่งถูกทหารควบคุมตัว ที่เวทีชุมนุมของกลุ่ม นปช.ถนนอักษะ 
รวมทั้งนางธิดา ซึ่งถูกกักตัวไว้หลังประกาศรัฐประหาร

ทั้งนี้ หลังเข้าพบกับเจ้าหน้าที่นาน 10 นาที นายสลักธรรมกล่าวว่า ยังไม่ได้พบ
พ่อกับแม่และสอบถามไปว่าถูกควบคุมตัวอยู่ที่ไหน ข้อหาอะไร โดยเจ้าหน้าที่ทหาร
ก็ให้คำตอบไม่ได้ บอกเพียงว่าไม่มีอำนาจ แต่จะแจ้งไปยังผู้บังคับบัญชาให้รับทราบ
แล้วจะติดต่อมาอีกที และวันนี้ตนนำยาและเสื้อผ้ามาให้พ่อกับแม่ 
แต่เจ้าหน้าที่ทหารก็ไม่รับฝาก ต้องนำกลับไป

นายสลักธรรมกล่าวว่า เบื้องต้นพูดคุยกับญาติแกนนำนปช.ที่ถูกควบคุมตัว 
ทุกคนยังติดต่อญาติของตัวเองไม่ได้เช่นกัน ขณะนี้รอดูท่าทีของ คสช.
ว่าจะให้ความร่วมมืออย่างไร แม้คสช.จะมีสิทธิควบคุมตัว แต่ควรแจ้ง
ให้ญาติของกลุ่มนปช.และกปปส. ทราบถึงสถานที่ควบคุมตัว และใช้กฎหมายอะไร 
เพราะเป็นสิทธิพื้นฐาน หาก 2-3 วันยังไม่ได้รับการติดต่อจาก คสช. 
ตนจะมาสอบถามที่สโมสรทหารบกอีกครั้ง



คสช.นัดชี้แจงทูตต่างประเทศ

ต่อ มาเวลา 13.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมด้วย ผบ.เหล่าทัพ เดินทางมายังสโมสรทหารบก 
เพื่อพูดคุยกับหัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวง 19 กระทรวง และระดับอธิบดีกรมที่มารายงานตัว 

นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า กระทรวงการต่างประเทศได้รับแจ้งจาก คสช. ว่าเวลา 16.00 น. หัวหน้า คสช.และคณะจะชี้แจงคณะทูตต่างประเทศ และผู้แทนองค์การระหว่างประเทศที่ประจำการในไทย เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองขณะนี้ ที่สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดีฯ ขณะเดียวกัน กระทรวงการต่างประเทศได้แปลเอกสารและคำสั่งต่างๆ ของ คสช. เป็นภาษาอังกฤษ ส่งไปยังสถานเอกอัครราชทูตไทยที่ประจำประเทศต่างๆ เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติของข้าราชการ พร้อมเป็นข้อมูล ชี้แจงรัฐบาลแต่ละประเทศด้วย



เผย"บิ๊กตู่"ไม่พอใจวีระ-ว้ากลั่น

รายงาน ข่าวเปิดเผยบรรยากาศการหารือ 7 ฝ่ายเมื่อวันที่ 22 พ.ค.ก่อนที่พล.อ.ประยุทธ์ จะประกาศยึดอำนาจการปกครองว่า วงประชุม ของ 7 ฝ่ายเริ่มขึ้นในเวลา 14.00 น. โดยพล.อ.ประยุทธ์เปิดให้ทุกฝ่ายตอบโจทย์การบ้านที่ให้ไป 5 ข้อว่าแต่ละกลุ่มทำได้ระดับไหน โดยพรรคเพื่อไทย เริ่มจากนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ระบุว่าพรรคทำได้แค่ให้รัฐมนตรีลาพักหรือลาหยุดราชการ ขณะที่ซีกรัฐบาลคือนายชัยเกษม นิติสิริ ยังคงยืนยันว่าถ้า ครม.ลาออกจะถือว่าทำผิดกฎหมายอาจถูกฟ้องร้องภายหลังได้ ทำให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยกเหตุการณ์นายวิษณุ เครืองาม ลาออกจากรองนายกฯ ในรัฐบาลรักษาการ ขึ้นมายืนยันว่า ลาออกได้ แต่นายชัยเกษมยังคงยืนยันว่าจะไม่ ลาออก 

ขณะที่นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ แกนนำ นปช. ระบุว่าการถกเถียงแบบนี้ไม่มีประโยชน์ ถ้าจะถกกันต่อไปคงต้องเตรียมเสื่อหมอนมาด้วย เพราะเรื่องนี้เหมือนความเชื่อศาสนาที่เชื่ออย่างไรก็เชื่ออย่างนั้น ตอนนี้ ผบ.ทบ.รับภาระหนัก เดินเข้ามาตอนน้ำท่วมถึงเอวแล้ว ถ้าอยู่ต่อไปน้ำจะท่วมมิดหัว ผบ.ทบ.ควรเดินออกไปแล้วประกาศว่าต้องมีเลือกตั้ง ซึ่งจะไม่มีใครว่าผบ.ทบ.ได้

เมื่อนายวีระกานต์พูดถึงตรงนี้ ทำให้พล.อ. ประยุทธ์กล่าวตอบโต้อย่างมีอารมณ์ว่า "ไม่ต้องมาพูด 
เรื่องศาสนาผมไม่รู้ แต่ผมจะเล่นพวกนอกศาสนาแน่ ไม่ต้องห่วงว่าผมจะจมน้ำหรือไม่ ผมว่ายน้ำเก่ง 
ผมศึกษามา 3 ปีแล้ว เหตุการณ์ในปี 2553 ผมไม่มีอำนาจเบ็ดเสร็จ ฉะนั้นอย่ามาสู้กับผมเลย 
มากล่าวหาผมรับเงิน 6 พันล้านบาท แล้วให้อยู่เฉยๆ ขอยืนยันว่าสักบาทผมก็ไม่ได้" 



"ชัชชาติ"ปะทะคารม"มาร์ค"

จาก นั้น พล.อ.ประยุทธ์ถามรัฐบาลว่ายืนยันจะไม่ออกใช่หรือไม่ นายชัยเกษมยืนยันว่าไม่ลาออก พล.อ.ประยุทธ์จึงตอบกลับว่าถ้าอย่างนั้น กกต.ก็ไม่ต้องพูดเรื่องเลือกตั้ง ส.ว.ไม่ต้องพูดเรื่องมาตรา 7 เมื่อพูดจบพล.อ. ประยุทธ์ได้ลุกขึ้นยืนพร้อมพูดด้วยเสียงดังว่า "ขอโทษด้วย ผมต้องยึดอำนาจ" ซึ่งขณะนั้นเป็นเวลา 16.32 น. อย่างไรก็ตาม ผู้ที่อยู่ในห้องประชุมบางคนคิดว่าพล.อ.ประยุทธ์พูดเล่น แต่พอพล.อ.ประยุทธ์เดินไปที่ประตูทาง ออกก่อนหันกลับมาแล้วพูดเสียงเข้มว่า "พวกคุณอยู่ตรงนี้ อย่าไปไหน" และเดินออกจากห้องประชุมไป

