วันอาทิตย์ที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2557

ดร.ลิขิต ธีรเวคิน :คลิปตอบจอมขวัญที่กล่าวขวัญกันนักหนา

 

วันอาทิตย์, เมษายน 13, 2557

ดร.ลิขิต ธีรเวคิน :คลิปตอบจอมขวัญที่กล่าวขวัญกันนักหนา


จากรายการ คมชัดลึก โดยจอมขวัญ หลาวเพ็ชร์ สัมภาษณ์ ศาสตราจารย์ ดร.ลิขิต ธีรเวคิน นักรัฐศาสตร์ และราชบัณฑิต

นาฑีที่ ๔.๑๔ (ดร.ลิขิต) แล้วคนที่พูดว่ารัฏฐาธิปัตย์มาจากมาตรา ๓ ต่างๆ เนี่ยพูดโดยไม่มีความรู้จริงๆ นะ เมื่อกี้ผมเห็นข่าวแวบๆ อดีตอาจารย์คณบดีที่ไหนไม่ทราบ (นายจรัส สุวรรณมาลา) ไม่มีความรู้เลยนะที่พูดนี่ แล้วคนที่ไปอ้างตามนี่กลายเป็นเข้าป่าเข้ารกเข้าพงหมด..สิ่งที่น่าเป็นห่วงน่ะถ้าไม่รู้มันจะพากันเขวทั้งประเทศ

นาฑีที่ ๑๒.๑๒ (ดร.ลิขิต) มาตรา ๓ แล้วมาตรา ๒ อยู่ไหน

(จอมขวัญ) แต่ว่าที่คุณสุเทพพูดนี่นะคะพอไล่เลียงมา คุณสุเทพไม่ได้ละเว้นว่าอำนาจนั้นมีองค์ประกอบของพระประมุขก็คือพระมหากษัตริย์นะคะ คุณสุเทพก็บอกว่าตัวเองน่ะจะเป็นคนแต่งตั้งนายกฯ และ ครม. ให้พระองค์ทรงโปรดเกล้าฯ อยู่แล้วค่ะ

(ดร.ลิขิต) ตัวเองมีอำนาจจากไหนล่ะ มันไม่ขัดมาตรา ๒ ใช่มะ และขัดมาตรา ๖๘ ด้วย คือการล้มล้างระบอบประชาธิปไตยนะ ขัดมาตรา ๗๐ มีหน้าที่ในการปกปักประชาธิปไตย ขัดมาตรา ๗๑ คนมีหน้าที่ในการปฏิบัติตามกฎหมาย และการที่ไปกันไม่ให้คนไปเลือกตั้ง ขัดมาตรา ๓ ซึ่งเป็นสิทธิของประชาชน ขัดมาตรา ๔๒ ซึ่งต้องทำหน้าที่ในการลงคะแนนเลือกตั้ง แล้วเมื่อเลือกไป ๒๐ ล้านเสร็จแล้วมาบอกว่าการเลือกตั้งไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญนี่เป็นการละเมิดคน ๒๐ ล้านคนนะ ใครเป็นคนพูดแล้วแต่ ทั้งหมดนี้ผิดหมดนะ...รัฏฐาธิปัตย์อ้างอย่างนี้ไม่ได้

นาฑีที่ ๒๑.๓๕ (จอมขวัญ) มันอาจเป็นการเขียนนิยามใหม่ของรัฏฐาธิปัตย์ หรือประวัติศาสตร์ของการเมืองไทยไม่ได้หรือคะ

นาฑีที่ ๒๑.๔๑ (ดร.ลิขิต) โอ ได้ทั้งสิ้นในประเทศไทย เห็นแมวบอกเป็นหมา เห็นหมาบอกเป็นไศลได้ทั้งนั้น ออกกฎหมายย้อนหลังก็ได้ ทำได้ทั้งหมดเลย ตีความกฎหมายนี่ทำได้สองมาตรฐาน ไม่มีมาตรฐานก็ได้ อาจจะออกกฎหมายมาให้คนไทยเอาเท้าขึ้นข้างบนแล้วเอาหัวเดินต่างเท้าก็ได้ สังคมไทยตอนนี้ได้หมดทุกอย่างจนกระทั่งมันไม่มีที่ยึดแล้วนะ

