วันพฤหัสบดีที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2556

องค์กรสื่อ หนุนยึดจรรยาบรรณ นำประเทศฝ่าขัดแย้ง

 

องค์กรสื่อ หนุนยึดจรรยาบรรณ นำประเทศฝ่าขัดแย้ง

"เวทีสื่อมวลชน" ชี้ สื่อต้องกำหนดจุดยืนให้ชัดต่อสถานการณ์การเมือง พร้อมเสนอข้อเท็จจริงรอบด้าน เตรียมพร้อมรองรับสถานการณ์ต่างๆ เสมอ

วันที่ 18 ธ.ค. ในเวทีรับฟังความคิดเห็นสื่อมวลชน “สถานการณ์การเมืองและการปฏิรูปประเทศไทย” ที่จัดขึ้นโดยสมาคม นักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ร่วมกับสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ  สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย และสมาคมเคเบิลทีวีแห่งประเทศไทย มีบรรณาธิการสื่อมวลชนหลายสำนักได้ให้มุมมองขององค์กรวิชาชีพต่อจุดยืนในสถานการณ์ขณะนี้ ได้สรุปเบื้องต้นว่า สื่อต้องกำหนดท่าทีและจุดยืนที่ชัดเจนต่อสถานการณ์ทางการเมือง ซึ่งจะต้องมีการนำเสนอข้อเท็จจริงที่รอบด้าน รวมถึงทำหน้าที่เป็นตัวกลาง เพื่อให้กลุ่มที่ขัดแย้งได้เจรจาหาข้อตกลงกัน ขณะเดียวกันสื่อต้องยึดมั่นในวิชาชีพ เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นให้เจ้าขององค์กรที่อาจไม่เข้าใจในจรรยาบรรณด้านนี้ได้ ตระหนักเห็นความสำคัญ ทั้งนี้สื่อจะต้องเตรียมตัวให้พร้อมอยู่เสมอ เพื่อรองรับสถานการณ์ต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น

โดยนายเทพชัย หย่อง ที่ปรึกษาสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ชี้ว่าเป็นความท้าทายของสื่อกระแสหลัก และองค์กรวิชาชีพ ที่จะกลับมามีบทบาท ทำให้สังคมเข้าใจสถานการณ์ทางการเมืองอย่างถ่องแท้รอบด้าน เที่ยงธรรม เพราะปัจจุบันสื่อใหม่มีอิทธิพลในการชี้นำทางสังคม ซึ่งการแสดงจุดยืนถือเป็นเรื่องรอง

 


นายวิวัฒน์ จันทสุวรรณโณ รองหัวหน้าแผนกข่าวในประเทศ ททบ.5  มองว่า สื่อหลักต้องเป็นตัวยืน ในการนำเสนอข่าวสาร  แต่ปัญหาคือ สื่อ โซเชียลมีเดีย เข้ามามีบทบาท และล้ำหน้าสื่อหลักไปแล้ว เข้าถึงคนมากขึ้น ทำให้ผู้คน รับสารจากสื่อหลักน้อยลง ดังนั้น จึงต้องทบทวนว่า สื่อหลักจะทำอย่างไรในการนำเสนอข้อเท็จจริง และให้เข้าถึงผู้คนมากขึ้น

นายสำราญ ฉัตรโท รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายข่าว ช่อง 3 มองว่า การปฏิรูปประเทศเป็นคำตอบระยะต้นเพื่อหาทางออกประเทศ ซึ่งวิกฤติประเทศเวลานี้ถือเป็นโอกาสที่ไทยจะเข้าสู่ประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม ก้าวข้ามประชาธิปไตยแบบตัวแทน ทุกภาคส่วนต้องร่วมกันในการนำเสนอในสังคมรับรู้และเข้าในถึงระบอบประชาธิปไตย ซึ่งต้องสร้างกระบวนการสร้างการมีส่วนร่วม ต้องแยกประเด็นปัญหาให้ออก หากทำได้ก็ไม่จำเป็นต้องยุบสภาหรือเลือกตั้งใหม่ หรือรัฐประหาร เพราะกระบวนการการมีส่วนร่วมถือเป็นแก่นแท้ที่ให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการพัฒนาภายใต้ระบอบประชาธิปไตยดังนั้นสื่อควรกำหนดบทบาทความเป็นกลาง ในสถานการณ์ที่จะปฏิรูปประเทศ ว่าจะเสนอข่าวอย่างไรให้ประเทศหลุดพ้นวิกฤติไปได้