จากนั้นมี ทหารพร้อมอาวุธครบมือเดิน เข้ามาในห้องประชุม และควบคุมตัวทุกคนไว้ พร้อมจัดแยกกลุ่มบุคคลออกเป็นกลุ่มๆ น่าสังเกตว่านายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ซึ่งมาในนามพรรคเพื่อไทยกลับถูกแยกไปรวมกับกลุ่ม นปช. และแยกไปควบคุมตัวในห้องอื่น โดยตอนนั้นนายวีระกานต์มี สีหน้ายิ้มๆ แต่ยังเผลอลืมไม้เท้าที่ถือมาด้วย ขณะที่นายอภิสิทธิ์ หันไปพูดกับนายวราเทพ รัตนากร และนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ว่า "ผมบอกพวกคุณแล้ว" ทำให้นายชัชชาติโวยกลับว่ามาบอกตอนนี้แล้วยังไง มาพูดตอนนี้ทำไม

ทั้งนี้ ทหารได้แบ่งกลุ่มให้ตัวแทนพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งมีนายอภิสิทธิ์รวมอยู่ด้วยและ
พรรคเพื่อไทย อยู่รวมกัน 9 คนในห้องประชุม 



ปล่อยรมต.บางคน-กัก"ภูมิธรรม"

ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า กระทั่งเวลา 21.15 น. เปลี่ยนที่ควบคุมตัวมาเป็นที่ ร.1 รอ. จากนั้น 
ครม.ได้ทยอยเข้ามารายงานตัว อาทิ นาย สมศักย์ ภูรีศรีศักดิ์ นายยุคล ลิ้มแหลมทอง 
นายสนธยา คุณปลื้ม นายวิเชษฐ์ เกษมทองศรี นายประเสริฐ บุญชัยสุข 
โดยจัดให้ผู้ที่มารายงานตัวมารวมอยู่ในห้องเดียวกับตัวแทนพรรค เมื่อคนเยอะขึ้น
จึงแยกนายอภิสิทธิ์ และตัวแทนพรรคประชาธิปัตย์ ไปอีกห้องหนึ่ง 
จากนั้นถูกปล่อยตัวในเวลา 00.20 น. วันที่ 23 พ.ค. จากนั้นเวลา 01.00 น. 
คสช.ได้ปล่อยตัวแทนจากรัฐบาล และพรรคเพื่อไทยประกอบ ด้วย นายชัยเกษม นิติสิริ 
นายวราเทพ รัตนากร นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ นายชูศักดิ์ ศิรินิล นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา 
ส่วนนายภูมิธรรม เวชยชัย และนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ ถูกควบคุมตัวไว้ กับแกนนำ นปช. 
ทั้งนี้ มีรายงานว่า แกนนำ กปปส. และ นปช. ถูกทหารควบคุมตัวออกจาก ร.1 รอ. 
ไปไว้ในเซฟเฮาส์แห่งหนึ่ง ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถติดต่อได้



สั่งยิ่งลักษณ์-แกนพท.รายงานตัว

ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่หอประชุม กองทัพบก เทเวศร์ ซึ่งเป็นสถานที่ที่
ประกาศให้บุคคลตามคำสั่งของ คสช. คำสั่งที่ 3/2557 อาทิ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร 
นายสมชาย นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ นายวราเทพ รัตนากร นายนพดล ปัทมะ 
นายโภคิน พลกุล นายพิชัย นริพทะพันธุ์ นายภูมิธรรม เวชยชัย นายสาโรช หงษ์ชูเวช 
นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ พล.ท.มนัส เปาริก พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร 
นพ.พรหมินทร์ เลิศ สุริย์เดช นายพันศักดิ์ วิญญรัตน์ นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ 
พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา นาย วรพงษ์ ตันติเวชยานนท์ นายยงยุทธ ติยะไพรัช 
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหราฯ นายเกรียงกมล เลาหะไพโรจน์ 
นายธงทอง จันทรางศุ พล.ต.ต.ธวัช บุญเฟื่อง มารายงานตัวในเวลา 10.00 น.นั้น 
ตั้งแต่เช้าทหารจากพล.1 รอ.และเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก บช.น.ได้เข้าเคลียร์พื้นที่ 
โดยเฉพาะประตูทางเข้าสำนักงานวิจัยและพัฒนาการทางทหาร กองทัพบก 
หอประชุมกองทัพบก ได้เคลียร์รถและบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องออกทั้งหมด 
รวมทั้งสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศถูกกันให้มาสังเกตการณ์
ที่บริเวณสี่ แยกพล 1 หัวถนนนครราชสีมา



นิวัฒน์ฯ-รมต.ทยอยรายงานตัว

จาก นั้นเวลา 08.00 น. เจ้าที่กองกำลังผสม ได้ปิดหัว-ท้ายถนนนครราชสีมา
โดยไม่ให้รถยนต์ผ่าน ยกเว้นผู้ที่มารายงานตัว ท่ามกลางมาตรการรักษา
ความปลอดภัยอย่างเข้มงวด และได้รับความสนใจของประชาชนที่ผ่านไปมา 
ต่อมาเวลา 08.50 น. เจ้าหน้าที่ทหารจากหน่วยชุดเคลื่อนที่เร็ว 
กรมทหารราบ 31 รักษาพระองค์ เข้าประจำการ

เจ้าหน้าที่ภายในหอประชุมกองทัพบก เผยว่า ภายในหอประชุมได้เตรียมสถานที่
เพื่อรับรายงานตัวจากผู้ที่มีรายชื่อ รวมทั้งเตรียมรถสำหรับคุมและเคลื่อนย้าย
กรณีบุคคลสำคัญหากมีความจำเป็น

สำหรับ บุคคลแรกที่มาถึงในเวลา 09.00 น. ได้แก่ นายยรรยง พวงราช 
อดีตรมช.พาณิชย์ ที่ระบุว่าทุกคนมารายงานตัวที่นี่ทั้งหมด 
ตามมาด้วยนายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล อดีตรมว.พลังงาน

