วันเสาร์ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2557

คนรวยเสียภาษีน้อยกว่าคนจน / สปป.แถลงประณามความรุนแรงไม่ว่าจะเป็นการกระทำโดยฝ่ายใดก็ตาม

 

วันเสาร์, มกราคม 18, 2557

คนรวยเสียภาษีน้อยกว่าคนจน

AREA แถลง ฉบับที่ 9/2557: วันศุกร์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2557
ผู้แถลงดร.โสภณ พรโชคชัย 
เมื่อเร็วๆ นี้มีการถกเถียงกันในประเด็น "Respect My Tax Money"โดยบอกว่าบริษัทห้างร้านและประชาชนในกรุงเทพมหานครเสียภาษีมากกว่าประชาชนต่างจังหวัด โดยนัยนี้ตีความว่าน่าจะมีสิทธิเสียมากกว่าคนต่างจังหวัด ซึ่งผิดหลักการประชาธิปไตย สิทธิ เสียง หรือ One Man, One Vote. ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส จึงขอนำเสนอข้อมูลเพื่อความเข้าใจร่วมกันดังนี้:


รายได้ของประเทศไทยแยกตามประเภทของภาษีประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2556

รายได้แยกตามประเภท                            ล้านบาท           %

ภาษีมูลค่าเพิ่ม                                      698,087           27
ภาษีเงินได้นิติบุคคล                               592,499           23
ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา                          299,034           12
ภาษีเงินได้ปิโตรเลียม                              113,291            4
ภาษีอื่นๆของสรรพากร                               61,796            2
ภาษีสรรพสามิต (น้ำมัน รถ เบียร์ ยาสูบ ฯลฯ)  432,868           17
ภาษีกรมศุลกากร                                    113,382            4
รายได้รัฐวิสาหกิจ                                   101,448            4
รายได้หน่วยงานอื่น                                 159,016            6

รวมรายได้ประจำปีงบประมาณ 2556            2,571,421        100

         ที่คิดว่าภาษีส่วนใหญ่มาจากบริษัทห้างร้านหรือประชาชนผู้เสียภาษีทางตรงนั้นเป็นความเข้าใจผิด จากยอดรายได้ของประเทศไทยทั้งหมดประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2556 จำนวน 2,571,421 ล้านบาท ภาษีนิติบุคคลเก็บได้เพียง 23% ของภาษีทั้งหมด ส่วนภาษีบุคคลธรรมดามีเพียง 12% เท่านั้น รายได้อันดับหนึ่งของประเทศมาจากภาษีมูลค่าเพิ่มซึ่งมีสัดส่วนสูงถึง 27%
         ส่วนที่ว่ากรุงเทพมหานครเสียภาษีมากกว่าเพราะมักเป็นแหล่งผลิตสุดท้ายหรือแหล่งส่งออก จึงทำให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติสูงเกินครึ่งหนึ่งด้วยซ้ำไปของรายได้ประชาชาติโดยรวม แต่ไม่ได้หมายความว่าบริษัทห้างร้านหรือคนในกรุงเทพมหานคร เป็นผู้เสียภาษีมากกว่าประชาชนในชนบทแต่อย่างใด
         อาจกล่าวได้ว่าประชาชนทั่วประเทศส่วนใหญ่เสียภาษีทางอ้อมต่างๆ เช่น ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีปิโตรเลียม ภาษีสรรพสามิต ฯลฯ  ดังนั้นประชาชนส่วนใหญ่ทั่วประเทศซึ่งไม่ใช่คนร่ำรวยแต่เป็นคนธรรมดาจำนวนหลายสิบล้านคนจึงเสียภาษีมากกว่าบุคคลธรรมดาที่ร่ำรวย
         อันที่จริงนิติบุคคลต่างๆ (ยกเว้นบริษัทมหาชนซึ่งมีไม่กี่ร้อยแห่ง) มักเลี่ยงภาษีในรูปแบบต่างๆ หรือเสียภาษีให้น้อยที่สุด แม้แต่มอเตอร์ไซค์รับจ้าง แท็กซี่ ยังอาจเสียภาษีมากกว่าคนรวย เพราะพวกเขาต้องเสียภาษีล้อเลื่อน (จักรยานยนต์ รถยนต์รายปี) ส่วนคนร่ำรวยมีที่ดินอยู่จำนวนมหาศาลมูลค่านับร้อย นับพัน นับหมื่นล้านบาท ก็แทบไม่เคยเสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างอะไรเลย
         เมื่อพิเคราะห์ถึงภาษีเหล่านี้ จึงเกิดคำถามว่าใครกันแน่ที่เสียสละเพื่อชาติ คนร่ำรวยล้นฟ้า หรือประชาชนทั่วไป และถ้าถึงกาลสิ้นชาติเช่นประเทศในอินโดจีน ประวัติศาสตร์ของประเทศเหล่านั้นก็ชี้ชัดว่าพวกคนร่ำรวยต่างหากที่หนีไปจากมาตุภูมิของตนเอง ปล่อยให้ประชาชนทั่วไปโดยเฉพาะชาวชนบท ฝุ่นเมืองทั่วไป กู้ชาติให้พวกเขากลับมาเสพสุขกันอีกครั้งหนึ่ง