นาฑีที่ ๒๒.๐๔ (ดร.ลิขิต) ผมจะบอกให้ สิ่งที่เกิดขึ้นขณะนี้อันตรายอย่างมหาศาล ๓ เรื่องด้วยกัน

อันที่หนึ่ง ทางตันทางการเมือง ไม่มีทางออกเนื่องจากความขัดแย้งโดยไม่มีเหตุมีผล เขาเรียก Political coup d’etat ภาษาฝรั่งเศส ช่องทางตันที่หนูเข้าไปแล้วเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาถอยหลังก็ไม่ได้

อันที่สอง Political immobilization ความแน่นิ่งทางการเมือง คนไทยทั้งหมดบริหารไม่ได้ รัฐบาลก็บริหารไม่ได้ ข้าราชการทำงานไม่ได้ แล้วถูกคำสั่ง คำสั่งที่ไม่มีความชอบธรรม คำสั่งมาจากการใช้กำลัง ใช้force ซึ่งผิดกฎหมาย ผิดมาตรา ผิดระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน

อันที่สาม Anarchy อนาธิปไตย ขณะนี่คนไทย วิญญานสังคมไทยเคว้งคว้าง คนส่วนใหญ่เขาไม่รู้จะเอาอะไรเป็นเครื่องยึด ทั้งทางตันทางการเมือง หาทางออกไม่ได้ ระบบการปกครองบริหารทั้งหมดแน่นิ่ง อนาธิปไตย กฎเกณฑ์ กฎหมายไม่มีเลย

ใครก็ตามที่คิดจะเอาชนะคะคานกันนะ เพื่อปกปักรักษาผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ สังคม และอำนาจ ผลสุดท้ายนี่ต้องรู้ไว้ด้วยนะ ทำลายกลไก โครงสร้างพื้นฐานทั้งหมดทางการเมืองสังคมของเรา ที่สำคัญที่สุดคือศรัทธาของการที่เป็นประเทศที่มีประวัติอันมายาวพอสมควรนี่นะ พังทลายราบนะ...

ไม่รู้ว่าอะไรถูกอะไรผิด มันมั่วนะ ออกกฎหมายย้อนหลัง ตัดสินไม่เหมือนกัน และก็การแยกอำนาจนิติ บริหารก็พัง ยุ่งหมด ไม่มีระบบที่ไหนเป็นอย่างนี้ นี่เป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง ต้องพูดตรงๆ นะ ผมคิดว่าจริงๆ คนอมพะนำมาเยอะ

แล้วคนที่เกี่ยวข้องเรื่องนี้น่ะ ท่านต้องรับผิดชอบนะ โอเค อาจไม่มีความรู้สึก แต่ต้องรับผิดชอบแน่นอน เพราะประวัติศาสตร์อาจจะตราไว้ในแผ่นดินว่าทำอะไรบ้างกับบ้านเมืองนี้

นาฑีที่ ๒๕.๕๔ (ดร.ลิขิต) ที่ว่าทางตันอันนี้มันไม่ได้เกิดขึ้นจากมาตรา ๗ แล้วไม่มีรัฐธรรมนูญบัญญัติ มันเป็นการสร้าง วางแผนให้มันเกิดมาตรา ๗ คือให้มันเกิดเป็นทางตัน โดย ๓ ทางด้วยกัน

อันที่หนึ่ง ซึ่งผมไม่อยากใช้เหมือนคนอื่นนะ ที่ภาษาอังกฤษเรียกว่าConspiracy theory คอนสปิเรซี่แปลว่าการวางแผนสมรู้ร่วมคิดที่จะทำสิ่งนี้เกิดขึ้น โดยมีนักกฎหมายเชี่ยวชาญพยายามเอากฎหมายมาแล้วบอกว่าจะวางแผนอย่างไรให้มันเกิดเรื่องนี้ให้ได้