จากนั้นเวลา 09.35 น. นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล อดีตรองนายกฯ 
เดินทางมาถึงด้วยรถโฟล์ก ป้ายแดง ทะเบียน ฐ 8432 กรุงเทพมหานคร 
เข้ารายงานตัว ตามมาด้วยร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง อดีตรมว.แรงงานและ
ผอ.ศอ.รส. ที่ถูกทหารประกบตัวตั้งเมื่อคืนวันที่ 22 พ.ค. และนายธงทอง จันทรางศุ 
ปลัดสำนักนายกฯ ส่วนกปปส. คนแรกที่มารายงานตัวคือนางสาวอัญชะลี ไพรีรักษ์



ยิ่งลักษณ์มาตามสั่ง-พร้อม"ไปป์"

เวลา 11.59 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์เดินทางเข้ามารายงานตัวตามคำสั่ง คสช.
ด้วยรถโฟล์กตู้สีดำ ทะเบียน นบ 1 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นรถตู้กันกระสุน 
มีทีมรักษาความปลอดภัยมาคอยดูแล น่าสังเกตว่าไม่มีขบวนนำ 
มีเพียงชุดล่วงหน้าที่มาคอยเคลียร์เส้นทางและประสานกับเจ้าหน้าที่ทหาร
ที่ ดูแลประตูทางเข้าหอประชุมกองทัพบก เทเวศร์เท่านั้น ขณะที่นายสมชาย 
พร้อมด้วยนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ เดินทางมาถึงโดยใช้ประตูอีกทาง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การรายงานตัวของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ใช้เวลาเพียง 15 นาที 
จากนั้นฝ่ายคสช. เชิญน.ส.ยิ่งลักษณ์ไปหารือเป็นการภายในที่ พล.1 
ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามหอประชุมสโมสรทหารบก มีรายงานข่าวแจ้งว่า 
การเดินทางมาครั้งนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้พา ด.ช.ศุภเสกข์ อมรฉัตร 
หรือน้องไปป์ บุตรชายมาด้วย ส่วนแกนนำคนอื่นๆ ทั้งนายนิวัฒน์ธำรง 
นายสมชายและนางเยาวภา นายสนธยา นางสุกุมล คุณปลื้ม ร.ต.อ.เฉลิม 
ยังถูกกักตัวรวมกันอยู่ภายในหอประชุม

เวลา 14.00 น. มีผู้เข้ามารายงานตัวแล้วประมาณ 70 คน แต่มีบางส่วนที่ติดต่อ
เข้ามาแล้วว่ากำลังมาที่หอประชุมกองทัพบก อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ 
จะเดินทางมาพร้อมคณะคสช. เพื่อชี้แจงสถานการณ์และแนวทางการปฏิบัติ
หลังการยึดอำนาจของคสช.ในช่วงเย็น วันนี้ ขณะที่สื่อมวลชนทั้งในและ
ต่างประเทศจำนวนมากยังปักหลักติดตามสถานการณ์ความเคลื่อนไหว
อยู่ที่แยกพล.1 หน้าหอประชุมกองทัพบกอยู่เป็นจำนวนมาก



หญิงสาวบุกประท้วงถูกปล้นสิทธิ์

รายงาน ข่าวแจ้งว่าเจ้าหน้าทหารที่ได้จัดห้องประชุมเป็น 2 ห้อง โดยแจ้งให้ผู้ที่มีรายชื่อ
รายงานตัวตามคำสั่งคสช.แยกนั่งคนละห้อง โดยก่อนเข้าห้องประชุม ได้ขอความร่วมมือ
ให้บุคคลทั้งหมดไม่พกเครื่องสื่อสารเข้าไป และไม่มีรายงานแจ้งว่าจะให้อยู่ภายใน
ห้องประชุมนานเท่าใด โดยพล.อ.ประยุทธ์ ให้พล.ต.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.พล.1.รอ. 
ควบคุมดูแลรักษาความปลอดภัยพื้นที่โดยรอบหอประชุมกองทัพบก เทเวศร์

เวลา 14.45 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการเข้ารายงานตัวของบุคคลที่มีชื่อ
ตามคำสั่งของ คสช. มีนางเพชรรัตน์ วงศ์วิเศษ อายุ 63 ปี ชาว กทม. แต่งกายด้วยชุดดำ 
สวมแว่นตาดำ มีป้ายคล้องคอระบุข้อความ "ช่วยด้วย ฉันถูกปล้น" 
มานั่งประท้วงบริเวณทางเข้าหอประชุม 

นางเพชรรัตน์กล่าวเป็นภาษาอังกฤษกับ ผู้สื่อข่าวต่างชาติที่มาทำข่าวอยู่จำนวนมากว่า 
ตนไม่ใช่ทั้งคนเสื้อแดงหรือคนเสื้อเหลือง และไม่ได้เป็นขี้ข้า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร 
แต่รู้สึกไม่พอใจที่ถูกทหารปล้นประชาธิปไตยและสิทธิเสรีภาพ รวมทั้งไม่พอใจที่
คนไทยส่วนใหญ่เงียบเฉยกับสิ่งนี้ จึงเดินทางมาคนเดียวเพื่อแสดงออกให้ทหารรับรู้ 
อย่างไรก็ตาม นางเพชรรัตน์นั่งประท้วงกลางแดดอยู่นาน 10 นาทีจึงเดินทางกลับ



ทยอยนำรมต.-นักการเมืองกักตัว

เมื่อ เวลา 15.45 น. ที่หน้าหอประชุมกองทัพบก เทเวศร์ นายนิสิต สินธุไพร 
เดินทางมาถึง เปิดกระจกรถทักทายผู้สื่อข่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม แต่ไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆ 
นอกจากนี้ยังมีครอบครัวหรือคนสนิทของผู้ที่เข้ารายงานตัวแล้วและยังอยู่ภาย ในหอประชุม 
ได้นำกระเป๋าเสื้อผ้ามาฝากไว้กับทหารบริเวณทางเข้า ซึ่งสอดคล้องกับกระแสข่าว
ที่ระบุว่าจะแบ่งกลุ่มผู้เข้ารายงานตัวออกเป็น กลุ่มๆ เพื่อพาไปกักตัวในสถานที่ 
ซึ่งเป็นที่รับรองของทหาร 5-7 วัน เนื่องจากพล.อ. ประยุทธ์ไม่ต้องการให้แกนนำ
ของกลุ่มต่างๆ เหล่านี้เคลื่อนไหวทางการเมือง จนถึงขณะนี้มีผู้เข้ารายงานตัวแล้ว 96 คน

