วันพุธ, ธันวาคม 04, 2556
พันทิป: เรื่องราวของการเผารถบัส หน้า ราชมังคลากีฬาสถาน เมื่อวานนี้
โดย สมาชิกหมายเลข 900374
ที่มา พันทิป
4 ธันวาคม 2556
หลายคนที่นำคลิปผมไปแชร์ ไปโพสต์ยืนยัน บางทีผมเข้ามาอ่านแล้วผมก็อึ้งๆ กับหลายความเห็น
ที่มา พันทิป
4 ธันวาคม 2556
หลายคนที่นำคลิปผมไปแชร์ ไปโพสต์ยืนยัน บางทีผมเข้ามาอ่านแล้วผมก็อึ้งๆ กับหลายความเห็น
ผมจะขอยืนยันในสิ่งที่ผมเห็นและบรรยายคร่าว ๆ ส่วนไม่ถูกใจฝ่ายไหนผมก็ขอโทษด้วยจริงๆ
สิ่งที่ผมยืนยันใน ณ ที่นี้ ไม่ได้ต้องการจะให้ใครเลือกข้าง แต่แค่นำเสนอในสิ่งที่ เห็น มาจริงๆ แค่นี้ครับ
ในเวลาบ่าย ๆ ของวันอาทิตย์ที่ 2 ธันวาคม ผมได้เดินเข้าไป ณ ถนนรามคำแหง เพื่อไปรับประทานอาหารยามบ่าย ( เดาะมอลล์ราม) กับเพื่อนอีกสองคน ซึ่ง พอกินเสร็จ ก็ว่าง ๆ ด้วยความอยากรู้อยากเห็น เลยตัดสินใจเดินเข้าไปด้านในเรื่อย ๆ หยิบมือถือถ่ายรูปไปนิด ๆ หน่อย ๆ เจอคนชาวบ้าน สาว ๆ หนุ่ม ๆ ยืนบ้างเดินตามข้างทาง เหมือนไม่มีอะไรรุนแรง ซึ่งทำให้ผมอยากเดินเข้าไปเรื่อย ๆ เพราะคิดว่าปลอดภัยแน่นอน
สิ่งทีเห็นขณะเดินไป ก็เห็นขบวนรถที่เข้าไปรับนักศึกษารามส่วนหนึ่งออกมา
ในเวลาบ่าย ๆ ของวันอาทิตย์ที่ 2 ธันวาคม ผมได้เดินเข้าไป ณ ถนนรามคำแหง เพื่อไปรับประทานอาหารยามบ่าย ( เดาะมอลล์ราม) กับเพื่อนอีกสองคน ซึ่ง พอกินเสร็จ ก็ว่าง ๆ ด้วยความอยากรู้อยากเห็น เลยตัดสินใจเดินเข้าไปด้านในเรื่อย ๆ หยิบมือถือถ่ายรูปไปนิด ๆ หน่อย ๆ เจอคนชาวบ้าน สาว ๆ หนุ่ม ๆ ยืนบ้างเดินตามข้างทาง เหมือนไม่มีอะไรรุนแรง ซึ่งทำให้ผมอยากเดินเข้าไปเรื่อย ๆ เพราะคิดว่าปลอดภัยแน่นอน
สิ่งทีเห็นขณะเดินไป ก็เห็นขบวนรถที่เข้าไปรับนักศึกษารามส่วนหนึ่งออกมา
http://www.youtube.com/watch?v=6TrAcMX4Iwk#t=1
เข้าไปเรื่อย ๆ พบนักข่าว ต่างชาติ สองคนเดินเข้าไปแบบชิล ๆ (ไม่รู้ว่าเป็นนักข่าวหรือเปล่า
เข้าไปเรื่อย ๆ พบนักข่าว ต่างชาติ สองคนเดินเข้าไปแบบชิล ๆ (ไม่รู้ว่าเป็นนักข่าวหรือเปล่า
แต่ห้อยบัตรที่คอ และเดินเข้าไปเรื่อยๆ )
เห็นคนอื่นเข้าไปแบบนี้ ยิ่งทำให้อยากเดินเข้าไปเรื่อยๆ (ขณะนั้นรู้สึกว่าปลอดภัยไม่มีอะไรหรอก)
ถัดไปไม่ไกล พวกผมพบกับ คนประมาณ 3 คน กำลังเคาะ (ไม่แน่ใจว่า ทุบหรือ เคาะหาของตามลำตัวรถ)
เห็นคนอื่นเข้าไปแบบนี้ ยิ่งทำให้อยากเดินเข้าไปเรื่อยๆ (ขณะนั้นรู้สึกว่าปลอดภัยไม่มีอะไรหรอก)
ถัดไปไม่ไกล พวกผมพบกับ คนประมาณ 3 คน กำลังเคาะ (ไม่แน่ใจว่า ทุบหรือ เคาะหาของตามลำตัวรถ)
รถตู้ สองคันที่ล้มอยู่ ซึ่งมีคนยืนดูอยู่ (น่าจะเป็นคนแถวนั้น) แต่ก็ไม่มีใครกล้าห้าม บางคนก็ถ่ายรูป
(ผมก็ถ่าย) ยืนได้สักพักก็เข้าไปเรื่อยๆ อีก
พอเดินถึงราชมังคลา ก็พบคนกลุ่มหนึ่ง กำลังทำอะไรกับรถบัสคันเกิดเหตุอยู่
พอเดินถึงราชมังคลา ก็พบคนกลุ่มหนึ่ง กำลังทำอะไรกับรถบัสคันเกิดเหตุอยู่
ซึ่งผมไม่คิดว่าจะมีอะไร น่าจะเป็นการทำลายรถเหมือนกับ ที่เห็นรถตู้สองคันเมื่อกี้นี้
มีชาวบ้านหลายคนยืนดูว่าทำอะไรกัน แต่ไม่มีใครห้าม เพราะคนที่ทุบตีอยุ่ก็เป็น พวกเดียวกับ กลุ่ม นศ.ราม และ ณ ที่นั้น ไม่มีคนเสื้อแดงแล้ว เพราะถ้ามี เหล่า กลุ่ม นศ.ราม ที่ยืนตามถนน ใกล้ ๆ ผม และกลางเลน ถนน ก็คงวิ่งไปหาแน่นอน แต่อันนี้ เห็นทุกคนมองเฉยๆ บางคนก็เดินเข้าไปหาแบบ ใจเย็น ทำให้แน่ใจได้ว่าเป็นเพื่อนหรือพวกเดียวกันแน่นอน
และอันนี้ เป็นคลิปที่ผมได้ถ่ายไว้ ระหว่างที่ กลุ่มคนเหล่านี้ ทุบตีรถบัส
มีชาวบ้านหลายคนยืนดูว่าทำอะไรกัน แต่ไม่มีใครห้าม เพราะคนที่ทุบตีอยุ่ก็เป็น พวกเดียวกับ กลุ่ม นศ.ราม และ ณ ที่นั้น ไม่มีคนเสื้อแดงแล้ว เพราะถ้ามี เหล่า กลุ่ม นศ.ราม ที่ยืนตามถนน ใกล้ ๆ ผม และกลางเลน ถนน ก็คงวิ่งไปหาแน่นอน แต่อันนี้ เห็นทุกคนมองเฉยๆ บางคนก็เดินเข้าไปหาแบบ ใจเย็น ทำให้แน่ใจได้ว่าเป็นเพื่อนหรือพวกเดียวกันแน่นอน
และอันนี้ เป็นคลิปที่ผมได้ถ่ายไว้ ระหว่างที่ กลุ่มคนเหล่านี้ ทุบตีรถบัส
http://www.youtube.com/watch?v=dn80lIMR-_g#t=3
คลิปนี้ เป็นคลิปที่เผารถบัส
สักพักมีรถทหารเข้ามา
ไม่แน่ใจว่ารถจะระเบิดเหมือนในหนังหรือเปล่า เลยมาถ่ายมุมนี้นิดนึงก่อนกลับ
คลิปนี้ เป็นคลิปที่เผารถบัส
สักพักมีรถทหารเข้ามา
ไม่แน่ใจว่ารถจะระเบิดเหมือนในหนังหรือเปล่า เลยมาถ่ายมุมนี้นิดนึงก่อนกลับ