เมื่อวางแผนตามนี้จึงมีการทำงานเป็นกระบวนการ Orchestration เหมือนออเค็สตร้า ลูกระนาด คนนี้อันนี้ คนรับอันนี้ รับลูกนี้นี้ และผลสุดท้ายก็ลงไปสู่สิ่งที่ต้องการ คือเกิดทางตัน จึงเป็นทางตันที่เกิดขึ้นโดยเจตนา บนพื้นฐานของ malafide ซึ่งแปลว่าไม่ใช่ bonafideภาษาละตินแปลว่าไม่สุจริต

และทั้งหมดนี่ศัพท์ภาษาอังกฤษให้รู้ไว้ด้วยนะ...เป็น Political machination ๆ แปลว่าการวางแผนทางการเมืองที่มีลักษณะไม่ถูกต้อง เลวร้าย เพื่อจะนำไปสู่วัตถุประสงค์ที่ต้องการ เพื่อการใส่คงใส่ความที่เรียกว่าโปลิติคอลแมชีนเนชั่น การยุแหย่สองพวกให้ตีกันแล้วขึ้นเขาขึ้นภูดูเสือกัดกัน...

เพราะฉะนั้นจากเรื่องนี้มันนำไปสู่อะไร Conspiracy theory, Orchestration ซึ่งทั้งหมดเป็น Political machination มันจึงเกิดสิ่งนี้แล้วบอกเห็นไหมมันเกิดแล้วช่องว่าง ช่องว่างอันนี้ไม่ได้เกิดโดยบริสุทธิ์ใจ การเมืองใดที่ไม่อยู่บนฐานของความถูกต้อง ความสุจริตใจ เป็นการเมืองที่ใช้ไม่ได้ ไม่มีความชอบธรรม

นาฑีที่ ๓๒.๑๕ (จอมขวัญ) แต่ว่าเข้าสู่ลักษณะสองอย่างนั้น ไม่ว่าจะเป็นประชามติหรือว่าเลือกตั้งก็แล้วแต่ ก็อาจจะถูกมองได้ในสายตาของผู้พูดถึงรัฏฐาธิปัตย์ อย่าง กปปส. หรือว่าคุณสุเทพนี่นะคะว่า กระบวนการ กลไกต่างๆ กฎเกณฑ์ที่ใช้ หรือแม้แต่ของจริงที่ผ่านมา ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าลักษณะแบบนี้มันยังใช้ไม่ได้

นาฑีที่ ๓๒.๓๒ (ดร.ลิขิต) ใครเป็นคนตั้งกฎเกณฑ์ขึ้นมา ใครเป็นคนร่างรัฐธรรมนูญปี ๕๐ ใครเป็นคนออกกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ใครเป็นคนแก้กฎหมายเลือกตั้งจากเขตละ ๓ คนเป็น ๑ คน ใครเป็นคนทำ ท่านเป็นคนจัดการทั้งหมดตั้งแต่ล้มรัฐธรรมนูญปี ๔๐ ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ขึ้นมา ลงประชามติเอาเสียงประชาชนมาข่มการใช้อำนาจที่ผิดๆ ในการปฏิวัติรัฐประหาร แล้วจู่ๆ ขึ้นมาบอกใช้ไม่ได้ คุณเป็นคนสร้างบ้านเอง อยู่เอง บ้านพังลงมาแล้วมาโทษคนอื่น มองให้มันยุติธรรมสิ ลืมกันหมดแล้วหรือ