อ้างอิง
ผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลปีงบประมาณ 2556 (ตุลาคม 2555 กันยายน 2556)www.fpo.go.th/FPO/modules/Content/getfile.php?contentfileID=5285

ผู้แถลง:
ดร.โสภณ พรโชคชัย (sopon@area.co.thประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส หรือ AREA (www.area.co.th): ซึ่งเป็นองค์กรที่มีฐานข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ภาคสนามขนาดใหญ่ที่สุดและปรับปรุงให้ทันสมัยที่สุดในประเทศไทย และดำเนินการเก็บข้อมูลต่อเนื่องมาตั้งแต่ พ.ศ.2537 เป็นศูนย์ข้อมูลที่มีความเป็นกลางทางวิชาการ และเป็นอิสระทางวิชาชีพ โดยไม่ถูกครอบงำโดยผู้มีส่วนได้ส่วนเสียใด ๆ สมาชิกของศูนย์ข้อมูลฯ ได้รับข้อมูลที่เป็น First-hand information ในเวลาเดียวกัน

อ.ปวิน ฝากถึง กกต.สมชัย


เรียนนายสมชัย ศรีสุทธิยากร คณะกรรมการการเลือกตั้ง
ข้าพเจ้า นายปวินฯ ได้รับการมอบหมายจากนายกยิ่งลักษณ์
ให้เป็นผู้แทนไปพบมึงที่โรงแรมโฟร์ชีชันส์.
ขอ RSVP สั้นๆ ว่า คุณมึงกล้ามาพบกับกูใหม.. ?

ที่มา FB Hatori Moobin

สถานทูตสหรัฐฯ ยัน ส.ส. ส่งจม.ถึงโอบามามีตัวตนจริง-ย้ำสนับสนุน ปชต.


ที่มา ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

จากกรณีที่เช้านี้ (16 มกราคม) ได้มีจดหมายของนายไมเคิล อาร์. เทอเนอร์ สมาชิกสภาครองเกรส สหรัฐฯ พรรคเดโมแครต ส่งถึงนายบารัก โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยระบุว่า ต้องการให้ประธานาธิบดีโอบามา แสดงออกอย่างเปิดเผย เพื่อคัดค้านสถานการณ์ที่วุ่นวายในไทยขณะนี้ โดยการสนับสนุนกระบวนการประชาธิปไตยผ่านการเลือกตั้งวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 นี้

ผู้สื่อข่าว 
"ประชาชาติธุรกิจ" ได้สอบถามไปยังสถานทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย โดยทางสถานทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย ยืนยันผ่านทางอีเมลว่า นายไมเคิล อาร์. เทอเนอร์ สมาชิกสภาครองเกรส สหรัฐฯ พรรคเดโมแครตมีตัวตนจริง 

อย่างไรก็ตาม นายเบราโนห์เลอร์ กล่าวเพิ่มเติมถึงสถานการณ์การเมืองในไทยขณะนี้ว่า เรา (สหรัฐอเมริกา) สนับสนุนกระบวนการประชาธิปไตย เพื่อแก้ปัญหาความตึงเครียดทางการเมืองในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง และกระตุ้นให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนการเจรจาอย่างสันติ เพื่อแก้ปัญหาความเห็นต่าง พร้อมทั้งทำให้สถาบันและหลักการตามระบอบประชาธิปไตยเป็นไปอย่างเข้มแข็ง 

นิด้า โพล เผยคนกทม.กว่า 80 % เมินร่วมม็อบ กปปส.

ขณะผลสำรวจคนกรุงที่เคยเข้าเข้าร่วมม็๋อบลดน้อยลงเรื่อยๆ
วันศุกร์ 17 มกราคม 2557 เวลา 12:12 น.


เมื่อวันที่ 17 ม.ค. ศูนย์สำรวจความคิดเห็น“ นิด้าโพล ”สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน    เรื่อง“ คนกรุงฯ กับการเข้าร่วมปิดกรุงเทพฯ (Bangkok Shutdown) ”   ระหว่างวันที่ 15 - 16 ม.ค.    จำนวน 1,975 หน่วยตัวอย่าง พบว่า เมื่อถามถึงการมีส่วนร่วมในการชุมนุมกับกลุ่ม กปปส.  คปท.  กปท. ของคนกรุงเทพฯ พบว่า ส่วนใหญ่ ร้อยละ 71.04  ระบุว่า ไม่เคยเข้าร่วมในการชุมนุมกับกลุ่ม กปปส. คปท. กปท.  ขณะที่ ร้อยละ 28.96  ระบุว่า เคยเข้าร่วม

ขณะที่ผลสำรวจของกลุ่มคนที่เคยเข้าร่วมชุมนุมใหญ่ ( D – Day ) กับ กปปส. ( ตอบได้มากกว่า 1 ข้อ ) พบว่า คนกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่ ร้อยละ 31.26    ระบุว่า เคยไปวันที่ 9 ธ.ค. 56 รองลงมา ร้อยละ 29.85 ระบุว่า เคยไปวันที่22 ธ.ค. 56  ร้อยละ 28.81 ระบุว่า เคยไปวันที่24 พ.ย. 56  และร้อยละ 10.08 ระบุว่า ไม่เคยเข้าร่วมชุมนุมใหญ่ (D – Day)แต่เคยเข้าร่วมชุมนุมในวันอื่น ๆ