http://www.youtube.com/watch?v=hUEAaH0ZDRU#t=0
ส่วนคลิปนี้ เป็นเหตุการณ์ ที่เดินออกจากที่นั้นมาได้สักพัก มีคนโวยวายว่าให้หลบออกมา ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าคืออะไร แต่วิ่งมากันก่อน และหลังจากวิ่งเลยได้ถ่ายไว้อีกนิดนึง
ส่วนคลิปนี้ เป็นเหตุการณ์ ที่เดินออกจากที่นั้นมาได้สักพัก มีคนโวยวายว่าให้หลบออกมา ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าคืออะไร แต่วิ่งมากันก่อน และหลังจากวิ่งเลยได้ถ่ายไว้อีกนิดนึง
http://www.youtube.com/watch?v=PnCDDdJ-Dlw#t=1
ที่เล่ามา ผมไม่ได้เข้าข้างฝ่ายไหน แต่เล่าไปตามสิ่งทีเห็นครับ ไม่ได้ว่า นศ.รามผิด
ที่เล่ามา ผมไม่ได้เข้าข้างฝ่ายไหน แต่เล่าไปตามสิ่งทีเห็นครับ ไม่ได้ว่า นศ.รามผิด
แต่เพราะ ผู้ร่วมอุดมการณ์ของ นศ.รามบางคน นั้นเถื่อนจริง อะไรจริง และทำให้เสียชื่อ
คนที่เขามาชุมนุมกันแบบไม่มีอาวุธ เพราะแนวหน้าติดอาวุธพวกนี้
และผมก็ไม่ได้ชื่นชมอะไรเสื้อแดงนะครับ แต่เพียงแค่ผมไปคราวนี้ พวกเสื้อแดงดันกลับหมดแล้ว
และผมก็ไม่ได้ชื่นชมอะไรเสื้อแดงนะครับ แต่เพียงแค่ผมไปคราวนี้ พวกเสื้อแดงดันกลับหมดแล้ว
เลยไม่ได้ถ่ายในสิ่งที่อีกฝ่ายกระทำมาได้
ผมเชื่อว่ามีอีกหลายคนที่เห็นเหตุการณ์นี้ แต่เพิกเฉย เพราะเป็นข้างเดียวกัน แต่ผม ไม่สนใจครับ
ผมเชื่อว่ามีอีกหลายคนที่เห็นเหตุการณ์นี้ แต่เพิกเฉย เพราะเป็นข้างเดียวกัน แต่ผม ไม่สนใจครับ
ใครผิดก็ว่ากันไปตามผิด ถูกก็ว่ากันไปตามถูก ยอมรับว่า ลึก ๆ ผมเชียร์ นศ.ราม
แต่ดันเห็นภาพแบบนี้ แล้ว ไม่มีอะไรจะพูดอีกครับ
แค่นี้ครับ ขอบคุณเพื่อน ๆ มาก (อย่าลากผมไป drama กับ สีเสื้อนะครับ ผมแค่มาพูดสิ่งที่เห็นเฉยๆ
แค่นี้ครับ ขอบคุณเพื่อน ๆ มาก (อย่าลากผมไป drama กับ สีเสื้อนะครับ ผมแค่มาพูดสิ่งที่เห็นเฉยๆ
ชมคลิป! อภิสิทธิ์ตอบอย่างไรเมื่อ BBC ถามว่า...ละอายใจหรือไม่ ?
ที่มา ข่าวสด
4 ธันวาคม 2556
4 ธันวาคม 2556
Published on Dec 3, 2013
Former PM Abhisit Vejjajiva says Yingluck Shinawatra "got her priorities wrong"
and that the government had been too slow to respond to the protestors frustrations.
Subscribe http://www.youtube.com/bbcnews
Check out our website: http://www.bbc.com/news
Facebook: http://www.facebook.com/bbcworldnews
Twitter: http://www.twitter.com/bbcworld
Instagram: http://instagram.com/bbcnews
โดย วอยซ์ทีวี
คลิกอ่านบทความต้นฉบับได้ที่http://news.voicetv.co.th/thailand/90115.html
บีบีซียิงคำถาม อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ละอายใจหรือไม่ พรรคการเมืองเก่าแก่สนับสนุนขบวนการโค่นล้มระบอบประชาธิปไตย ใช้วิถีทางรุนแรง ขณะหัวหน้าพรรคปชป.ป้อง ′สุเทพ′ ต่อสู้เพราะเสื่อมศรัทธาต่อระบบ
เมื่อวันอังคาร ผู้สื่อข่าวบีบีซี โจนาธาน เฮด ได้สัมภาษณ์แบบเผชิญหน้ากับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะพรรคการเมืองที่สนับสนุนขบวนการเรียกร้องการ "คืนอำนาจประชาชน"
ในคลิปวีดีโอ ความยาว 3:54 นาที นายอภิสิทธิ์ได้กล่าวโทษรัฐบาลของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่า มุ่งตอบสนองผลประโยชน์ของพี่ชาย ไม่ตอบสนองเสียงเรียกร้องของมวลมหาประชาชน ทำให้สถานการณ์บานปลาย พร้อมกับโจมตีนายกรัฐมนตรีว่า ไม่ได้แสดงความเสียใจ และไม่แสดงความพร้อมรับผิด
ระหว่างการสัมภาษณ์ ผู้สื่อข่าวบีบีซี ได้ตั้งคำถามถึงบทบาทของ "พรรคการเมืองเก่าแก่ที่สุดที่ได้สนับสนุนขบวนการที่ไม่เชื่อมั่นในระบอบประชาธิปไตย" และบทบาทของกลุ่มผู้ชุมนุมที่นำโดยนักการเมืองอาวุโสของประชาธิปัตย์ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ได้ใช้ "วิธีการประท้วงที่ไม่เป็นไปโดยสันติ"
ตลอดการสัมภาษณ์ ผู้สื่อข่าวบีบีซีได้ซักค้านคำตอบของหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ตั้งแต่ต้นจนจบ เมื่อถึงตอนกลางๆของการสัมภาษณ์ บรรยากาศการสนทนาได้เกิดความตึงเครียดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด สังเกตได้จากผู้สัมภาษณ์ที่พยายามย้อนถามแทรกเป็นช่วงๆ และน้ำเสียงของผู้ให้สัมภาษณ์ที่เริ่มตอบอย่างตะกุกตะกัก และต่างฝ่ายต่างมองตอบกันด้วยสายตาเย็นชา