นาฑีที่ ๓๒.๓๕ ตอบมาสิ รัฐธรรมนูญนี่ใครร่าง กฏหมายเลือกตั้งใครร่าง กกต. ปปช. ใครตั้ง ไม่มีการโปรดเกล้าฯ ด้วย จำได้ไหมตอนนั้น ตุลาการรัฐธรรมนูญที่ออกกฎหมายย้อนหลัง ยุบพรรคการเมืองต่างๆ เอามาจากไหน อำนาจเผด็จการทั้งสิ้น

นาฑีที่ ๔๑.๓๘ (จอมขวัญ) สิ่งที่จะทำให้ประชาชนเขามีความรู้สึกว่าเขามีความปลดปล่อย นอกเหนือจากประชามติ นอกเหนือจากการเลือกตั้ง อาจารย์มีรูปโฉมอื่นหรือเปล่า

(ดร.ลิขิต) เดี๋ยวก่อน คราวที่แล้วถ้าเลือกตั้งนะ เรื่องจะผ่านไปเยอะ

(จอมขวัญ) แต่ไม่ศรัทธาการเลือกตั้งค่ะ

(ดร.ลิขิต) ก็ไม่ศรัทธาแล้วใครเป็นคนออกกฎหมายเลือกตั้ง ใครเป็นคนร่างรัฐธรรมนูญออกมา คุณทำเองแล้วพูดเองไม่ศรัทธาเอง คุณสร้างบ้านแล้วบอกผมไม่อยู่ บ้านหลังนี้เฮงซวยมาก เอ้า คุณทำเองทั้งสิ้น โทษคนอื่นหมดเลยเหรอนี่

นาฑีที่ ๔๔.๓๒ (ดร.ลิขิต) ยังงั้นเท่ากับมวลมหาประชาชนถูกซื้อเสียงได้นะ ตรรกะมันผิด นี่เห็นไหม.. ผมบอกวิธีคิดนี่มีปัญหาเพราะมันเถียงด้วยไม่มีเหตุผล เถียงไปเถียงมาเข้าตัวเองหมด และไม่สามารถจะตอบได้ด้วยเหตุด้วยผล มันเริ่มจากเหตุผลที่ไม่มีพื้นฐาน มัน shaky มันสั่นคลอน

ใช่หรือเปล่ามวลมหาประชาชนต้องมากกว่าใช่ไหมถึงจะอ้างความชอบธรรม คนเยอะเหลือเกิน มาโอ้โหเยอะแยะหมด ถ้างั้นกลัวทำไม

สู้แบบไหนเราไม่แพ้ บ้านโป่ง ราชบุรี 12 4 57

ดร.สุนัย จุลพงศธร สู้แบบไหนเราไม่แพ้ บ้านโป่ง ราชบุรี 12 4 57

 

https://www.youtube.com/watch?v=0XY-eu6SIkQ


สุรชัย แซ่ด่าน สู้แบบไหนเราไม่แพ้ บ้านโป่ง ราชบุรี 12 4 57

https://www.youtube.com/watch?v=vfTfQRvyFf4

Published on Apr 12, 2014

วันเสาร์, เมษายน 12, 2557

เมื่อยเปล่าๆ ไปพบปลัดกระทรวง เพื่อยุให้เขาตีกัน


มาถึงวันนี้ คุณสุเทพ ไปขอพบปลัดกระทรวงมาแล้ว 4 ที่คือ เริ่มที่ยุติธรรม ตามด้วยกลาโหม จากนั้นมาเกษตร และสุดท้ายที่สาธารณสุข ซึ่งดูเหมือนจะมีการนัดแนะจัดวางกันเต็มที่