เมื่อถามถึงการไปเข้าร่วมในการปิดกรุงเทพฯ (Bangkok Shutdown) กับ กลุ่ม กปปส. ในวันที่ 13 – 14 – 15  ม.ค.  2557 พบว่า คนกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่ ร้อยละ 80.10  ระบุว่า ไม่ได้ไปร่วมในการปิดกรุงเทพฯ (Bangkok Shutdown) กับ กลุ่ม กปปส. ขณะที่ ร้อยละ 19.90 ระบุว่า ได้ไปเข้าร่วมด้วย

ท้ายสุด เมื่อถามถึงจุดชุมนุม/เวทีต่าง ๆ ที่ผู้ชุมนุมได้เข้าร่วมในการปิดกรุงเทพฯ (Bangkok Shutdown)  กับ กลุ่ม กปปส. ในวันที่ 13 – 14 – 15 ม.ค. 2557  พบว่า คนกรุงเทพฯร้อยละ 21.47ระบุว่า ไปชุมนุมที่แยกปทุมวัน รองลงมาร้อยละ 20.94 ระบุว่า ไปชุมนุมที่   ราชประสงค์ร้อยละ 14.66 ระบุว่า ไปชุมนุมที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิร้อยละ 13.26 ระบุว่า ไปชุมนุมที่ห้าแยกลาดพร้าวร้อยละ 11.87 ระบุว่า ไปชุมนุมที่อโศกร้อยละ 9.95 ระบุว่า ไปชุมนุมที่ลุมพินีร้อยละ 4.36 ระบุว่า ไปชุมนุมที่แจ้งวัฒนะ2  ติด ถ.วิภาวดี  และร้อยละ 3.49 ระบุว่า ไปชุมนุมที่แจ้งวัฒนะ1 หน้าดีเอสไอ

Voice TV: สื่อเทศชี้ ไม่ว่าแพ้หรือชนะ สุเทพจบเห่



อีโคโนมิสต์ชี้เมืองไทยมีสภาพเหมือนสองประเทศ พรรครอยัลลิสต์เกาะกระแสเรียกร้อง "คนดี" บริหารบ้านเมือง ไม่เอาเลือกตั้งเพราะกลัวแพ้พรรคที่คนส่วนข้างมากเลือก คาดถ้าสุเทพชนะเจอลอบสังหาร

เว็บไซต์นิตยสาร ดิ อีโคโนมิสต์ เผยแพร่บทรายงาน เรื่อง "Like two countries" เมื่อ 15 มกราคม 2557 ระบุว่า แม้รัฐบาลของนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ประกาศให้มีการเลือกตั้งก่อนกำหนด แต่บรรดาผู้ประท้วงซึ่งนำโดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรีของพรรคฝ่ายค้าน ประชาธิปัตย์ ได้ออกสู่ท้องถนนเมื่อวันที่ 13 มกราคม เรียกร้องให้ล้มกระบวนการเลือกตั้งรัฐบาลชุดใหม่
@  เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2557 ประชาชนรวมตัวจุดเทียน ที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่งในกรุงเทพ สนับสนุนให้มีการเลือกตั้ง ที่กำหนดในวันที่ 2 กุมภาพันธ์


รายงาน "ราวกับเป็นสองประเทศ" ชิ้นนี้ คาดการณ์ว่า การเลือกตั้งในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ มีแนวโน้มจะไม่เกิดขึ้น คณะกรรมการการเลือกตั้งไม่ต้องการจัดการเลือกตั้งในวันดังกล่าว พรรคประชาธิปัตย์ซึ่งเป็นพวกรอยัลลิสต์ บอยคอตการเลือกตั้ง ไม่ใช่เพราะการเลือกตั้งจะไม่เป็นไปโดยบริสุทธิ์ยุติธรรม แต่เป็นเพราะพรรคนี้จะพ่ายแพ้

นายสุเทพต้องการให้มีการแต่งตั้ง "สภาประชาชน" ของ "คนดี" ขึ้นทำหน้าที่ปฏิรูปด้วยประเด็นที่คลุมเครือ เป้าหมายหลักของเขาคือ กำจัดรัฐบาลของตระกูลชินวัตร อันที่จริง รัฐบาลได้เสนอที่จะเลื่อนการเลือกตั้งหากนายสุเทพยุติการประท้วง แต่เขาปฏิเสธที่จะเจรจา และชักชวนให้ "จับตัว" นายกรัฐมนตรี โวหารบนเวทีประท้วงมีความน่ารังเกียจยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ผู้ปราศรัยคนหนึ่ง ซึ่งเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย ใช้วาจาคุกคามทางเพศต่อนางสาวยิ่งลักษณ์