เวลา 16.35 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีความเคลื่อนไหวบริเวณภายในหอประชุมกองทัพบก 
โดยมีรถฮัมวี่ของทหารนำขบวนรถตู้ สีขาว ขบวนละ 3-4 คัน ทยอยออกมาทีละชุด 
โดยรถตู้และรถนำขบวนได้ใช้วัสดุปิดบังป้ายทะเบียนเอาไว้ทั้งหมด รวมทั้งปิดม่าน
ภายในรถอย่างมิดชิด หรือถ้าคันไหนไม่มีม่านก็จะใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ปิดที่กระจก
เพื่อไม่ให้ เห็นภายในรถ คาดว่าจะนำแกนนำทยอยเดินทางไปยังที่พักรับรอง 
ซึ่งไม่ทราบที่หมายว่าเป็นที่ใดบ้าง โดยขบวนออกจากหอประชุมกองทัพบก
แล้วเลี้ยวซ้ายโดยใช้เส้นทางแยกการเรือน มุ่งหน้าแยกสวนรื่นฯ



"ยิ่งลักษณ์"ถูกควบคุมตัวพล.1รอ.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากคสช. ทยอยนำตัวบุคคลที่เข้ารายงานตัวออกไป
ตามเซฟเฮาส์ของทหาร มีรายงานข่าวแจ้งว่าแบ่งออกเป็น 3 ชุดได้แก่ 
ปราจีนบุรี สระบุรี และลพบุรี อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้สำหรับผู้ที่จะต้องใช้ยาประจำตัว
ได้มีการประสานคนใกล้ชิดนำยาที่ จำเป็นมาให้เช่น นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล 
พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา โดยไม่อนุญาต
ให้คนสนิทเข้าถึงตัว แต่ส่งผ่านเจ้าหน้าที่ทหารให้ตัวบุคคลนั้นๆ ทั้งนี้ การพาตัวบุคคลสำคัญ
เริ่มตั้งแต่ 16.00-17.00 น. จากนั้นเจ้าหน้าที่ทหารได้เช็กชื่อ คนขับและคนติดตาม
ที่กันไว้ก่อนหน้านี้เพื่อปล่อยตัวออกไป แต่ละคนค่อนข้างงง ไม่รู้ว่านายของตัวเอง
ถูกนำตัวไปไว้ที่ไหน เนื่องจากเครื่องมือสื่อสารไม่ได้ถูกนำติดตัวไปด้วย

ในส่วนของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังถูกกักบริเวณอยู่ที่ภายใน พล.1 รอ. บางกระแสระบุว่า 
นำไปคุมตัวที่ค่ายอดิศร จ.สระบุรี อย่างไรก็ตาม 
มีกระแสข่าวอีกทางว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ได้รับการปล่อยตัวแล้ว

ส่วนด.ช.ศุภเสกข์ ที่ร่วมเดินทางมากับน.ส.ยิ่งลักษณ์นั้น 
ทางเจ้าหน้าที่ได้แยกตัวให้กลับบ้านตั้งแต่ช่วงบ่าย



คุมตัวอภิวันท์-ธวัชไปคุมที่พล.9

รายงาน ข่าวเปิดเผยว่า อดีตรัฐมนตรีและแกนนำ นปช. 5 คน ถูกคุมตัวไปไว้ที่
ค่ายทหาร จ.กาญจนบุรี ประกอบด้วย พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย พล.ต.ต.ธวัช บุญเฟื่อง 
พล.ต.อ. ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา พล.ต.ศรชัย มนตริวัต และนายสมหวัง อัสราษี 
ส่วนนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ถูกคุมตัวไปกักที่ค่ายทหาร จ.ลพบุรี

ส่วน พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ไม่ได้มารายงานตัวตามคำสั่ง คสช. เนื่องจากมีอาการป่วย 
ด้านร.ต.อ.เฉลิม หลังจากเข้ารายงานตัวแล้ว มีนายทหารยศพันเอกคุมตัวกลับไปพักที่บ้าน 
เนื่องจากมีอาการป่วยเช่นกัน



พท.เผยไม่รู้ชะตาภูมิธรรม-เด็จพี่

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่พรรคเพื่อไทย หลังคสช.ยึดอำนาจ ที่อาคารโอเอไอ 
ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ ที่ทำการพรรคเพื่อไทย ได้ปิดทำการ โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชน 
บุคคล ผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปภายในอาคาร เจ้าหน้าที่ของอาคารแจ้งว่าไม่มีการแถลงข่าวใดๆ 
ทั้งนี้ ไม่มีเจ้าหน้าที่ทหารจาก คสช.เข้ามาตั้งจุดตรวจ หรือประจำการที่พรรคเพื่อไทยแต่อย่างใด

ผู้สื่อข่าวโทรศัพท์ติดต่อ แกนนำพรรคเพื่อไทยที่ได้รับการปล่อยตัว 3 คน คือ 
พล.ต.ท. วิโรจน์ เปาอินทร์ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา และนายชูศักดิ์ ศิรินิล นั้น 
คนใกล้ชิดของนายวันมูหะมัดนอร์ ระบุว่าสบายดี แต่ขอพักผ่อนก่อน 
ด้านนายชูศักดิ์ ระบุสั้นๆ ว่า สบายดี แต่ขอนอนก่อน เพราะยังไม่ได้นอนเลย

พล.ต.ท. วิโรจน์ ให้สัมภาษณ์ว่า สบายดี เมื่อถามถึงบรรยากาศตอนที่โดนกักตัว 
พล.ต.ท. วิโรจน์กล่าวว่า ขณะที่ประชุมต่างฝ่ายต่างเถียงกันอย่างถึงพริกถึงขิง 
แต่พอถูกทหารจับตัวแล้วก็เหมือนพี่น้องกัน มานั่งคุยกันว่าเมื่อไรเขาจะปล่อย 
ขณะนั้นมีแค่ตัวแทนของพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาธิปัตย์เท่านั้น 
ทหารได้กักตัวพวกตนอยู่ในห้องประชุมโดยดูแลพวกตนอย่างดี 
มีน้ำชา กาแฟและข้าวผัดกะเพราไข่ดาวเลี้ยงอยู่ตลอด

เมื่อถามถึงนายภูมิธรรม เวชยชัย และนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ ที่ถูกแยกออกไป
ไม่ได้รับการปล่อยตัวพร้อมกัน พล.ต.ท.วิโรจน์กล่าวว่า ตอนที่ทหารจะปล่อยตน
กับพรรคประชาธิปัตย์ พอใกล้เวลา 02.00 น. ทหารก็มาเรียกให้
นายภูมิธรรมกับนายพร้อมพงศ์ ออกไปข้างนอก ซึ่งตนไม่ทราบว่าเขาไปไหน 
จากนั้นก็บอกให้คนที่เหลือกลับได้ ตนกับนายชูศักดิ์เลยอาศัยรถของนายวันมูหะมัดนอร์กลับบ้าน