ปลัดกระทรวง ถือเป็นข้าราชการประจำสูงสุดของแต่ละกระทรวง ตำแหน่งถัดลงมาคือ รองปลัดฯ และอธิบดีกรมต่างๆ ซึ่งเป็น C-10 เท่ากัน หน้าที่ของปลัดกระทรวงคือการถ่ายทอด นำนโยบายของรัฐบาล ของนายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากเจ้ากระทรวงของตัวเองมาปฏิบัติ (ไม่ใช่รับนโยบายจากคุณสุเทพ หรือจากพรรคฝ่ายค้าน) สำหรับผู้ปฏิบัติงานจริงๆ คือ อธิบดีซึ่งเป็นผู้คุมคน คุมเงิน และเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมาย ผมจึงสงสัยว่า คุณสุเทพไปพบปลัดกระทรวงแล้วจะได้อะไร เพราะคนที่จะสามารถถ่ายทอดความคิดคุณสุเทพคืออธิบดี (ผมเป็นอธิบดีนานมากถึง 14 ปี) ดังนั้น ที่คุณสุเทพทำอยู่ น่าจะเป็นการไปสร้างภาพเสียมากกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อกลยุทธ์ปิดกรุงเทพฯ ล้มเหลว จึงหันไปปิดกระทรวงแทน ซึ่งก็จะล้มเหลวอีกเช่นเคย เพราะประชาชนจะต่อต้าน เนื่องจากเขาจะไม่ได้รับการบริการจากทางราชการ

กลยุทธ์เข้าพบปลัดกระทรวงของคุณสุเทพ สำหรับพวกผม (อดีตปลัดกระทรวง) เป็นเรื่องที่สามารถเข้าใจได้ง่ายมาก ในรัฐบาลชุดนี้ มีรัฐมนตรีที่เคยเป็นปลัดกระทรวงมากที่สุดถึง 8 คน ผมกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พล.อ.ยุทธศักดิ์ กลาโหม คุณจารุพงศ์ แรงงานและยุติธรรม คุณยรรยง พาณิชย์ คุณยุคคล เกษตร คุณเสริมศักดิ์ มหาดไทย พล.ต.อ.ประชา ตำรวจ และ ท่านชัยเกษม อัยการสูงสุด แต่แปลกนะครับ สำหรับพวกที่เอนเอียงมากๆ จะบอกว่ารัฐบาลนี้ทำงานไม่เป็น (ปชป.มีแต่ทนายเป็นรัฐมนตรี ขอทราบว่าดีและเก่งกว่าปลัดกระทรวงอย่างไร) แต่ที่เเน่ๆ คือ พวกผมตามทัน อย่ามาหลอกกันเลย ไม่สำเร็จหรอก ที่ให้พบเพราะไม่อยากมีเรื่อง

คุณสุเทพ ไปพบปลัดกระทรวง ก็เพื่อหวังจะไปสะกิดต่อมความอยากความโลภของปลัดกระทรวงบางคน (ผมเชื่อว่าไม่มีหรือไม่สำเร็จง่ายๆ) คุณสุเทพ รู้ดีว่านายก ม.7 เป็นไปไม่ได้ ความชัดเจนดูให้จากพระราชกระแสรับสั่ง ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ 25 เม.ย.49 ซึ่งทรงวินิจฉัยแล้วว่าผิดกฎหมาย และทรงใช้คำว่า "มั่ว" ในขณะที่ท่านประธานองคมนตรี ก็กล่าวว่าเป็นไปไม่ได้ ดังนั้น สิ่งที่พอจะเป็นไปได้ตามกฏหมาย หากเกิดสุญญากาศจริงๆ กรณีไม่มีนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี มาบริหารราชการแผ่นดินก็คือ ปลัดกระทรวงหัวหน้าข้าราชการประจำก็จะต้องปฏิบัติหน้าที่ไปพลางก่อน (ในระยะแรกของการปฏิวัติ/รัฐประหาร มีบ่อยครั้งที่คณะปฏิวัติ/รัฐประหาร ประกาศให้ปลัดกระทรวงทำหน้าที่รัฐมนตรีอีกตำแหน่งหนึ่ง) คุณสุเทพ จึงเอาความนี้ไปแจ้งปลัดกระทรวงเพื่อเอาหน้า พร้อมทำทีเบ่งว่า ผมคือองค์รัฏฐาธิปัตย์ เป็นผู้แต่งตั้งน่ะ (น่ากลัวมากๆเลย) หากใครมีกิเลสก็จะเข้าทางคุณสุเทพเลย