ที่ผ่านมา รัฐบาลใช้กลยุทธ์ล่าถอย และรอคอยให้นายสุเทพเลิกร้องโยเยกระทืบเท้าเร่าๆ แต่มองดูแล้ว ยากที่จะเกิดการประนีประนอม เหล่าสาวกของนายสุเทพไม่อาจทนได้ที่จะเห็นชาวชนบทในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งพวกเขามักเรียกว่า "ควาย" โหวตเลือกรัฐบาลชุดใหม่ ในทางกลับกัน บรรดาผู้สนับสนุนยิ่งลักษณ์ก็ไม่อาจทนได้ที่จะเห็นพลพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งพวกเขาเรียกว่า "พรรคแมลงสาบ" กลับมาครองอำนาจโดยไม่ผ่านการเลือกตั้ง

ชนชั้นนำตามจารีตประเพณีและคนนับล้านอาจชิงชังตระกูลชินวัตร แต่บรรดาชินวัตรยังคงถือไพ่เหนือกว่า การทำให้มหานครใหญ่ขนาดกรุงเทพเป็นอัมพาตต้องใช้คนมากมายก็จริง แต่ก็มีคนที่สนับสนุนรัฐบาลในจำนวนอย่างน้อยใกล้เคียงกัน คนเหล่านี้ต้องการให้รัฐบาลเดินหน้าสู่การเลือกตั้ง ผู้นำขบวนการเสื้อแดงประกาศต่อต้านการรัฐประหาร ขณะเดียวกัน พวกเขาไม่อาจยอมรับได้กับรัฐบาลพระราชทาน

รายงานประเมินว่า ไม่ว่านายสุเทพบรรลุเป้าหมายของตนหรือไม่ เขาคงจะพังทั้งขึ้นทั้งล่อง ถ้าเขาชนะ บังคับให้เกิดรัฐบาลคู่ขนานได้ เขาอาจถูกลอบสังหาร ถ้าเขาแพ้ เขาจะเจอข้อหากบฏ สำหรับกลยุทธ์ของประชาธิปัตย์นั้น มองปราดเดียวก็รู้ไต๋ พรรคนี้เกาะกระแสเรียกหาคนดี ด้วยความหวังว่า รัฐบาลชุดใหม่จะมาจากการคัดสรร ไม่ใช่การเลือกตั้งโดยชอบธรรม.

หมายเหตุ : รายงานข่าวชิ้นนี้ ไม่สามารถถอดความบางช่วงบางตอนของต้นฉบับได้ เนื่องจากข้อจำกัดทางกฎหมายภายในประเทศไทย.

ที่มา : The Economist
ภาพ : AFP

17 มกราคม 2557 เวลา 08:07 น.

อดีตรมต.ญี่ปุ่นวอนโลก ป้องปชต.ไทย

ที่มา dandd.com 

อดีตรัฐมนตรีกลาโหมญี่ปุ่นชี้ไทยเป็นดุลถ่วงอิทธิพลจีนในภูมิภาค เรียกร้องชาติตะวันตกและเอเชียช่วยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ปกป้องระบอบประชาธิปไตย มิฉะนั้น พรรคทักษิณอาจหันไปซบปักกิ่ง


ยูริโกะ โคอิเกะ อดีตรัฐมนตรีกลาโหมหญิง และที่ปรึกษารัฐบาลด้านความมั่นคงแห่งชาติของญี่ปุ่น เขียนบทความเผยแพร่ทางเว็บไซต์ Project Syndicate เสนอทัศนะในเชิงภูมิรัฐศาสตร์ เปรียบเทียบกรณีมหาอำนาจสหรัฐในยุคสงครามเย็นสูญเสียจีนให้กับค่ายคอมมิวนิสต์ และสูญเสียระบอบกษัตริย์ชาห์ของอิหร่านให้กับการปฏิวัติอิสลาม กับกรณีประเทศไทย โดยชี้ว่า โลกประชาธิปไตยกำลังจะสูญเสียประเทศไทยให้กับจีน


ในบทความ ชื่อ "Who lost Thailand?" โคอิเกะ บอกว่า ประเทศไทยกำลังเพลี่ยงพล้ำอยู่บนขอบเหวทางการเมือง แต่ประเทศในเอเชียดูจะยังมองเมินสภาพอนาธิปไตยในประเทศที่มีเศรษฐกิจก้าวหน้าแห่งนี้ ความไม่อินังขังขอบดังกล่าวไม่เพียงเป็นเรื่องเขลา แต่ยังอันตรายด้วย

เธอบอกว่า สาเหตุรากเหง้าของความไม่สงบในประเทศไทย เกิดจากชัยชนะในการเลือกตั้งของทักษิณ ชินวัตรย้อนหลังไปเมื่อปี 2544 ชัยชนะของเขาได้ทำให้คนส่วนใหญ่ในชนบทที่ยากจนและถูกปิดปากมานานได้เติบใหญ่ทางการเมือง สร้างความหวาดผวาแก่ชนชั้นนำกรุงเทพที่เคยกุมอำนาจนำ