ในการให้สัมภาษณ์ครั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ได้ "ให้ข้อมูล" และ "แสดงความเห็น" ในหลายช่วงหลายตอน ทำให้เกิดคำถามว่า สิ่งที่ผู้นำพรรคฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรพูด กับสิ่งที่เป็น "ข้อเท็จจริง" นั้น เป็นสิ่งเดียวกันหรือไม่
อภิสิทธิ์ : ผู้ประท้วงและแกนนำรู้สึกเสื่อมศรัทธากับระบบ ผมคิดว่า รัฐบาลต้องตอบสนองเพื่อฟื้นฟูความสงบเรียบร้อย แต่ไม่มีการยอมรับ ไม่มีความจริงใจ ที่จะยอมรับว่าผู้ชุมนุมมีประเด็นเรียกร้องที่ชอบธรรม
บีบีซี : แต่นั่นไม่ได้สร้างความชอบธรรมให้แก่ขบวนการที่จะโค่นล้มรัฐบาลจากการเลือกตั้ง
อภิสิทธิ์ : ฟังนะครับ ประชาชนเรียกร้องการลาออก ประชาชนเรียกร้องการยุบสภา
บีบีซี : (ย้อนถามพลางกลั้วหัวเราะ) แต่ผู้ประท้วงพยายามเข้ายึดอาคารรัฐบาลนะครับ
อภิสิทธิ์ : สิ่งที่ผู้ประท้วงได้รับจากรัฐบาลคือ ไม่มีการตอบสนอง แล้วรัฐบาลยังประกาศไม่ยอมรับคำวินิจฉัยของศาล (รัฐธรรมนูญ) ซึ่งผู้ประท้วงเห็นว่า รัฐบาลไม่ยอมรับกฎหมาย รัฐบาลได้นำพาประเทศไปถึงวงจรของการโต้เถียงกันไปมา ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมรับว่า อีกฝ่ายเคารพกฎหมาย
ดังนั้น ความรับผิดชอบในเบื้องแรกตกเป็นของนายกรัฐมนตรี ที่จะแก้ปัญหา และวิธีที่ง่ายที่สุดที่เธอควรทำไปแล้ว คือ ยุบสภา ซึ่งผมได้บอกเธอเช่นนั้นตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา และผมได้บอกไปว่า ยิ่งเร็วเท่าไหร่ยิ่งดี แต่เธอก็ปล่อยให้เรื่องสายเกินการณ์ ตอนนี้ได้เกิดเหตุรุนแรงแล้ว เกิดสภาพไร้ขื่อแป ยากที่จะหาทางออกได้แล้ว
เมื่อนายอภิสิทธิ์พูดจบ ผู้สัมภาษณ์ได้ยิงคำถามสวน ผู้สัมภาษณ์ถึงกับมีสีหน้าผงะ และตอบด้วยเสียงอันดัง ทั้งสองได้พูดสวนกัน บางตอน นายอภิสิทธิ์กล่าวตอบอย่างตะกุกตะกัก (นาทีที่ 1.30)
@ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ปราศรัยกับผู้ชุมนุมในกรุงเทพ เมื่อ 11 พฤศจิกายน 2556
บีบีซี : ท่านรู้สึกละอายใจหรือไม่ ที่พรรคการเมืองในระบอบประชาธิปไตยที่เก่าแก่ที่สุด ได้สนับสนุนโดยเปิดเผยต่อขบวนการที่ไม่เชื่อมั่นในประชาธิปไตย?
อภิสิทธิ์ : เราไม่ได้พูดว่า เราไม่ศรัทธาในประชาธิปไตย เราเพียงแต่บอกว่า เราปกป้องสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญของผู้ประท้วง พวกเขามีสิทธิ์ที่จะชุมนุมโดยสงบ มีสิทธิ์ที่จะปกป้องรัฐธรรมนูญ ด้วยสันติวิธี
บีบีซี : คุณพูดว่าเป็นการชุมนุมโดยสันติ แต่พวกเขาพยายามบุกฝ่าเครื่องกีดขวาง ยิงวัตถุระเบิดใส่ตำรวจ นั่นไม่ใช่สันติวิธี
อภิสิทธิ์ : แต่เราไม่สนับสนุนการกระทำเช่นนั้น และคุณสุเทพก็ไม่สนับสนุนการทำอย่างนั้น
บีบีซี : พรรคของท่านมองอย่างไรต่อนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรีของท่าน และเป็นผู้ใหญ่ในพรรคของท่าน ที่ได้นำการโค่นล้มระบบ?
อภิสิทธิ์ : เขาเป็นคนที่มุ่งมั่นมาก เขาเป็นนักต่อสู้ตัวจริง เขาต้องการบรรลุในสิ่งที่คิดว่าเป็นความดีสำหรับประเทศนี้ เขาลาออกจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เพราะเขารู้สึกสิ้นหวัง
บีบีซี : เขาจะรณรงค์ต่อต้านคอรัปชั่นไหม?
อภิสิทธิ์ : ไม่ แต่ประชาชนจำนวนมากออกมาสนับสนุนข้อเรียกร้องของเขา ที่จะต่อต้านคอรัปชั่น
บีบีซี : ขบวนการของเขาได้รับการสนับสนุนมากแค่ไหน?
อภิสิทธิ์ : คุณต้องดูแรงสนับสนุนที่เขาได้รับ ผมไม่ใช่คนที่จะตัดสิน แต่เขาเรียกมวลชนได้เป็นจำนวนมาก
ถึงตอนนี้ ผู้สื่อข่าวบีบีซีพยายามจะถามถึงความชอบธรรมของการประท้วงอีกครั้ง แต่นายอภิสิทธิ์ชิงตอบสวน
บีบีซี : ทำไมบรรยากาศของการประท้วง...?
อภิสิทธิ์ : ผมก็วิตก ผมไม่อยากให้ประเทศตกหล่มอยู่อย่างนี้ นับเป็นเรื่องน่าละอายที่นายกรัฐมนตรี ซึ่งอยู่ในฐานะที่จะก้าวข้ามสิ่งนี้ ไม่ได้นำพาประเทศก้าวพ้นไปจากผลประโยชน์ของพี่ชาย ไม่ได้ทำหน้าที่เป็นรัฐบาลของคนทั้งประเทศ เธอจัดลำดับความสำคัญไม่ถูกต้อง เธอนำประเทศกลับสู่สถานการณ์แบบนี้อีก ถึงเวลาที่เธอจะต้องนำประเทศออกจากวิกฤตนี้ ด้วยการแสดงความพร้อมรับผิด
ผมเรียกร้องให้ทุกฝ่ายใช้ความอดกลั้น แต่อารมณ์ของผู้ประท้วงร้อนแรงมาก หน้าที่ของเรา คือ ถอนชนวนวิกฤตนี้ คนที่จะถอดชนวนได้ดีที่สุด คือ นายกรัฐมนตรี ก่อนอื่น เธอต้องแสดงความเสียใจ และรับผิดชอบในสิ่งที่เธอได้ทำลงไป.