นายคฑาธร อัศววิรัฐติกรณ์ ตัวแทนช่อง 7 เห็นว่า บทบาทของสื่อมวลชนมีอิทธิพลแรงกดดันให้การชุมนุมเป็นไปตามกรอบความสันติ ดังนั้นจึงเป็นโจทย์ในภารกิจการเสนอข่าวในการชุมนุมที่จะมีขึ้นอีกในไม่กี่วันนี้ และจะช่วยเหลือ พร้อมเสนอให้สื่อเป็นคนกลางประสานให้เวทีปฏิรูปประเทศของรัฐบาลและเวทีสภาประชาชน มาหารือผนวกรวมกัน โดยต้องไม่เปลี่ยนแปลงโมเดลของทั้ง 2 เวที

นายสุนทร ทาซ้าย บรรณาธิการ หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ กล่าวยอมรับว่า สื่อหนังสือพิมพ์ มีบทบาทความสำคัญลดน้อยลง หากเปรียบเทียบกับสื่อโทรทัศน์ วิทยุ และโซเชียลมีเดีย แต่สื่อใดยิ่งมีอำนาจมากที่สุดก็จะถูกวิพากษ์วิจารณ์มากเช่นกัน ดังนั้น การเสนอข่าวจึงต้องยึดมั่นบนพื้นฐานความเป็นจริง โดยไม่ต้องกลัวและมีอคติ (ไม่เป็นขี้ข้าใคร) แต่ยอมรับว่าการพูดเป็นเรื่องง่าย แต่การกระทำ ทำได้ยาก เช่นเดียวกับคำว่าปฏิรูป ที่ใครๆ ก็พูดได้แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่ทำกันได้ง่ายๆ

นายภัทระ คำพิทักษ์ บรรณาธิการบริหารหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ เชื่อสังคมคาดหวังว่าองค์กรวิชาชีพสื่อมีความเห็นต่อวิกฤติทางการเมืองขณะนี้อย่างไร ดังนั้นแต่ละองค์กรสื่อควรแถลงจุดยืนต่อสถานการณ์ทางการเมือง โดยเฉพาะการปฏิรูปที่ต้องทำทันที โดยไม่ต้องถกเถียงกันว่าจะต้องปฏิรูปประเทศก่อนหรือหลังการเลือกตั้ง

 

ขณะที่นายประสงค์ เลิศรัตน์วิสุทธิ์ ผู้อำนวยการบริหารสถาบันอิศรา กล่าวว่าปัจจุบันสื่อหลัก โดยเฉพาะสื่อโทรทัศน์ ให้พื้นที่และเวลาต่อการรายงานสถานการณ์ น้อยเกินไป เนื่องจากยังติดขัดในช่วงเวลาของรายการที่ทำรายได้ให้กับสถานี

ด้านนายพงษ์ศักดิ์ พยัฆวิเชียร ที่ปรึกษาสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยสื่อมวลชนว่า สื่อต้องมีจรรยาบรรณและจริยธรรมของวิชาชีพ และต้องทำหน้าที่รักษาวิชาชีพตัวเองด้วย ซึ่งการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน เป็นอาชีพที่มีผลบวก และลบในสังคม ที่อาจจะนำมาสู่ความเสียหายหรือประโยชน์ให้กับประเทศ เพราะสื่อไม่ได้ทำหน้าที่แค่เสนอข่าวสารและต้องยอมรับว่า ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในสังคม ส่วนหนึ่งก็มาจากการทำหน้าที่ของสื่อ ในการถ่ายทอดข่าวสารและเผยแพร่ข้อมูล ที่ปราศจากความเป็นจริง ภายใต้จรรยาบรรณสื่อ ดังนั้น สื่อต้องทบทวนบทบาทการทำหน้าที่ของตนเอง.

โดย: ไทยรัฐออนไลน์

18 ธันวาคม 2556, 14:50 น.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น