แต่แทนที่จะเรียนรู้เพื่อช่วงชิงคะแนนเสียงของคนจนในชนบทจากทักษิณ ชนชั้นนำเขตเมือง รวมทั้งกองทัพ กลับพยายามบั่นทอนความชอบธรรมของเขา พอเขาได้รับเลือกตั้งกลับเข้ามาด้วยเสียงข้างมากที่กว้างขวางกว่าเดิม พรรคของเขาก็ถูกศาลสั่งยุบ ตัวเขาถูกกดดันให้หลบออกนอกประเทศหลังจากมีการพิพากษาว่าเขามีความผิดในข้อหาคอร์รัปชั่น

@ ยูริโกะ โคอิเกะ อดีตรัฐมนตรีกลาโหม จากพรรคเสรีประชาธิปไตย

แม้กระนั้น ผู้สนับสนุนไม่ทอดทิ้งเขา เมื่อทหารกลับเข้ากรมกอง นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีด้วยเสียงข้างมากเด็ดขาดในสภา เธอพยายามลดความเป็นปรปักษ์ แต่นั่นทำให้ฝ่ายตรงข้ามลำพองใจ เมื่อเธอเสนอร่างกฎหมายนิรโทษกรรม และแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้วุฒิสมาชิกมาจากการเลือกตั้งทั้งหมด พรรคฝ่ายค้านฉวยจังหวะนี้ก่อการประท้วง เธอยุบสภา แต่พรรคฝ่ายค้านไม่ลงเลือกตั้ง

ดังนั้น โดยแก่นแท้แล้ว สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในประเทศไทย คือ ความพยายามโค่นระบอบประชาธิปไตยของพรรคฝ่ายค้าน กับชนชั้นนำ พรรคฝ่ายค้านซึ่งไม่สามารถช่วงชิงคะแนนนิยมจากทักษิณได้ ต้องการบั่นทอนประชาธิปไตย เพื่อขัดขวางผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้ง ไม่ให้เลือกรัฐบาลที่พวกเขาไม่ถูกใจอีก
โคอิเกะ กล่าวต่อไปว่า ประเทศไทยเป็นเสาหลักของเศรษฐกิจเอเชีย เป็นหุ้นส่วนสำคัญของประเทศเมียนมาร์ซึ่งกำลังปฏิรูปเศรษฐกิจและการเมือง เป็นศูนย์กลางการค้ากับกัมพูชา ลาว และเวียดนาม อีกทั้งไทยยังเป็นสมาชิกในค่ายประชาธิปไตยในท่ามกลางการแข่งอิทธิพลระหว่างโลกประชาธิปไตยกับจีนที่กำลังผงาดขึ้นเป็นมหาอำนาจโลกด้วย

"หากเพิกเฉยเมื่อฝ่ายค้านและชนชั้นนำตามจารีตของไทยพยายามบั่นทอนประชาธิปไตย เพื่อผูกขาดสิทธิที่จะปกครองประเทศโดยถาวร บรรดาประเทศประชาธิปไตยของเอเชียก็มีความเสี่ยงที่บางปีกของกลุ่มทักษิณจะหันไปหาจีน ซึ่งยินดีที่จะเล่นบทผู้อุปถัมภ์" เธอกล่าว และว่า นักการเมืองของพรรคฝ่ายค้านไม่เพียงคุกคามเสถียรภาพของประเทศไทย แต่ยังบั่นทอนความมั่นคงของภูมิภาคด้วย

@ ยูริโกะ กับอดีตนายกรัฐมนตรี จุงอิชิโร โคอิซูมิ เมื่อปี 2551

อดีตรัฐมนตรีกลาโหมญี่ปุ่นผู้นี้ บอกว่า ชาติตะวันตกเคยคัดค้านชนชั้นนำผู้นิยมการปกครองแบบโลกวิสัยของตุรกี ที่จะปล้นชัยชนะในการเลือกตั้งของรีเซ็ป เทย์ยิป แอร์โดกัน ผู้มีแนวทางอิสลามนิยม มาแล้ว ในวันนี้ โลกตะวันตกจำเป็นต้องแสดงออกอย่างชัดเจน ปกป้องระบอบประชาธิปไตยของไทย ปฏิเสธคำกล่าวอ้างของพรรคฝ่ายค้านที่ว่าพวกเขากำลังทำเพื่อประชาธิปไตย

"ทักษิณอาจไม่ใช่นักบุญ และจำเป็นต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้เกิดการปรองดองทางการเมือง แต่รัฐบาลของทักษิณและน้องสาวของเขา ได้ทัดทานอิทธิพลของจีนไว้ นั่นคือผลประโยชน์ทางยุทธศาสตร์ที่เป็นเดิมพัน" เธอกล่าว

ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของรัฐบาลญี่ปุ่น กล่าวในที่สุดว่า หากยิ่งลักษณ์ถูกขับโดยรัฐประหาร หรือถูกกีดกันไม่ให้คืนสู่อำนาจ พี่น้องชินวัตรอาจไม่เหลือทางเลือกอื่น นอกจากขอแรงสนับสนุนจากจีน ถ้าการณ์เป็นเช่นนั้น เราทุกคนรู้ว่าใครสูญเสียประเทศไทย พวกเรานั่นเอง.