ที่มา : BBC News
ภาพ : AFP
คลิปฮา สภาเทือกประทาน : เจาะข่าวตื้น ตอนที่ 119
Published on Dec 3, 2013
จะเรียกเทพเทือก หรือเทพเมือก
ก็อย่ามาเหมารวมกรู เป็นมวลมหาประชาชนของมรึงเลยนะ
ถ้าคนไทยทั้งประเทศ เป็นมวลมหาประชาชนของมรึง
คงไม่แพ้เลือกตั้งมาตลอด 20 ปีหรอกนะ
ขอบคุณคลิปนี้จากรายการ เจาะข่าวตื้น ตอนที่ 119
พระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงอยู่อันดับสองผู้นำรวยสุดของโลก
ถอดความจาก 'The Richest World Leaders Are Even Richer Than We Thought' ในหนังสือพิมพ์ออนไลน์ เดอะ ฮัฟฟิงตันโพสต์ วันที่ ๓ ธันวาคม ๒๕๕๖
เคยแปลกใจกันบ้างไหมว่าพวกผู้นำประเทศที่รวยที่สุดของโลกนั้นเขารวยกันขนาดไหน ถ้าจะให้เห็นชัด ดูที่ประธานาธิบดีโอบาม่า ท่านอาจจะมั่งมีในระดับหลายล้านดอลลาร์ แต่เทียบไม่ติดกับผู้นำอื่นๆ ในยุคเดียวกันนี้
อาศัยข้อมูลเท่าที่มีให้ค้นหาได้ ฮัฟฟิงตันโพสต์ เวิร์ลด์จัดรวบรวมผู้นำรวยที่สุดของโลกซึ่งยังอยู่ในอำนาจขณะนี้ไว้ ภายในรายการประสมประเสกันไปด้วยกษัตริย์ ประธานาธิบดี สุลต่าน และราชินี ส่วนใหญ่เป็นเพศชาย (ดังที่ผู้นำของโลกมักจะเป็นเช่นนั้นเสียด้วย) เหล่านี้หมุนเกลียวไปสู่ตะวันออกกลาง โดยที่ทรัพย์ศฤงคารส่วนใหญ่ได้มาจากเส้นสายในครอบครัว ผลกำไรจากการลงทุน และในบางกรณีมาจากการปกครองอย่างฉ้อฉล อันไม่ต้องฉงนเลยว่าประชาชนในประเทศเหล่านี้มากมายใช้ชีวิตอย่างสมถะด้อยฐานะอันต้อยต่ำกว่าหลายต่อหลายเท่านัก
เพื่อการเทียบเคียง เราได้นำจีดีพี ต่อคน (ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ) มาแสดงคู่กับความมั่งคั่งส่วนบุคคลของผู้นำแต่ละประเทศไว้ แสดงให้เห็นได้ชัดในความแตกต่างระหว่างคนมั่งมีกับคนยากไร้
เชิญพบกับผู้นำที่รวยที่สุดของโลกบางท่าน
๑. วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย
ตามบันทึกของบลูมเบิร์กเชื่อว่าปูตินมีความมั่งคั่งอยู่ระหว่าง ๔๐ ถึง ๗๐ พันล้านดอลลาร์
จีดีพีต่อคนของรัสเซีย ๑๔,๐๐๐ ดอลลาร์
(ภาพ) ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน ไปร่วมงานฉลองการมอบสารตราตั้งแก่ทูตานุทูตที่สำนักเครมลินในกรุงมอสโคว์ วันที่ ๒๓ ตุลาคม ๒๕๕๖ (ภาพโดยแม็กซิม เชเมตอฟ/เอเอฟพี/เก็ตตี้อิมเมจ)
๒. ภูมิพลอดุลยเดช กษัตริย์แห่งประเทศไทย
นิตยสารฟอร์บประเมินความมั่งคั่งของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ไว้ว่าเกินกว่า ๓๐ พันล้านดอลลาร์
จีดีพีต่อคนของไทย ๔,๔๐๐ ดอลลาร์*
(ภาพ) ในภาพจากแฟ้มนี้เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๔ พระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช แห่งประเทศไทย ทรงประทับรถเข็นเสด็จออกจากโรงพยาบาลศิริราชสู่พระบรมมหาราชวังเพื่อฉลองวันเฉลิมพระชนมพรรษาในกรุงเทพฯ (ภาพเอพี/อภิชาติ วีรวงศ์)
๓. ฮัสสะนัล โบกิอะห์ สุลต่านแห่งบรูไน
สุลต่านบรูไนมีมูลค่าความมั่งคั่งอยู่ที่ ๒๐ พันล้านดอลลาร์ ตามการประเมินของฟอร์บ
จีดีพีต่อคนของบรูไน ๔๑,๐๐๐ ดอลลาร์
(ภาพ) พระบาทสมเด็จ สุลต่านฮัสสะนัล โบกิอะห์ แห่งบรูไน ดารุสลาม มาถึงการประชุมเศรษฐกิจอิสลามโลก เมื่อวันที่ ๒๙ ตุลาคม ๒๕๕๖ ที่เอ็กเซล ลอนดอน ประเทศอังกฤษ (ภาพโดยแม้ทธิว ลอยด์/เก็ตตี้อิมเมจ)
๔. อับดุลลาห์ บิน อับดุล อะซิส อัล-ซาอุด กษัตริย์แห่งซาอุดิอาราเบีย
ฟอร์บบันทึกไว้ว่าพระมหากษัตริย์แห่งซาอุดิอาราเบียทรงมั่งคั่งประมาณ ๑๘ พันล้านดอลลาร์
จีดีพีต่อคนของซาอุดิอาราเบีย ๒๑,๐๐๐ ดอลลาร์
(ภาพ) จากแฟ้มนี้เมื่อวันที่ ๒๔ มีนาคม ๒๕๕๒ กษัตริย์อับดุลลาห์ บิน อะซิส อัล-ซาอุด แห่งซาอุดิอาราเบียทรงโบกพระหัตถ์ต่อสมาชิกสมัชชาซาอุดิ ชูรา ในกรุงริยัดห์ ซาอุดิอาราเบีย (ภาพเอพี/ฮัสซัน อัมมาร์)
๕. ชี้ค คาลิฟา บิน ไซเอ็ด อัล-นาห์ยัน ประธานาธิบดีของสหอาหรับเอมิเรท และผู้ปกครองอาบู ดาบิ
ฟอร์บรายงานว่า อัล-นาห์ยัน มีมูลค่ามั่งคั่งราว ๑๕ พันล้านดอลลาร์
จีดีพีต่อคนของเอมิเรท ๔๐,๐๐๐ ดอลลาร์