ปชป.เชียร์สุดใจทหารปฏิวัติ

ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชำนิ ศักดิเศรษฐ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ 
เปิดเผยว่า ตัวแทนของพรรคทั้ง 5 คน ถูกควบคุมในฐานะเข้าร่วมประชุม 
แต่เมื่อสถานการณ์เรียบ ร้อยก็ได้รับการปล่อยตัว โดยไม่มีการให้เซ็นชื่อ
หรือต้องรายงานตัว ยืนยันว่าพรรคยังทำหน้าที่ต่อไป แต่ขณะนี้ขอติดตาม
ดูสถานการณ์ ก่อน ยังไม่เรียกประชุมเพราะมีคำสั่งคสช. ห้ามชุมนุมทางการเมือง 

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ว่า 
ขออย่าโทษทหารที่ยึดอำนาจและขอให้ความเป็นธรรมกับ ทหาร 
เพราะพรรคการเมืองเล่นบนกระดานแล้วทำให้บ้านเมืองถึงทางตัน 
เกิดปัญหาการใช้ความรุนแรง ซ่องสุมอาวุธ ทหารจึงจำเป็นต้องยุติการนองเลือด 
เพื่อให้บ้านเมืองได้หายใจ นำสู่ความสงบ ถ้าทุกฝ่ายร่วมมือกับทหาร 
คาดว่าทหารจะอยู่ในอำนาจไม่นาน และร่างกติกากันใหม่ แต่ถ้าเราปล่อยให้
บ้านเมืองเป็นอย่างที่ผ่านมา เชื่อว่าการรัฐประหารครั้งนี้จะไม่ใช่ครั้งสุดท้าย 

นายนิพิฏฐ์กล่าว ต่อว่า การที่มีบางฝ่ายเรียกร้องให้พรรคแสดงท่าทีต่อต้านรัฐประหารนั้น 
อยากบอกว่าเผด็จการทหารไม่เลวร้ายเท่าเผด็จการทุนสามานย์ ขอให้ทุกฝ่าย
ให้โอกาสทหารกวาดล้างบ้านเมือง ถ้าไม่ดีขึ้นแล้วค่อยมาว่ากัน 

คนใกล้ชิดนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า 
นายอภิสิทธิ์พักผ่อนอยู่ในที่ปลอดภัย โดยกำชับแกนนำพรรคที่เข้าร่วม
การหารือ 7 ฝ่ายและถูกควบคุม ตัวด้วยกัน ให้ระมัดระวังการเดินทาง
ไปตามสถานที่ต่างๆ รวมทั้งให้ระวังการให้สัมภาษณ์หรือการพูดคุย 
เนื่องจากเกรงจะทำให้เกิดการกระทบกระเทือนฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด และ
ขอให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดก่อนมาวิเคราะห์สถานการณ์ร่วมกันอีกครั้ง



วุฒิสภาเด้งรอ-ตั้งนายกฯคสช.

ที่รัฐสภา นายอภิชาติ ดำดี ส.ว.กระบี่ กล่าวถึงการนัดหารือวุฒิสภาว่า 
ได้รับแจ้งว่าให้งดไปก่อน เพื่อให้ส.ว.ติดตามสถานการณ์ ส่วนจะนัดหารือ
อีกครั้งเมื่อใดนั้น คาดว่าคงแจ้งมาอีกครั้ง ทั้งนี้นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย 
รองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 ในฐานะปฏิบัติหน้าที่แทนประธานวุฒิสภา 
ได้สั่งให้ส.ว.ทุกคนเตรียมพร้อมปฏิบัติหน้าที่หากได้รับแจ้งอย่างเร่งด่วน 
อาทิ การประชุมนอกรอบ หรือการเรียกให้พิจารณาหารือ ส่วนที่คสช.
คงสถานภาพวุฒิสภาไว้นั้น คาดว่าวุฒิสภาจะถูก คสช.เรียกใช้งาน
ในด้านนิติบัญญัติ อาจรวมถึงการตั้งนายกฯ หรือคณะรัฐบาลด้วย

นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ ส.ว.สรรหา กล่าวว่า ยังไม่ชัดเจนว่าวุฒิสภาทำอะไรได้บ้าง 
เพราะรัฐธรรมนูญปี 2550 สิ้นสภาพ จึงต้องรอคำประกาศของคสช. เข้าใจว่า
น่าจะเขียนธรรมนูญปกครองชั่วคราวขึ้นมา เพื่อกำหนดอำนาจหน้าที่ของวุฒิสภาต่อไป 
ส่วนจะถึงขั้นตั้งนายกฯได้หรือไม่นั้น อำนาจการตั้งนายกฯเป็นของคสช.อยู่แล้ว 
แม้แต่จะทูลเกล้าฯ ตัวเองก็ยังได้ มองว่าเหตุที่คงสถานะวุฒิสภาไว้เพราะยึดโยง
กับประชาชนโดยเฉพาะส.ว. เลือกตั้ง จึงถือว่ายังคงความเป็นประชาธิปไตย 
ดังนั้น หากคสช.จะมอบให้วุฒิสภา เป็นผู้ทูลเกล้าฯ ชื่อนายกฯ อาจทำให้
ภาพลักษณ์ดีขึ้นและมีความชอบธรรมกว่าตั้งด้วยตัวเอง อีกทั้งที่ประชุมใหญ่
กรรมการกฤษฎีการับรองให้การเลือกประธานและรองประธาน วุฒิสภาคนที่ 2 
เป็นไปโดยชอบ จึงถือว่านายสุรชัย สามารถทูลเกล้าฯชื่อนายกฯได้ 



คสช.แบ่งอำนาจหน้าที่รับผิดชอบ

เมื่อ เวลา 13.30 น. ที่สโมสรทหารบก ถ.วิภาวดีรังสิต พล.อ.ประยุทธ์ 
เป็นประธานประชุมตัวแทนหัวหน้าส่วนราชการ ตัวแทนรัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน 
สถาบันการศึกษา ใช้เวลาพูดคุย 2 ชั่วโมง 

รายงานข่าวจากที่ประชุม แจ้งว่า ผบ.ทบ.ชี้แจงถึงเหตุผลของการรัฐประหาร
ว่าเป็นผลมาจากความขัดแย้งในการพูดคุย กับตัวแทน 7 ฝ่าย 
เมื่อวันที่ 22 พ.ค.ไม่ได้ข้อสรุป จากนั้นชี้แจงเรื่องแนวนโยบายการปฏิบัติ 
การจัดส่วนงาน การกำหนดอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบของคสช. 
แบ่งเป็น 5 ด้านประกอบด้วย 
1.ฝ่ายความมั่นคง มีพล.ธนะศักดิ์ ปฏิมา ประกร 
รองหัวหน้าคสช. เป็นหัวหน้าฝ่ายดูแลรับผิดชอบ 4 หน่วยงานได้แก่ กระทรวงกลาโหม 
กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที) 
และกระทรวงการต่างประเทศ