ที่มา : Project Syndicate

ภาพ : AFP
@@@@@@@@@@@@@@@@@@
ทำไมต่างประเทศมองไทยได้อย่างชัดเจน และรู้ว่าควรจะช่วยรักษาปชต.ในประเทศไทย ส่วนคนไทยบางส่วนกลับคิดจะทำลายระบอบประชาธิปไตย ผมว่าต่างประเทศคงรู้ลึกกว่าที่พูดแน่นอนครับ

ผลเสียที่เอาธงไตรรงค์และสีธงชาติ มาเล่นการเมืองแบบเลือกข้าง

โดย พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์

ปี 2549 และปี 2551 พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่นำโดย สนธิ ลิ้ม เอาสัญลักษณ์สีเหลืองและเสื้อเหลืองมาเคลื่อนไหวล้มรัฐบาลพรรคไทยรักไทย และรัฐบาลพรรคพลังประชาชน ลงท้ายเป็นการยึดทำเนียบรัฐบาล และยึดสนามบินดอนเมือง สนามบินสุวรรณภูมิ และอีกหลายแห่งในภาคใต้

ทั้งหมดนี้ สร้างความพินาศทางเศรษฐกิจและทำลายชื่อเสียงประเทศไทยไปทั่วโลก จนแทบไม่มีใครกล้าใช้สัญลักษณ์สีเหลืองหรือใส่เสื้อเหลืองอีกเลยถึงทุกวันนี้ แม้รัฐบาลยิ่งลักษณ์จะจัดงานวันเฉลิมฯ ปี 2554 โดยส่งเสริมให้ใส่เสื้อเหลืองอีก ก็ไม่ได้ผล

มาวันนี้ ม็อบเทือกใช้สัญลักษณ์ธงไตรรงค์ เอาสีธงชาติมาเป็นสัญลักษณ์โพกหัว ข้อมือ ริบบิ้น โบว์ ฯลฯ เคลื่อนไหวโค่นล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ก่อจลาจลกลางกรุง ปะทะกันจนมีคนเจ็บตายทั้งประชาชนและจนท. จนถึง "ชัตดาวน์กรุงเทพฯ" สร้างความพินาศทางเศรษฐกิจมโหฬาร หาทางกระตุ้นทุกวิถีทางให้เกิดรัฐประหาร เอารัฐบาลเผด็จการแต่งตั้งเข้ามา

ไม่ว่า ม็อบเทือกจะประสบความสำเร็จในการโค่นยิ่งลักษณ์และก่อรัฐประหารหรือไม่ก็ตาม ผมเดาว่า ความเสื่อมที่เกิดกับสัญลักษณ์สีเหลือง ก็จะเกิดกับสัญลักษณ์ธงชาติและสีธงชาติเหมือนกัน ต่อไป เวลาใครเห็นสีธงชาติ ก็จะนึกถึงวิกฤตที่เกิดขึ้นในวันนี้และความพินาศฉิบหายที่เกิดขึ้น คนที่รักประชาธิปไตยก็จะเกิดอาการ "แหยง" สีธงชาติและจะเลี่ยงการใช้สัญลักษณ์สีธงชาติไปตราบนานเท่านาน


สิ่งนี้ โทษใครไม่ได้ นอกจากม็อบเทือก และ "เส้นใหญ่" ที่อยู่ข้างหลังม็อบเทือก ที่เอาธงไตรรงค์และสีธงชาติ มาเล่นการเมืองแบบเลือกข้าง จนมีคนบาดเจ็บล้มตาย เศรษฐกิจเสียหายยับเยิน ทำลายประชาธิปไตย สร้างเผด็จการ และถูกบอยคอตไปทั่วโลกนั่นแหละ!

สปป.แถลงประณามความรุนแรงไม่ว่าจะเป็นการกระทำโดยฝ่ายใดก็ตาม


สมัชชาปกป้องประชาธิปไตย (สปป.) ขอประณามการปาระเบิดใส่ขบวนผู้ชุมนุม กปปส.เมื่อวันที่ 17 ม.ค. รวมทั้งความรุนแรงที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่มีการปิดกรุงเทพฯของ กปปส. ไม่ว่าจะเป็นการกระทำโดยฝ่ายใดก็ตาม

สปป. ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อผู้ชุมนุม กปปส. ที่ได้รับบาดเจ็บ และขอเรียกร้องให้รัฐบาลรักษาการรับผิดชอบดูแลรักษาเยียวยาผู้ชุมนุมที่ได้รับบาดเจ็บอย่างสุดความสามารถและต่อเนื่องถึงที่สุด

คลิปสุเทพ ร่ำไห้ปาดน้ำตา หลังม็อบโดนระเบิด บรรทัดทอง

นายกยิ่งลักษณ์ร้องไห้>>>คนด่าว่าไม่ภาวะผู้นำ
ลุงกำนันร้องไห้>>>ผู้คนยกย่องสงสาร 
แตกต่างกันตรงไหน