(ภาพ) ประธานนาธิบดีเอมิเรท ชี้ค คาลิฟา บิน ซาเอ็ด อัล-นาห์ยัน ออกจากอาคารเลขที่ ๑๐ ถนนดาวนิ่ง ในเขตลอนดอนกลาง เมื่อ ๑ พฤษภาคม ๒๕๕๖ หลังจากเข้าประชุมกับนายกรัฐมนตรีอังกฤษ เดวิด แคเมรอน (โดยแอนดรูว์ โควี่/เอเอฟพี/เก็ตตี้อิมเมจ)
๖. ชี้ค โมฮัมเม็ด บิน ราชิด อัล-มัคทูม นายกรัฐมนตรี และรองประธานาธิบดีสหอาหรับเอมิเรท และผู้ปกครองดูไบ
ทรัพย์ศฤงคารของท่านเอเมอร์แห่งดูไบเชื่อว่าเกินกว่า ๔ พันล้านดอลลาร์ ตามข้อเขียนของฟอร์บ
จีดีพีต่อคนดูไบ ๑๖,๐๐๐ ดอลลาร์
(ภาพ) ชี้ค โมฮัมเม็ด บิน ราชิด อัล-มัคทูม ผู้ปกครองดูไบ เดินทางมาชมการแข่งม้าที่แพงที่สุดในโลกมูลค่า ๑๐ ล้านดอลลาร์ ดูไบเวิร์ลด์คัพ ณ สนามแข่งม้าเมย์ดัน ของกั๊ลฟ์เอมิเรท เมื่อวันที่ ๓๐ มีนาคม ๒๕๕๖ (โดยมาร์วัน นามานี/เอเอฟพี/เก็ตตี้อิมเมจ)
๗. ฮันส์-อดัม ที่สอง เจ้าชายแห่งลีเช็นสไตน์
นิตยสารฟอร์บคำนวณเจ้าชายองค์นี้ว่ามีความมั่งคั่งที่ ๕ พันล้านดอลลาร์
จีดีพีต่อคนของลีเช็นสไตน์ ๑๓๕,๐๐๐ ดอลลาร์
(ภาพ) เจ้าชายฮันส์-อดัม ที่สอง ของลีเช็นสไตน์ ไปร่วมพิธีมงคลสมรสของเจ้าชายกิลลอม กับเจ้าหญิงสเต็ฟฟานี่ แห่งลักเซ็มเบิร์ก ที่โบสถ์พระแม่นางแห่งลักเซ็มเบิร์ก เมื่อวันที่ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๕๕ ในกรุงลักเซ็มเบิร์ก ประเทศลักเซ็มเบิร์ก (ภาพโดยฌอน แกลลอป/เก็ตตี้อิมเมจ)
๘. คิม จอง อุน ผู้นำเกาหลีเหนือ
ตามรายงานหนังสือพิมพ์โชซุน อิลโบ ของเกาหลีใต้ คิม จองอุน สะสมเงินในบัญชีธนาคารไว้ทั่วโลกโดยใช้ชื่อผู้อื่นทั้งสิ้นประมาณ ๔ ถึง ๕ พันล้านดอลลาร์ หนังสือพิมพ์ฉบับนี้อ้างข้อมูลจากรายงานของหน่วยข่าวกรองเกาหลีใต้
จีดีพีต่อคนเกาหลีเหนือ ๑,๘๐๐ ดอลลาร์
(ภาพ) ผู้นำเกาหลีเหนือ คิม จอง อุน เดินทางมาถึงสุสานทหารสละชีพแห่งกองทัพประชาชนเกาหลี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๒๕ กรกฎาคม ๒๕๕๖ ในกรุงเปียงยาง เกาหลีเหนือ อันเป็นส่วนหนึ่งของงานฉลองครบรอบ ๖๐ ปีการลงนามพันธะกรณียุติสงคราม หยุดยั้งการเป็นปฏิปักษ์ต่อกันบนคาบสมุทรเกาหลี (ภาพเอพี/วอง เมย์-อี)
๙. โมฮัมเม็ด ที่หก กษัตริย์แห่งมอร็อคโค
ตามบันทึกของฟอร์บเช่นกันเชื่อว่า กษัตริย์แห่งมอร็อคโคทรงมีความมั่งคั่งส่วนพระองค์ ๒.๕ พันล้านดอลลาร์
จีดีพีต่อคนของมอร็อคโค ๓,๐๐๐ ดอลลาร์
(ภาพ) กษัตริย์แห่งมอร็อคโค โมฮัมเม็ด ที่หก เสด็จไปทำพิธีเปิดนิทรรศการที่หอสมุดแห่งชาติในกรุงราบัด เมื่อวันที่ ๑๖ กรกฎาคม ๒๕๕๖ (โดยฟาเดล เซ็นนา/เอเอฟพี/เก็ตตี้อิมเมจ)
๑๐. เซบาสเตียน ปิเนร่า ประธานาธิบดีแห่งชิเล
ปิเนร่าเป็นบุคคลที่รวยมากในอันดับ ๑๑ ของชิเล มูลค่าความมั่งคั่งของเขาราว ๒.๕ พันล้านดอลลาร์
จีดีพีต่อคนของชิเล ๑๕,๐๐๐ ดอลลาร์
(ภาพ) ประธานาธิบดีชิเล เซบาสเตียน ปิเนร่า ร่วมการสวนสนามของกองทัพในกรุงซานติเอโก เมื่อวันที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๕๖ ในโอกาศวันประกาศอิสรภาพของชิเลครบรอบ ๒๐๓ ปี (โดยเคลาดิโอ แซนตาน่า/เอเอฟพี/เก็ตตี้อิมเมจ)
๑๑. อัลเบิร์ต ที่สอง เจ้าชายแห่งมอนาโค
เจ้าชายแห่งราชวงศ์มอเนแกสค์นี้เป็นเจ้าของทรัพย์สินประมาณ ๑ พันล้านดอลลาร์
จีดีพีต่อคนของมอนาโค ๑๖๓,๐๐๐ ดอลลาร์
(ภาพ) เจ้าชายอัลเบิร์ต ที่สอง แห่งมอนาโค ซึ่งเป็นสมาชิกของคณะกรรมการโอลิมปิคนานาชาติระหว่างการประชุมเลือกตั้งประธานคนใหม่สมัยที่ ๑๒๕ ที่โรงแรมฮิลตัน วันที่ ๒๐ กันยายน ๒๕๕๖ ในกรุงบวยโนสไซเรส อาร์เจ็นติน่า (ภาพโดยสก็อต ฮอลเลอแรน/เก็ตตี้อิมเมจ)
๑๒. คาบูส บิน ซาอิด สุลต่านแห่งโอมาน
สุลต่านท่านนี้คาดว่ามีทรัพย์สินครอบครองราว ๗๐๐ ล้านดอลลาร์ ตามบันทึกของฟอร์บ
จีดีพีต่อคนของโอมาน ๒๓,๗๐๐ ดอลลาร์
(ภาพ) ผู้นำโอมาน สุลต่าน บิน ซาอิด ร่วมเฉลิมฉลองเป็นวันที่สามของงานครบรอบ ๔๐ ปีการขึ้นสู่บัลลังก์ ที่สนามกีฬามิดาน อัล-ฟ้าธ ในมัสกัต เมื่อ ๑ ธันวาคม ๒๕๕๓ (โดยโมฮัมเม็ด มาหจูบ/เอเอฟพี/เก็ตตี้อิมเมจ)