ผมได้สอบถามปลัดกระทรวงบางคนที่คุณสุเทพไปพบแล้ว เขาบอกว่าคุณสุเทพพูดจาวกวน และพยายามชักจูงการพูดคุย ให้เข้าใจว่าปลัดกระทรวงต้องเตรียมตัวรับใช้ประเทศในหน้าที่รัฐมนตรี ในโอกาสที่จะมาถึง ถามว่าโอกาสอะไร คำตอบคือ โอกาสที่คุณสุเทพเป็นองค์รัฏฐาธิปัตย์ไงล่ะ ซึ่งเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ไม่มีกฎหมายใดๆ รองรับและก็ไม่มีใครยอม ปลัดกระทรวงซึ่งเป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็ยอมไม่ได้ อย่าลืมนะครับ ในอดีตปลัดกระทรวงนะเขาเรียกว่า “ปลัดทูลฉลอง” ดังนั้น จึงต้องจงรักภักดี ถวายงานสนองพระเดชพระคุณ ซึ่งไม่มีอะไรเกี่ยวกับคุณสุเทพ หรือรัฏฐาธิปัตย์เลย และงานที่สำคัญที่สุด ตามพระราชประสงค์ก็คือเพื่อประชาชน ไม่ใช่เพื่อคุณสุเทพ หรือพรรคการเมืองใดๆ

ปลัดกระทรวงทุกคนครับ หนทางแก้ไขปัญหามันมี ปฏิบัติตามกฎหมายและธรรมเนียมปฏิบัติซิครับ สภายุบแล้ว อำนาจคืนสู่ทุกคนแล้ว ทุกคนก็ไปเลือกตั้ง ชอบนโยบายหรือชอบใคร ก็เลือกตามใจชอบ มีรัฐบาลวันนี้ หากวันหน้าไม่ชอบก็อย่าเลือก เปลี่ยนพรรคเปลี่ยนคนเสีย นี่แหละความสวยงามของประชาธิปไตย อำนาจเป็นของปวงชนชาวไทย อย่าให้ใครมาชี้มานำ (ในทางที่ผิด)


อีกเรื่องหนึ่งที่อยากขอเตือนไว้ ปัญหาขณะนี้เป็นเรื่องการเมือง เป็นการต่อสู้ของพรรคการเมือง เป็นการเผชิญหน้า ระหว่างมวลชน เรื่องการเมือง ปลัดกระทรวงไม่มีหน้าที่ ท่านต้องระมัดระวังให้มาก เมื่อท่านเข้ามาพัวพัน ระวังมันจะมารัดตัวท่านจนดิ้นไม่หลุด ท่านต้องดูกฎหมาย ทบทวนระเบียบแบบแผน และศึกษามารยาทให้ถ่องแท้ หากท่านสุ่มสี่สุ่มห้าอาจเดือดร้อนได้ เเม้เเต่นกหวีดทองคำมันก็เป็นคุรุภัณฑ์ ศึกษาระเบียบพัสุดเสียหน่อยก็จะดี ไม่ทราบว่าคุณสุเทพแกล้งสร้างสถานการณ์ให้ปลัดกระทรวงผิดใจกับรัฐมนตรีเจ้ากระทรวงหรือเปล่า คุณสุเทพนี่ต้องถือเป็นจอมยุทธ์จริงๆ (แต่หลายคนเขาไม่เห็นด้วย เขาว่า เป็นจอมมาร)

เมื่อกำนันคนดีเป็นรัฏฐาธิปัตย์แล้วเราจะได้อะไรบ้าง?

เมื่อกำนันคนดีเป็นรัฏฐาธิปัตย์

http://www.youtube.com/watch?v=X6RhL5eQlHg&feature=youtu.be

Published on Apr 12, 2014
เมื่อกำนันคนดีเป็นรัฏฐาธิปัตย์ แล้วเราจะได้อะไรบ้าง?

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น