Will Freeman

 
ที่ร้องให้น่าจะเสียใจทำไมไม่มีคนตาย จะได้อ้างเหตุว่ามีจราจล แล้วให้ทหารออกมารัฐประหาร
วันนี้ไม่มีคนตาย แต่ช้าเร็วต้องมีแน่ เพราะเทพเทือกรู้ดีว่า นับวันม็อบมีแต่สาละวันเตี้ยลง
พี่น้องที่ไปร่วมชุมนุมระวังตัวด้วยครับ ในฐานะคนไทยด้วยกัน ผมไม่ต้องการเห็นใครเป็นวีรบุรุษที่คุณตาย ลูกเมียญาติพี่น้องลำบาก นักการเมืองก็คือนักการเมือง แต่ยามเจ็บตายมีแต่ญาติพี่น้องที่ดูใจกัน ชอบการเมือง ต้องรู้ทันการเมืองด้วย อย่าอินขนาดต้องถึงขั้นพลีชีพเพื่อพรรคการเมืองแล้วลูกเมียสามีพ่อแม่พี่น้องต้องลำบาก

somchai baanrai

ตอนเป็นรัฐบาล ยิงเอา ยิงเอา อย่างกะหนังแอ็คชั่น
พอมาเป็นกำนัน ร้องเอา ร้องเอา อย่างกะหนังดราม่า
.....ค่ะ จะรอดูบทบาทต่อไป

ปริญญา สิงห์ครุบ


 
ง่ายๆ นะครับถ้าเป็นคนที่ถูกฝึกมา เขาจะขว้างระเบิดก่อนที่จะประกอบปืนหรอครับ นี่ปืนเขายังไม่ประกอบเลย ถ้าจะฆ่าสุเทพ M16 นัดเดียวพอระยะแค่นั้นไม่ถึง 100 เมตร  ระยะหวังผลของ M16 ไกลมากครับ ขนาด 500 mยังเจาะหมวกเหล็กได้เลย แล้วไม่มีหรอกครับหน่วยลอบโจมตีเขาจะใส่หมวกแดงที่เป็นที่สังเกตุแถมบอกสังกัดอีกนะครับ มันผิดวิสัยมากครับ 

 


 
 


สปป. ขอเรียกร้องให้ผู้ที่ก่อความรุนแรง และมุ่งยั่วยุให้เกิดความเกลียดชัง-หวาดระแวงระหว่างกลุ่มการเมืองและประชาชนฝ่ายต่าง ๆ ได้ยุติการกระทำเหล่านี้เสีย ความตึงเครียดที่เพิ่มทวีขึ้นอาจนำไปสู่ความรุนแรงระหว่างประชาชนฝ่ายต่าง ๆ และระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐกับผู้ชุมนุมที่ยากจะควบคุมได้ ประการสำคัญ จะเป็นการเปิดโอกาสให้ทหารเข้าแทรกแซงทางการเมืองด้วยการรัฐประหาร และล้มล้างการเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้นในวันที่ 2 ก.พ. 2557 นี้ ซึ่งจะกลายเป็นปัจจัยที่ทำให้วิกฤติการณ์ทางการเมืองไทยกลับเลวร้ายลงและรุนแรงยิ่งขึ้น

สปป. ขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายความมั่นคงติดตามสืบสวนดำเนินคดีให้ถึงที่สุด อย่าปล่อยให้เกิดการก่อการร้ายทางการเมืองต่อผู้ชุมนุม กปปส. ดำเนินต่อไป และขอให้แกนนำ กปปส.ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการสืบสวนและรักษาความปลอดภัยอย่างเต็มที่

แค่พกบัตร นปช. ถูกลากไปทำร้ายต่อเนื่องยันเช้า

Published on Jan 16, 2014

เจอดักตรวจยึดatm นึกว่าจะปล่อย พบบัตร นปช เลยถูกลากไปซ้อมต่อเนื่องทั้งคืนยันเช้า แล้วยึดทรัพย์สินทั้งหมด เหลือไว้แต่เพียงบัตร นปช.ห้อยคอไว้ดูต่างหน้า




ทั้งนี้ สปป. ขอเสนอทางออกเฉพาะให้แกนนำ กปปส.ได้พิจารณา 2 ประการ เพื่อป้องกันความรุนแรงที่อาจเกิดกับผู้ชุมนุมได้อีกดังนี้

1) ขอให้แกนนำ กปปส. พิจารณาย้ายสถานที่ชุมนุมจากที่เปิดโล่งแจ้ง เข้าไปสู่พื้นที่ที่มีรั้วรอบขอบชิด ง่ายแก่การดูแลรักษาความปลอดภัยและป้องกันผู้ชุมนุม เช่น พื้นที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยซึ่งอยู่ใกล้เคียงแยกปทุมวัน และพื้นที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ซึ่งอยู่ใกล้เคียงถนนราชดำเนิน เพื่อการนี้แกนนำ กปปส. อาจพิจารณาลดจุดชุมนุมลงให้เหมาะสมกับกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายรักษาความปลอดภัยของสถานที่ราชการในการช่วยกันดูแลความปลอดภัยได้ทั่วถึง