๑๓. ทีโอโดโร โอบิเอง งูวเอมา เอ็มบาโซโก ประธานาธิบดีแห่งอิเควตอเรียนกินี
ซีเอ็นเอ็นรายงานผ่านฟอร์บเชื่อว่าประธานาธิบดีของประเทศกินีบนเส้นศูนย์สูตรนี้มีทรัพย์ราว ๖๐๐ ล้านดอลลาร์
จีดีพีต่อคนของกินี ๒๔,๐๐๐ ดอลลาร์
(ภาพ) ประธานาธิบดี ทีโอโดโร โอบิเอง งูวเอมา เดินลงสนามไปเปิดการแข่งขัดฟุตบอลถ้วยอาฟริกันนานาชาติ ปี ๒๕๕๕ (Copa Africana de Naciones 2012) นัดสุดท้ายระหว่างแซมเบียกับไอวอรี่โคสท์ ที่สนามสเตดเดอลามิตี้ ในลิเบอร์วิล (ประเทศกาบอน) เมื่อ ๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ (โดยอิสซู้ฟ ซาโนโก/เก็ตตี้อิมเมจ)
๑๔. บาชาร์ อัสสาด ประธานาธิบดีแห่งซีเรีย
นักวิจัยระบุทรัพย์สินของอัสสาดไว้ที่ระหว่าง ๕๐๐ ล้านกับ ๑.๕ พันล้านดอลลาร์ ตามรายงานของซีเอ็นบีซี
จีดีพีต่อคนของซีเรีย ๓,๐๐๐ ดอลลาร์
(ภาพ) ในภาพที่ได้มาจากสำนักข่าวซาน่าของซีเรียนี้ ประธานาธิบดีบาชาร์ อัสสาด กำลังให้สัมภาษณ์นิตยสารเดอสปีเกิ้ลของเยอรมนีในกรุงดามัสกัส ซีเรีย เมื่อ ๗ ตุลาคม ๒๕๕๖ (ภาพเอพี/ซาน่า)
๑๕. เอลิซาเบ็ธ ที่สอง ราชีนีแห่งอังกฤษ
ทรัพย์ศฤงคารของพระราชินีประเมินว่าอยู่ที่ ๔๕๐ ล้านดอลลาร์ ตามรายงานของฟอร์บ
จีดีพีต่อคนของอังกฤษ ๓๘,๐๐๐ ดอลลาร์
(ภาพ) ราชินีเอลิซาเบ็ธ ที่สอง เสด็จศูนย์ขี่ม้าชุมชน และสมาคมม้าอีโบนี่ในบริ๊กตอน ระหว่างการเยือนโดยมีคามิลล่า ดัชเชสแห่งคอร์นวอลล์โดยเสด็จไปด้วย เมื่อ ๒๙ ตุลาคม ๒๕๕๖ ในกรุงลอนดอน อังกฤษ (ภาพโดยคริส แจ็คสัน/เก็ตตี้อิมเมจ)
๑๖. ซาบาห์ ที่สี่ อัล-อาหมัด อัล-จาเบอร์ อัล-ซาบาห์ เอเมอร์แห่งคูเวต
ความร่ำรวยของเอเมอร์ท่านนี้เชื่อว่าอยู่ที่ ๓๕๐ ล้านดอลลาร์
จีดีพีต่อคนของคูเวต ๕๖,๐๐๐ ดอลลาร์
(ภาพ) คูเวตอะเมอร์ ชี้ค ซาบาห์ อัล-อาหมัด อัล-จาเบอร์ อัล-ซาบาห์ กำลังตรวจแถวทหารกองเกียรติยศระหว่างพิธีต้อนรับที่พระราชวังจักรพรรดิในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันพุธที่ ๒๑ มีนาคม ๒๕๕๕ (ร่วมกันโดยภาพเอพี/อิตสุโอะ อิโนอุย)
๑๗. มสวาติ ที่สาม กษัตริย์แห่งสวาซีแลนด์
กษัตริย์สวาซีแลนด์องค์นี้คาดว่ามีทรัพย์สิน ๑๐๐ ล้านดอลลาร์ ตามการประเมินของฟอร์บ
จีดีพีต่อคนของสวาซีแลนด์ ๓,๐๐๐ เหรียญ
(ภาพ) กษัตริย์สวาซีแลนด์ มสวาติ ที่สาม ดูพิธีเปิดการประชุมสุดยอดชุมชนพัฒนาอาฟริกันตอนใต้ ในกรุงลูอันดา เมื่อ ๑๗ สิงหาคม ๒๕๕๔ (โดยสเต็ฟฟานี เดอ สะกูติน/เอเอฟพี/เก็ตตี้อิมเมจ)
๑๘. อิลห์ลัม อะลิเยฟ ประธานาธิบดีแห่งอะเซอไบจัน
ประธานาธิบดีของอะเซอไบจันอิลห์ลัม อะลิเยฟ และภริยา ปฏิเสธไม่ยอมเปิดเผยทรัพย์สิน แต่มีการประมาณความมั่งคั่งไว้ว่ามีหลายสิบล้านดอลลาร์อยู่ในจำนวนนั้น ตามรายงานโดย เว็บยูเรเซียเน็ต พวกลูกๆ ของประธานาธิบดีมีทรัพย์สินรวมกันไม่ต่ำกว่า ๗๕ ล้านดอลลาร์
จีดีพีต่อคนของอะเซอไบจัน ๗,๐๐๐ ดอลลาร์
(ภาพ) ประธานาธิบดีอะเซอไบจัน อิลห์ลัม อะลิเยฟ ร่วมประชุมสุดยอดของสหราชอาณาจักรของรัฐอิสระ ในนครมิ้งค์ ประเทศเบราลุส วันศุกรที่ ๒๕ ตุลาคม ๒๕๕๖ การประชุมนี้เป็นของกลุ่มประเทศโซเวียตเดิม ๑๑ แห่ง (โดยภาพเอพี/อาร์ไอเอ-โนโวสติ, มิคาอิล คลิเม็นตเยฟม, สำนักงานสื่อสารประธานาธิบดี)
หมายเหตุบรรณาธิการ (ฮัฟฟิงตันโพสต์) ซอเนีย คานธี กับอดีตเอเมอร์แห่งเคตาร์ ฮามิด บิน คาลิฟา อัล-ตานี ได้ถูกถอดชื่อออกจากรายการนี้ไป คานธีนั้นแรกเริ่มถูกนำมาเข้าอยู่ในรายนามตามที่ได้มีการจัดอันดับไว้ในแหล่งข้อมูลบนเว็บนอกสังกัดแห่งหนึ่งซึ่งต่อมาถูกตั้งข้อสงสัย คณะบรรณาธิการของเราไม่สามารถตรวจสอบยืนยันได้จึงถอดออกไปจากรายการ เราขออภัยในความสับสน ส่วนเอเมอร์แห่งเคตาร์นั้น ทามิม ลูกชายของท่านขึ้นดำรงตำแหน่งแทนในปี ๒๕๕๖
Coffee with ดร.สุรชาติ บำรุงสุข 4 12 56
ตื่นมารับอาหารสมองตอนเช้า กับรายการ Wake Up Thailand ประจำวันพุธ ที่ 4 ธันวาคม 2556 ทางช่อง VoiceTV
ข้อคิดดีๆจาก line ระหว่างพ่อกับลูก
ที่มา Sopon Pornchokchai
ลูก : พ่อครับ สภาประชาชนที่ลุงสุเทพว่าคืออะไรหรอครับ?