2.ฝ่ายสังคมจิตวิทยา มีพล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองหัวหน้าคสช. 
เป็นหัวหน้าฝ่าย รับผิดชอบ 7 หน่วยงานได้แก่ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 
กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

3.ฝ่ายเศรษฐกิจ มีพล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองหัวหน้าคสช. เป็นหัวหน้าฝ่าย 
รับผิดชอบ 7 หน่วยงาน ได้แก่ กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม 
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพลังงาน กระทรวงแรงงาน กระทรวงคมนาคม



"อดุลย์"คุมสำนักเลขานายกฯ-สภา

4.ฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม มีพล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา 
ผู้ช่วยผบ.ทบ.เป็นหัวหน้าฝ่าย ดูแลรับผิดชอบ 3 หน่วยงานได้แก่ 
กระทรวงยุติธรรม สำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและ
ปราบปรามการฟอกเงิน 
5.ฝ่ายกิจการพิเศษ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รองหัวหน้าคสช. 
เป็นหัวหน้าฝ่าย ดูแล 20 หน่วยงาน อาทิ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี 
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เป็นต้น

นอกจากนั้น มีหน่วยขึ้นตรงหัวหน้าคสช. รับผิดชอบ 5 ด้าน 1 หน่วยขึ้นตรง 1 กลุ่มงาน 
ได้แก่ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร(กอ.รมน.) 
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักข่าวกรองและสำนักงบประมาณ และกลุ่มงานรักษาความปลอดภัย

ทั้งนี้ ที่ประชุมพูดคุยถึงปัญหาการจ่ายเงินในโครงการรับจำนำข้าวที่ชะงักลง 
คาดว่าจะใช้เวลาดำเนินการ 15-20 วัน ส่วนเงินที่ขายข้าวไปก่อนหน้านี้
คงต้องระงับไว้ก่อน เนื่องจากอยู่ระหว่างการไต่สวนของป.ป.ช. จึงต้องระงับ ไว้ก่อน 

จากนั้นเวลา 16.00 น. คณะทูตเดินทางเข้ามารับฟังแนวทางดำเนินการ
ของคสช. โดยตลอดทั้งวันไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนติดตามเข้าไปสังเกตการณ์ภายในแต่อย่างใด



บิ๊กตู่ประชุมปลัด-เร่งจ่ายจำนำข้าว

เวลา 13.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมด้วยรองหัวหน้า คสช. และพล.อ.อุดมเดช สีตบุตร 
รองผบ.ทบ.ในฐานะ เลขาธิการ คสช. พบปะพูดคุยกับหัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวง
ทั้ง 19 กระทรวง และระดับอธิบดีกรมที่เดินทางมารายงานตัว โดยชี้แจงกับหัวหน้าส่วนราชการ 
ตอนหนึ่งว่าวันนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของประเทศภายใต้สถานการณ์กดดันทั้งในและ นอกประเทศ 
ตนจะนำประเทศไปสู่ความสมานฉันท์อย่างยั่งยืน ถือเป็นความจำเป็นที่ต้องใช้อำนาจด้าน
ความมั่นคงมาแก้ปัญหา เหตุผลความจำเป็นในด้านต่างๆ ความเดือดร้อนและความจำเป็น
ของคนระดับล่างโดยเฉพาะเกษตรกรและชาวนาต้องแก้ไข อย่างเร่งด่วนและเร็วที่สุด เพราะ 
1.ต้องทำงานแข่งกับเวลา เราถูกโจมตีเรื่องการทำรัฐประหาร 
2.แข่งกับความหวังของประชาชน เพราะเขาคาดหวังกับเราว่าเข้ามาแล้วจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น 
3.แก้ไขปัญหาเรื่องข้าว

"ปัญหาโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งสำนักงบประมาณบอกผมว่า มีงบกลางอยู่ 4 หมื่นล้านบาทเพื่อจ่ายชาวนา และมีคนเสนอให้กู้อีก 5 หมื่นล้าน ซึ่งมีเพียงพอจะจ่ายให้ชาวนาทั้งหมด คาดว่าจะใช้เวลาเบิกจ่ายเงินให้ชาวนาได้ภายใน 20-25 วัน ส่วนคดีทุจริตโครงการจำนำข้าวที่อยู่ในความรับผิดชอบของป.ป.ช. จะปล่อยให้ป.ป.ช.ดำเนินการต่อไป เราไม่เข้าไปยุ่ง" หัวหน้า คสช.กล่าว



เผยทำหน้าที่นายกฯ-ปลัดรมต.

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาเราไม่เข้าข้างใครแต่จะแก้ปัญหาให้เกิดความรักความสามัคคี 
ตอนแรกที่ประกาศกฎอัยการศึก เราทำภายใต้รัฐธรรมนูญ แจ้งให้รัฐบาลรับทราบ ทูลเกล้าฯ 
ถวายรายงานทรงรับทราบแล้ว แต่สถานการณ์หลังจากนั้นไม่เป็นผล แต่ละฝ่ายยังยืนกราน
แนวทางของตัวเอง ไม่มีใครสั่ง ไม่มีสถาบันหรือพระบรมวงศานุวงศ์ท่านใดมาสั่ง อย่าลือกัน 
คนที่สั่งคือประชาชนที่เดือดร้อน ทั้งนี้ ตนจะดำเนินการกับผู้ที่กระทำผิดกรณีหมิ่นสถาบันจนถึงที่สุด 
ที่ผ่านมาต้องผ่านคณะกรรมการตลอดสุดท้ายต้องนิรโทษกรรม แต่วันนี้ตนใช้กฎอัยการศึก 
ใช้อำนาจเด็ดขาด ไม่มีการนิรโทษกรรมอีกต่อไป

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขอให้ข้าราชการร่วมกันบริหารประเทศแบบบูรณาการ ลดปัญหา
ความขัดแย้งทุกภาคส่วนและเร่งทำงานพัฒนาประเทศเพื่อเป็นที่พึ่งของ ประชาชน 
จะใช้ระบบสั่งการแบบทหาร ตั้งเป้าให้เห็น ผลการพัฒนาอย่างเป็นรูปธรรม ไม่มีความขัดแย้ง 
และเมื่อบ้านเมืองกลับสู่ปกติสุข ประเทศจะกลับสู่ประชาธิปไตย "ผมขอเวลาทำงานเพื่อ
ปฏิรูปประเทศทุกด้าน ทั้งกลไกและกติกา สังคม เศรษฐกิจ การเมือง และทุกฝ่าย
ต้องเห็นชอบร่วมกันก่อนถึงจะจัดให้มีการเลือกตั้ง"