2) ขอให้แกนนำ กปปส. รัฐบาล พรรคประชาธิปัตย์ นปช. และฝ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเปิดการเจรจาขึ้นโดยด่วน เพื่อหาทางออกจากวิกฤติทางการเมืองอย่างสันติร่วมกัน ภายใต้หลักการคัดค้านการรัฐประหาร -คัดค้านความรุนแรงทุกรูปแบบ - เคารพการใช้สิทธิเลือกตั้งของประชาชนตามรัฐธรรมนูญที่จะต้องเกิดขึ้นในวันที่ 2 ก.พ. 2557 และร่วมกันปฏิรูปบนวิถีทางประชาธิปไตย

สปป. ขอให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายโดยโปรดนำใส่ใจว่าเลือดเนื้อชีวิตของผู้ที่บาดเจ็บล้มตายจากความขัดแย้งทางการเมืองต้องไม่สูญเปล่า แต่เป็นพลังผลักดันให้ทุกฝ่ายหาต้องทางออกผ่านการเจรจาอย่างสันติ เพื่อรักษาชีวิตคนไทยและบ้านเมืองของเราให้เป็นชาติประชาธิปไตยที่อยู่รอดได้ร่วมกัน

สปป. เชื่อมั่นว่าความขัดแย้งทางการเมืองจะสามารถคลี่คลายได้ด้วยการใช้เหตุผล ความอดทนอดกลั้น และความเคารพในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของทุกฝ่าย ข้อสำคัญ ความรุนแรงทางการเมืองที่กำลังเกิดขึ้นนี้ ต้องไม่ถูกนำมาใช้เป็นข้ออ้างเพื่อให้อำนาจนอกรัฐธรรมนูญและไม่เป็นประชาธิปไตยเข้าแทรกแซงและยึดรวบอำนาจไปจากประชาชน

ด้วยความปรารถนาที่ไม่ต้องการเห็นสังคมตกลงสู่หล่มหลุมของความรุนแรงอีกต่อไป

สมัชชาปกป้องประชาธิปไตย
17 มกราคม 2557

ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์: ใครจะรับผิดชอบ?

เหตุการณ์ปาระเบิดใส่ม็อบ กปปส. ที่เดินเชิญชวนเรียกแขกตามแผนของคุณสุเทพ มีผู้บาดเจ็บเป็นจำนวนมาก ความรุนแรงที่มีทั้งปาระเบิด ยิงปืนใส่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง และจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งยืดเยื้อต่อไปเท่าไหร่ ยิ่งมีการก่อกวนบ่อยขึ้น หนักบ้างเบาบ้าง แล้วแต่โอกาสอำนวย 

คนจะทำมันทำได้ตลอด จะระวังยังไงก็หนีไม่พ้น จับมือใครดมไม่ได้ ไม่รู้ใครเป็นใคร 

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ม็อบ กปปส. กระจัดกระจายการชุมนุมไปตามจุดต่างๆ ไม่ได้อยู่รวมกันเป็นกลุ่มก้อนเหมือนม็อบในอดีตที่ผ่านมา ที่สำคัญมีการเดินเรียกแขกไปทั่วกรุงเทพฯ 

ยิ่งทำให้เสี่ยง และง่ายต่อการก่อเหตุ ตำรวจก็หาไม่เจอ เพราะเพิ่งถูกการ์ดระทืบไปหยกๆ

การ์ดของ กปปส. ก็ไม่ใช่ผู้ที่มีความรู้ความสามารถในเรื่องความปลอดภัย เป็นเพียงการ์ดอาสา ที่แต่งตั้งกันเอาเอง

ผมอยากตั้งคำถามสั้นๆว่า ใครจะรับผิดชอบต่อความสูญเสีย? ทั้งบาดเจ็บ หรือผู้เสียชีวิต

บรรดาแกนนำ ที่ชักชวนชาวบ้าน คนบริสุทธิ์ออกมาเดิน ยิ่งยืดเยื้อ ย่อมทำให้มีคนไม่พอใจเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

คุณสุเทพหรือแกนนำคนใดจะไปรับผิดชอบชีวิตของผู้บริสุทธิ์ ที่ไปยุให้เขาออกมากันเต็มท้องถนน?

เมื่อเลือกใช้วิธีการที่ผิด เพื่อจะไปทำสิ่งที่ถูก ยิ่งทำให้ระบอบทักษิณแข็งแกร่งและชอบธรรมมากขึ้น เราควรใช้วิธีที่ถูกต้อง ล้มด้วยการไม่เลือก เป็นวิธีที่ดีที่สุด ไม่ต้องสูญเสียบาดเจ็บล้มตายใดๆทั้งสิ้น

เดี๋ยวเราคงได้เห็น "คนดี" ไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาล หรือไม่ก็ไปทำหน้าเศร้าที่งานศพ

ยุให้เขาตีกัน แล้วไปแอบอยู่ข้างหลัง พอคนเขาบาดเจ็บ ทำได้แค่ไปเยี่ยมที่โรงพยาบาล พอคนเขาตาย ก็ไปไว้อาลัยเขาที่งานศพ

คนเจ็บได้กระเช้า คนตายได้พวงหรีด แต่ตัวเองได้หน้า

ประชาธิปไตยจอมปลอมมันบัดซบแบบนี้นี่เอง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น