พ่อ : ก็คือสภาที่ประชาชนอย่างเราๆ จะได้มีส่วนร่วมในการบริหารประเทศไงล่ะลูก
ลูก : แล้วเขาจะเอาคนไทยทั้ง 70 ล้านคนใส่ไว้ในสภาหมดหรอครับ?
พ่อ : [หัวเราะ] เด็กโง่เอ่ย ใครเขาจะไปเอาคนทั้งประเทศเข้าไปอยู่ในสภาได้ล่ะลูก
ลูก : อ้าว แล้วไม่งั้นเขาจะเอาใครเข้าไปอยู่ในสภาล่ะครับ?
พ่อ : เขาก็ต้องหาตัวแทนประชาชนเข้าไปเป็นปากเป็นเสียงแทนเราไงล่ะลูก
ลูก : ถ้างั้นมันก็คือสภาผู้แทนราษฎรที่เรามีอยู่แล้วไม่ไช่หรอครับ?
พ่อ : [หงุดหงิด] สภาผู้ทงผู้แทนอะไรกัน นั่นมันระบอบทักษิณ พวกนั้นมีแต่จะเข้าไปโกงบ้านโกงเมือง
ลูก : แล้วเขาจะหาใครเข้าไปในสภาประชาชนล่ะครับ?
พ่อ : [หน้าอิ่มบุญ] ก็ต้องเป็นคนดี มีจริยธรรม ไม่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน ทำงานเพื่อบ้านเมือง
ลูก : แล้วใครจะเป็นคนสรรหาคนพวกนี้เข้าไปทำงานในสภาประชาชนล่ะครับ?
พ่อ : [หน้าอิ่มบุญ] ก็ต้องเป็นคนดี มีจริยธรรม ไม่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน ทำงานเพื่อบ้านเมือง
ลูก : เข้าใจครับ ว่าแต่ว่าคนดีที่ว่านี่มีใครบ้างหรอครับ? ลุงสุเทพและคนในพรรคของลุงสุเทพหรือเปล่าครับ?
พ่อ : ก็เป็นไปได้ แล้วก็อาจจะมีนักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญในสาขาอาชีพต่างๆ เข้ามาสรรหาคนดีเข้าสภาประชาชนด้วย
ลูก : แล้วงี้ประชาชนอย่างเราๆ จะมีส่วนร่วมอะไรกับ "สภาประชาชน" บ้างล่ะครับ ในเมื่อคนที่สรรหาก็เป็นแค่คนกลุ่มเล็กๆ ที่ไม่มีอะไรยึดโยงกับประชาชนอย่างเราๆ?
พ่อ : [หน้าคิดหนัก] …มันอยู่ที่ความไว้ใจนะลูก แค่เรารู้ว่าคนที่สรรหาเป็นคนดี มีจริยธรรม ไม่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน ทำงานเพื่อบ้านเมือง พวกเขาก็ต้องเลือกคนดี มีจริยธรรม ไม่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน เข้ามาทำงานเพื่อบ้านเมืองอยู่แล้ว
ลูก : ว่าแต่ว่า แล้วเรารู้ได้ยังไงครับว่าคนพวกนั้นเป็นคนดีจริง ถึงได้ต้องไว้ใจพวกเขาขนาดยอมยกประเทศให้ดูแล? ทั้งพ่อทั้งผมก็ไม่ได้รู้จักคนพวกนั้นเป็นการส่วนตัว ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใครทำอะไรมาบ้าง ร่ำรวยเป็นใหญ่เป็นโตขึ้นมาจากอะไร
พ่อ : [หน้ายังคิดหนักอยู่] …ของพวกนี้มันดูไม่ยากหรอลูก ไว้โตแล้วลูกจะเข้าใจเอง
ลูก : ครับพ่อ แต่แล้วทำไมลุงสุเทพถึงเรียกว่า "สภาประชาชน" ล่ะครับ ในเมื่อจริงๆ แล้วประชาชนอย่างเราๆ ก็ไม่เห็นจะมีส่วนร่วมอะไรเลย ทำไมไม่เรียกสภาลุงสุเทพ หรือสภาคนดี หรือสภาเทวดา อะไรประมาณนั้นล่ะครับ? ถ้าเป็นสภาประชาชนจริง ทำไมไม่ให้ประชาชนอย่างเราๆ เลือกผู้แทนเข้าไปในสภาเองล่ะครับ?
พ่อ : [หงุดหงิด] ให้ประชาชนเลือกผู้แทนเองน่ะหรอ นั่นมันระบอบทักษิณ ประชาชนมันโง่จะตาย เลือกตั้งกี่ทีก็เลือกแต่พวกโกงบ้านโกงเมืองเข้ามากัดกินประเทศ
ลูก : พ่อก็เป็นประชาชนคนนึง คุณปู่คุณย่าที่บ้านนอกก็เป็นประชาชนเหมือนกัน แต่ผมว่าพ่อกับคุณปู่คุณย่าไม่ได้โง่นะครับ ทำไมพ่อถึงบอกว่าประชาชนโง่ล่ะครับ?
พ่อ : [กลับมาใจเย็น] พ่อไม่ได้ว่าตระกูลเราโง่ แต่คนอื่นเราไม่รู้ เห็นกี่ทีๆก็เลือกแต่พวกโกงชาติอย่างนี้ถ้าไม่เรียกโง่แล้วจะเรียกว่าอะไรล่ะลูก
ลูก : จริงครับพ่อ คนเราอาจจะไม่ฉลาดอย่างพ่อไปซะทุกคน แต่ถึงขนาดคนตั้ง 15 ล้านคนโง่เลยเลือกทักษิณนี่ พ่อว่ามันเป็นไปได้หรอครับ?