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนจะดูแลข้าราชการทุกคนอย่างดี มีอะไรก็ขอให้บอก 
จะทำทุกทางเพื่อป้องกันไม่ให้มีการครอบงำ เพื่อไม่ให้กระทบกับข้าราชการ 
การกระทำและตัดสินใจเช่นนี้ คนอาจมองว่าใช้อำนาจมาก แต่เมื่อมีอำนาจยิ่งมาก 
เราต้องทำตัวให้เล็กลง ขอให้ทุกคนมองให้ไกลเพื่อแก้ปัญหาบ้านเมือง รู้ว่ามันไม่ใช่สิ่งที่ดี
แต่เป็นทางออกเดียวที่ข้าราชการจะได้กลับมาทำงาน เพื่อประเทศชาติ ใช้งบประมาณได้ 
เศรษฐกิจเดินหน้า ส่วนตำแหน่งนายกฯ ตนยังทำหน้าที่นี้อยู่ จากนี้ให้ปลัดทุกกระทรวง
ทำหน้าที่รักษาการรัฐมนตรี มีข้าราชการประจำเป็นผู้ขับเคลื่อนงาน 
จะแบ่งงานออกเป็น 6 กลุ่มงาน เพื่อบริหารราชการแผ่นดิน 



21 ออท.รับฟังประยุทธ์ชี้แจง

พล.อ.ประยุทธ์ ชี้แจงถึงอำนาจหน้าที่ของคสช.ที่แบ่งงานเป็น 3 ระดับ 
1.ระดับนโยบาย ที่มี คสช.ประกอบด้วย หัวหน้า คสช. รองหัวหน้า คสช.ทั้ง 4 คน 
และ เลขาธิการคสช.1 คน รวมถึงคณะที่ปรึกษาและประสานงานด้านความมั่นคง 
2.ระดับแปรนโยบายไปสู่การปฏิบัติ คือกลุ่มงานทั้ง 6 ด้าน 
3.ระดับปฏิบัติ คือส่วนราชการขึ้นตรงกับ คสช. เช่น กระทรวงต่างๆ และกองกำลัง
รักษาความสงบ นอกจากนี้ได้แบ่งอำนาจหน้าที่ให้กับสำนักเลขาธิการ คสช. 
ที่มีพล.อ.อุดมเดช เป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุด รับผิดชอบหน่วยงานราชการที่
ขึ้นตรงกับหัวหน้า คสช. รวมทั้งกำกับดูแลการปฏิบัติงาน คสช. 
มีพล.ท.ชาติอุดม ติตถะสิริ รองเสธ ทบ. เป็นรองเลขาฯคสช.

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อว่า จากนี้ คสช.จะดูแลสนับสนุนเต็มที่ในทุกด้านเพื่อขับเคลื่อน
ประเทศชาติไปข้างหน้าจะ ทำงานแบบสื่อสาร 2 ทาง จากล่างถึงบนและจากบนถึงล่าง 
งานจะต้องมีความสัมฤทธิผล คือจับต้องได้ เป็นรูปธรรม

จากนั้นเวลา 16.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ เชิญคณะทูตานุทูต ผู้แทนองค์การระหว่างประเทศ 
ผู้ช่วยทูตทหารทุกเหล่าทัพ ที่ประจำประเทศไทยทั้งหมด 87 คน จาก 58 ประเทศ 
โดยมีระดับเอกอัคราชทูต 21 คน และผู้แทนจากองค์กรระหว่างประเทศจำนวน 22 คน 
ย่างไรก็ตาม เอกอัคราชทูตเยอรมนีประกาศก่อนหน้านี้แล้วว่าจะไม่ร่วมเข้าประชุม



ทหารคุมตัวอดีตส.ส.-แกนแดง

รายงานข่าวจากจังหวัดทหารบกอุตรดิตถ์ ระบุว่า เจ้าหน้าที่ทหาร จทบ.อุตรดิตถ์ 
ได้ควบคุมตัวนายกนก ลิ้มตระกูล อดีตส.ส.อุตรดิตถ์ พรรคเพื่อไทย เขต 1 
นายปัณณวัฒณ์ นาคมูล ประธานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ
แห่งชาติ (นปช.) อุตรดิตถ์ พร้อมภรรยา และนายพนัส พรมทอง แกนนำเสื้อแดง 
อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ โดยทั้งหมดถูกควบคุมตัวอยู่ที่บ้านพักรับรอง จทบ.อุตรดิตถ์ 
ส่วน น.ส.กฤษณา สีหลักษณ์ อดีตรมต.สำนักนายกฯ กำลังอยู่ระหว่างการติดตามตัว 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากมีกระแสข่าวว่านายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ แกนนำคนเสื้อแดง 
และประธาน อพปช. รวมทั้งนายอนุวัฒน์ ทินราช ประธาน นปช.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 
ถูกเจ้าหน้าที่ทหารควบคุมตัวที่บ้านพัก โดยมีภาพที่ถูกส่งต่อในกลุ่มคนเสื้อแดงด้วยกันนั้น 
ล่าสุดยังไม่มีใครยืนยันได้ว่าทั้งสองคนถูกเจ้าหน้าที่ทหารควบคุมตัวจริง หรือไม่ 



แกนแดงเชียงรายถูกทหารล็อก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าแกนนำคนเสื้อแดงหลายคนที่เคยเคลื่อนไหวในพื้นที่ จ.เชียงราย 
ได้รับแจ้งจากจังหวัดทหารบกเชียงรายให้เข้าไปรายงานตัวที่ค่ายเม็งรายมหาราช 
ซึ่งแกนนำที่เคยเคลื่อนไหวในพื้นที่อย่างต่อเนื่องได้ทยอยไปรายงานตัวตาม ลำดับ 
เช่น น.ส. จิรนันท์ จันทวงษ์ แกนนำกลุ่มลูกคนเมืองรักชาติเชียงราย นายสมชัย แสงทอง 
แกนนำหมู่บ้านเสื้อแดงเพื่อประชาธิปไตยภาคเหนือและ จ.เชียงราย ซึ่งภายหลัง
การรายงานตัวได้ถูกเชิญให้เข้าพักที่บ้านพัก ซึ่งมีการจัดเตรียมไว้ให้ภายในค่าย
ซึ่งทางญาติของแกนนำดังกล่าวระบุว่าอาจจะ ใช้เวลาพักอยู่ประมาณ 3 วันก่อน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการกระจายเสียง ของสถานีวิทยุชุมชนของกลุ่มคนเสื้อแดงหลายกลุ่ม
ได้ยุติการออกอากาศ โดยสถานีวิทยุชุมชนคนรากหญ้าเพื่อประชาธิปไตยเชียงราย
ของน.ส.จิรนันท์ ก็ยุติการออกอากาศไปโดยปริยาย นอกจากนี้ยังมีสถานีวิทยุชุมชนห้าแยก 
ตั้งอยู่ชุมชนรั้วเหล็กของนายอรรถกร กันทะไชย แกนนำเครือข่ายรักประชาธิปไตย จ.เชียงราย 
ก็ถูกยุติการออกอากาศไปแล้วเช่นกัน 



ปชป.เยี่ยมแกนนำม็อบนกหวีด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายยุคล นายสมศักย์ และนายประเสริฐ รัฐมนตรี
ซึ่งเข้ารายงานตัวที่สโมสรทหารบก ถ.วิภาวดีฯ ก่อนถูกกักตัวไว้ที่ ร.1 รอ. 
ตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 22 พ.ค. ได้รับการปล่อยตัวแล้วในเวลา 18.00 น.

ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายวิรัตน์ กัลยาศิริ หัวหน้าทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ เผยว่า 
บ่ายวันนี้ ตนเข้าไปเยี่ยมนายถาวร เสนเนียม แกนนำกปปส. ที่หอประชุมกองทัพบก เทเวศร์ 
ที่เข้ารายงานตัวตามคำสั่งของคสช. พบว่ามีแกนนำกปปส.หลายคนทยอยเข้ารายงานตัว 
ทั้งนายชุมพล จุลใส นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ นางทยา ทีปสุวรรณ นายสุริยะใส กตะศิลา 
นายนิติธร ล้ำเหลือ ทุกคนล้วนมีกำลังใจดีและพร้อมให้ความร่วมมือกับทหารเพื่อให้
บ้านเมืองเข้าสู่ความสงบโดยเร็ว ซึ่ง ผู้ที่เข้ามารายงานตัวน่าจะถูกกักตัวไว้ระยะหนึ่ง 

รายงาน ข่าวแจ้งว่าระหว่างเรียกตัวผู้มีชื่อรวม 155 คนไปพบนั้น ทหารได้ให้นั่งรอและ
จัดอาหารกล่องให้รับประทาน ซึ่งบรรยากาศค่อนข้างตึงเครียดเนื่องจากอากาศร้อนอบอ้าว 
จากนั้นก็ถูกเรียกตัวไปโดยแบ่งเป็นกลุ่มๆ เช่น กลุ่มที่เคยอยู่กับพ.ต.ท.ทักษิณ จะถูกแยกตัว
ออกไปต่างหาก รัฐมนตรีบางคนมีปัญหาสุขภาพ เช่น ร.ต.อ.เฉลิม ค่อนข้างจะลำบาก 
อย่างไรก็ตาม นายยรรยงและนางเบญจา หลุยเจริญ รมช.คลังนั้นถูกปล่อยตัวออกมาแล้ว



"จาตุรนต์"ยันไม่ไปรายงานตัว

วันเดียวกัน นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรมว.ศึกษาธิการ เขียนข้อความทางเฟซบุ๊กว่า 
ไม่เห็นด้วยกับการยึดอำนาจ และเห็นว่าการยึดอำนาจไม่ใช่ทางออกของประเทศ และ
จะเรียกร้องผลักดันให้บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตย โดยเร็ว ทั้งนี้การดำเนินการใดๆ 
ของตนยึดมั่นในหลักการประชาธิปไตยผลประโยชน์ของประเทศชาติและโดยสันติวิธี 
ส่วนกรณีให้นักการเมืองและบุคคลจำนวนมากไปรายงานตัวต่อคสช. เมื่อตนไม่เห็นด้วย
กับการยึดอำนาจ จึงไม่อาจไปรายงานตัวต่อคสช.ได้ แต่ไม่ใช่ต้องการจะกระทำการ
อะไรที่ขัดต่อกฎหมายบ้านเมืองตามปกติ และไม่ต้องการก่อความไม่สงบ เพื่อนรัฐมนตรี
บางคนที่เข้าไปรายงานตัว บางคนรับแจ้งว่ารมต.ที่ถูกกักตัวไว้จะได้รับการปล่อยตัว 
เมื่อรมต.ทุกคนมารายงานตัวครบ หากเป็นเช่นนั้นจริง ตนไม่ขัดข้องที่จะไปพบกับคสช. 
แต่ขอที่จะไม่ไป "รายงานตัว" 

นายจาตุรนต์กล่าวว่า หากคสช.จะกรุณา ก็ให้ช่วยมารับตัวหรือจะเรียกว่าคุมตัวไปพบกับคสช.
ในเวลาที่เหมาะสม ตนจะประสานติดต่อเพื่อการนี้ต่อไป และยืนยันต่อทุกฝ่ายทุกคน
ด้วยความเคารพว่า ท่ามกลางความขัดแย้งทางการเมืองในหลายปีมานี้ รวมทั้ง
ในอดีตจนถึงปัจจุบัน ตนไม่มีความผิดหรือข้อกล่าวหาว่ากระทำผิดกฎหมายใดๆ 
ติดตัวแม้แต่เรื่องเดียว และก็ไม่ต้องการที่จะทำผิดกฎหมายใดๆ จึงมิได้คิดจะหลบหนี
เจ้าหน้าที่ผู้รักษากฎหมายแต่อย่างใด 



"พงศ์เทพ-กฤษณา"รายงานตัว

เมื่อ เวลา 18.28 น. นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา อดีตรองนายกฯ เข้ารายงานตัว
ตามคำสั่งคสช. ที่หอประชุมกองทัพบกเทเวศร์ หลังจากช่วงเช้าที่ผ่านมานายพงศ์เทพ
ไม่ได้รายงานตัวตามเวลาที่ คสช.กำหนดไว้คือ 10.00 น. เช่นเดียวกับนางกฤษณา สีหลักษณ์ 
อดีตรมต.ประจำสำนักนายกฯ ก็เข้ารายงานตัวต่อ คสช.ในเวลา 17.30 น. โดยเจ้าหน้าที่ทหาร
นำตัวเข้าไปภายในหอประชุมสโมสรทหารบก

รายงานข่าว จากพรรคเพื่อไทย แจ้งว่า แกนนำพรรคเพื่อไทยยังไม่ได้หารือกัน
ถึงสถานการณ์ขณะนี้ เพราะต่างฝ่ายต่างถูกเรียกให้ไปรายงานตัว แต่ทุกคนรู้ดีว่า
กำลังอยู่ในสถานการณ์ที่จำยอม ซึ่งได้แต่ทำใจรับสภาพไม่สามารถทำอะไรต่อไปได้ 
เพราะทหารในเวลานี้ก็เปรียบเสมือนเป็นองค์รัฏฐาธิปัตย์ไปแล้ว หวังว่าจะเป็นจุดเริ่มต้น
ที่ดีที่จะนำไปสู่การเลือกตั้งในอนาคตอันใกล้นี้ได้ 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น