พ่อ : ก็ถึงว่าไง เราถึงปล่อยให้ประชาชนบริหารประเทศเองไม่ได้ ต้องเอาคนดี มีจริยธรรม ไม่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน เข้ามาทำงานเพื่อบ้านเมือง
ลูก : ครับพ่อ แต่ผมจำได้ที่โรงเรียนครูสอนว่า การปกครองที่ผูกขาดอำนาจการบริหารอยู่กับคนกลุ่มเล็กๆ กลุ่มเดียวโดยที่ประชาชนไม่มีส่วนร่วมด้วย เขาเรียกว่า "เผด็จการ" หรือไม่ก็ "คอมมิวนิสต์" ไม่ใช่หรอครับ? แล้วมันสภาประชาชนยังไงครับพ่อ?
พ่อ : ก็คือสภาที่ประชาชนอย่างเราๆ จะได้มีส่วนร่วมในการบริหารประเทศไงล่ะลูก
ลูก : แล้วเขาจะเอาคนไทยทั้ง 70 ล้านคนใส่ไว้ในสภาหมดหรอครับ?
พ่อ : [หัวเราะ] เด็กโง่เอ่ย ใครเขาจะไปเอาคนทั้งประเทศเข้าไปอยู่ในสภาได้ล่ะลูก
ลูก : อ้าว แล้วไม่งั้นเขาจะเอาใครเข้าไปอยู่ในสภาล่ะครับ?
พ่อ : เขาก็ต้องหาตัวแทนประชาชนเข้าไปเป็นปากเป็นเสียงแทนเราไงล่ะลูก
ลูก : ถ้างั้นมันก็คือสภาผู้แทนราษฎรที่เรามีอยู่แล้วไม่ไช่หรอครับ?
พ่อ : [หงุดหงิด] สภาผู้ทงผู้แทนอะไรกัน นั่นมันระบอบทักษิณ พวกนั้นมีแต่จะเข้าไปโกงบ้านโกงเมือง
ลูก : แล้วเขาจะหาใครเข้าไปในสภาประชาชนล่ะครับ?
พ่อ : [หน้าอิ่มบุญ] ก็ต้องเป็นคนดี มีจริยธรรม ไม่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน ทำงานเพื่อบ้านเมือง
ลูก : แล้วใครจะเป็นคนสรรหาคนพวกนี้เข้าไปทำงานในสภาประชาชนล่ะครับ?
พ่อ : [หน้าอิ่มบุญ] ก็ต้องเป็นคนดี มีจริยธรรม ไม่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน ทำงานเพื่อบ้านเมือง
ลูก : เข้าใจครับ ว่าแต่ว่าคนดีที่ว่านี่มีใครบ้างหรอครับ? ลุงสุเทพและคนในพรรคของลุงสุเทพหรือเปล่าครับ?
พ่อ : ก็เป็นไปได้ แล้วก็อาจจะมีนักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญในสาขาอาชีพต่างๆ เข้ามาสรรหาคนดีเข้าสภาประชาชนด้วย
ลูก : แล้วงี้ประชาชนอย่างเราๆ จะมีส่วนร่วมอะไรกับ "สภาประชาชน" บ้างล่ะครับ ในเมื่อคนที่สรรหาก็เป็นแค่คนกลุ่มเล็กๆ ที่ไม่มีอะไรยึดโยงกับประชาชนอย่างเราๆ?
พ่อ : [หน้าคิดหนัก] …มันอยู่ที่ความไว้ใจนะลูก แค่เรารู้ว่าคนที่สรรหาเป็นคนดี มีจริยธรรม ไม่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน ทำงานเพื่อบ้านเมือง พวกเขาก็ต้องเลือกคนดี มีจริยธรรม ไม่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน เข้ามาทำงานเพื่อบ้านเมืองอยู่แล้ว
ลูก : ว่าแต่ว่า แล้วเรารู้ได้ยังไงครับว่าคนพวกนั้นเป็นคนดีจริง ถึงได้ต้องไว้ใจพวกเขาขนาดยอมยกประเทศให้ดูแล? ทั้งพ่อทั้งผมก็ไม่ได้รู้จักคนพวกนั้นเป็นการส่วนตัว ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใครทำอะไรมาบ้าง ร่ำรวยเป็นใหญ่เป็นโตขึ้นมาจากอะไร
พ่อ : [หน้ายังคิดหนักอยู่] …ของพวกนี้มันดูไม่ยากหรอลูก ไว้โตแล้วลูกจะเข้าใจเอง
ลูก : ครับพ่อ แต่แล้วทำไมลุงสุเทพถึงเรียกว่า "สภาประชาชน" ล่ะครับ ในเมื่อจริงๆ แล้วประชาชนอย่างเราๆ ก็ไม่เห็นจะมีส่วนร่วมอะไรเลย ทำไมไม่เรียกสภาลุงสุเทพ หรือสภาคนดี หรือสภาเทวดา อะไรประมาณนั้นล่ะครับ? ถ้าเป็นสภาประชาชนจริง ทำไมไม่ให้ประชาชนอย่างเราๆ เลือกผู้แทนเข้าไปในสภาเองล่ะครับ?
พ่อ : [หงุดหงิด] ให้ประชาชนเลือกผู้แทนเองน่ะหรอ นั่นมันระบอบทักษิณ ประชาชนมันโง่จะตาย เลือกตั้งกี่ทีก็เลือกแต่พวกโกงบ้านโกงเมืองเข้ามากัดกินประเทศ
ลูก : พ่อก็เป็นประชาชนคนนึง คุณปู่คุณย่าที่บ้านนอกก็เป็นประชาชนเหมือนกัน แต่ผมว่าพ่อกับคุณปู่คุณย่าไม่ได้โง่นะครับ ทำไมพ่อถึงบอกว่าประชาชนโง่ล่ะครับ?
พ่อ : [กลับมาใจเย็น] พ่อไม่ได้ว่าตระกูลเราโง่ แต่คนอื่นเราไม่รู้ เห็นกี่ทีๆก็เลือกแต่พวกโกงชาติอย่างนี้ถ้าไม่เรียกโง่แล้วจะเรียกว่าอะไรล่ะลูก
ลูก : จริงครับพ่อ คนเราอาจจะไม่ฉลาดอย่างพ่อไปซะทุกคน แต่ถึงขนาดคนตั้ง 15 ล้านคนโง่เลยเลือกทักษิณนี่ พ่อว่ามันเป็นไปได้หรอครับ?
พ่อ : ก็ถึงว่าไง เราถึงปล่อยให้ประชาชนบริหารประเทศเองไม่ได้ ต้องเอาคนดี มีจริยธรรม ไม่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน เข้ามาทำงานเพื่อบ้านเมือง
ลูก : ครับพ่อ แต่ผมจำได้ที่โรงเรียนครูสอนว่า การปกครองที่ผูกขาดอำนาจการบริหารอยู่กับคนกลุ่มเล็กๆ กลุ่มเดียวโดยที่ประชาชนไม่มีส่วนร่วมด้วย เขาเรียกว่า "เผด็จการ" หรือไม่ก็ "คอมมิวนิสต์" ไม่ใช่หรอครับ? แล้วมันสภาประชาชนยังไงครับพ่อ?
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น